• สรุปข่าวราคาทองคำ ประจำวันที่ 7 สิงหาคม 2567

    7 สิงหาคม 2567 | Gold News

 

 ข่าวเกี่ยวกับทองคำ


  • สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดลบในวันอังคาร เนื่องจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์และการพุ่งขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐเป็นปัจจัยกดดันตลาด อย่างไรก็ตามราคาทองคำยังคงได้แรงหนุนสถานการณ์ตึงเครียดในตะวันออกกลางซึ่งเป็นปัจจัยหนุนแรงซื้อสินทรัพย์ปลอดภัย

  • ราคาทองคำตลาดโลก ปรับตัวลดลง -21.19 เหรียญ หรือ -0.88% อยู่ที่ระดับ 2,390.2 เหรียญ
  • สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 12.80 ดอลลาร์ หรือ 0.52% ปิดที่ 2,431.60 ดอลลาร์/ออนซ์
  • สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนก.ย. เพิ่มขึ้น 0.9 เซนต์ หรือ 0.03% ปิดที่ 27.216 ดอลลาร์/ออนซ์
  • สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนต.ค. เพิ่มขึ้น 4.70 ดอลลาร์ หรือ 0.51% ปิดที่ 920.20 ดอลลาร์/ออนซ์

  • กองทุนทองคำ SPDR วันก่อนหน้าซื้อเข้า 3.16 ตัน ปัจจุบันถือครองที่ 848.06 ตันภาพรวมเดือนสิงหาคม ซื้อสุทธิ 2.01 ตัน ขณะที่ปีนี้ ตั้งแต่ 1 ม.ค. - ปัจจุบัน ขายสุทธิ 31.05 ตัน

  • ราคาทองคำร่วงลงหลังจากการขายทิ้งอย่างหนักในช่วงก่อนหน้า เนื่องจากตลาดหุ้นเริ่มฟื้นตัว ข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่ออกมาแย่กว่าคาด และการแข็งค่าของดอลลาร์สหรัฐฯ ส่งผลให้ความคาดหวังในการลดอัตราดอกเบี้ยของเฟดลดลง ซึ่งเป็นปัจจัยลบต่อราคาทองคำ นอกจากนี้ การขายทองคำเพื่อชดเชยการขาดทุนในสินทรัพย์อื่นๆ ก็เป็นอีกปัจจัยที่กดดันราคาทองคำ 


  • นักวิเคราะห์กล่าวว่า การที่นักลงทุนมีความเชื่อมั่นมากขึ้นว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนก.ย.ช่วยให้หนุนราคาทองคำปรับตัวขึ้นได้ นอกจากนี้ สถานการณ์ตึงเครียดในตะวันออกกลางที่มีแนวโน้มรุนแรงและลุกลามเป็นวงกว้าง ยังทำให้ทองคำมีความน่าดึงดูดในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย โดยเขาคาดว่าปัจจัยเหล่านี้จะช่วยหนุนราคาทองคำพุ่งขึ้นแตะระดับ 2,500 ดอลลาร์ในไม่ช้านี้

 

ข่าวเกี่ยวกับค่าเงิน และธนาคารกลาง


  • ดัชนีดอลลาร์ ปรับตัวขึ้น 0.17 จุด หรือ 0.17% มาอยู่ที่ระดับ 102.95 จุด
  • อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี ปรับตัวขึ้น 0.1 % มาอยู่ที่ระดับ 3.896% ในขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 2 ปี ปรับตัวขึ้น 0.05 % มาอยู่ที่ระดับ 3.979% โดยที่ส่วนต่างอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ 10 ปี น้อยกว่า 2 ปี เท่ากับ-0.08% อยู่ในภาวะ inverted yield curve


  • โมฮัมเหม็ด เอล-เอเรียน นักเศรษฐศาสตร์ชื่อดัง เตือนว่า ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะทำผิดพลาดอย่างใหญ่หลวง หากยอมลดอัตราดอกเบี้ยตามแรงกดดันจากนักลงทุน โดยมองว่า การลดอัตราดอกเบี้ยในช่วงนี้เป็นการตอบสนองที่เกินความจำเป็น และอาจส่งผลเสียต่อเศรษฐกิจในระยะยาว


  • นักเศรษฐศาสตร์วอลล์สตรีทมองว่า ความวิตกกังวลของนักลงทุนเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจถดถอยนั้นเกินจริง แม้ว่าข้อมูลเศรษฐกิจล่าสุดจะบ่งชี้ว่าความเสี่ยงของภาวะเศรษฐกิจถดถอยเพิ่มขึ้น แต่การเคลื่อนไหวของตลาดในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมานั้นถือเป็นปฏิกิริยาเกินจริง นักเศรษฐศาสตร์หลายคนมองว่า ตลาดกำลังประเมินการลดอัตราดอกเบี้ยมากเกินไป


  • นักลงทุนจับตาการประชุมประจำปีของเฟดที่เมืองแจ็กสัน ง ในวันที่ 22-24 ส.ค.นี้ เพื่อหาสัญญาณบ่งชี้ทิศทางอัตราดอกเบี้ยของเฟดในปีนี้ และมีการคาดการณ์ว่านายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟดอาจจะส่งสัญญาณเกี่ยวกับแนวโน้มการปรับลดอัตราดอกเบี้ย


ข่าวเกี่ยวกับตลาดหุ้นและเศรษฐกิจ


  • ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเกือบ 300 จุดในวันอังคาร เนื่องจากการแสดงความเห็นเชิงบวกของเจ้าหน้าที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ช่วยให้นักลงทุนคลายความกังวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจถดถอยในสหรัฐและกลับเข้าซื้อหุ้นอีกครั้ง


  • ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 38,997.66 จุด เพิ่มขึ้น 294.39 จุด หรือ +0.76%
  • ดัชนี S&P500 ปิดที่ 5,240.03 จุด เพิ่มขึ้น 53.70 จุด หรือ +1.04% และ
  • ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 16,366.85 จุด เพิ่มขึ้น 166.77 จุด หรือ +1.03%


  • เจ้าหน้าที่เฟดหลายรายไม่เห็นด้วยกับมุมมองที่ว่า ตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนก.ค.ของสหรัฐที่ขยายตัวต่ำกว่าคาดนั้นหมายถึงเศรษฐกิจกำลังเข้าสู่ภาวะถดถอย ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่เฟดได้สนับสนุนให้คณะกรรมการเฟดเริ่มปรับลดอัตราดอกเบี้ยเพื่อหลีกเลี่ยงผลลัพธ์ดังกล่าว


  • แบล็กร็อก ซึ่งเป็นบริษัทบริหารสินทรัพย์รายใหญ่ที่สุดในโลกคาดการณ์ว่า ตลาดหุ้นสหรัฐจะปรับตัวขึ้นต่อไป เนื่องจากนักลงทุนเริ่มคลายความวิตกเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจถดถอย โดยแบล็กร็อกมองว่าตัวเลขจ้างงานที่อ่อนแอเกินคาดของสหรัฐนั้นเกิดจากการชะลอตัวของการจ้างงาน ไม่ใช่เกิดจากภาวะเศรษฐกิจถดถอย และการที่อัตราว่างงานพุ่งขึ้นเกิดจากการเพิ่มขึ้นของปริมาณแรงงานอันเนื่องมาจากแรงงานต่างชาติที่อพยพเข้าสู่สหรัฐ ไม่ใช่เกิดจากการเลิกจ้างของบริษัท ซึ่งถือเป็นปัจจัยที่แตกต่างจากการเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอยก่อนหน้านี้


  • JP Morgan เตือนการพยายามถอนหรือ Unwind "Yen Carry Trade" ที่เป็นต้นตอของ Black Monday เพิ่งดำเนินการไปได้แค่เพียงครึ่งทางเท่านั้น และคาดว่าความผันผวนยังคงมีเพิ่มขึ้นอีก

ข่าวเกี่ยวกับน้ำมัน

 

  • สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกในวันอังคาร โดยได้แรงหนุนจากการคาดการณ์ที่ว่าสถานการณ์ตึงเครียดในตะวันออกกลางจะส่งผลให้เกิดภาวะอุปทานน้ำมันตึงตัว นอกจากนี้ การฟื้นตัวของตลาดการเงินทั่วโลกยังเป็นปัจจัยบวกต่อบรรยากาศการซื้อขายในตลาดน้ำมัน
  • สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.ย. เพิ่มขึ้น 26 เซนต์ หรือ 0.36% ปิดที่ 73.20 ดอลลาร์/บาร์เรล
  • ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนต.ค. เพิ่มขึ้น 18 เซนต์ หรือ 0.24% ปิดที่ 76.48 ดอลลาร์/บาร์เรล
  • รายงานการผลิตน้ำมันในแหล่งน้ำมันชารารา (Sharara) ของลิเบียปรับตัวลง 300,000 บาร์เรล/วัน ยังเพิ่มความกังวลเกี่ยวกับภาวะอุปทานตึงตัว โดยบรรษัทน้ำมันแห่งชาติ (National Oil Corp) ของลิเบียประกาศว่าจะเริ่มปรับลดการผลิตจากแหล่งน้ำมันดังกล่าวอย่างค่อยเป็นค่อยไป เนื่องจากผลกระทบของเหตุการณ์ประท้วง
  • ตลาดยังได้ปัจจัยบวกหลังจากสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) ออกรายงานเมื่อวานนี้ว่า สต็อกน้ำมันดิบทั่วโลกปรับตัวลดลงราว 400,000 บาร์เรล/วันในช่วงครึ่งแรกของปี 2567 และคาดว่าสต็อกน้ำมันดิบจะปรับตัวลง 800,000 บาร์เรล/วันในช่วงครึ่งหลังของปี 2567
  • นักวิเคราะห์จากโกลด์แมน แซคส์มองว่า ความเสี่ยงที่สหรัฐจะเผชิญภาวะเศรษฐกิจถดถอยนั้นมีไม่มากนัก และเชื่อว่าในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้านี้ ราคาน้ำมันจะได้แรงหนุนจากอุปสงค์ที่แข็งแกร่งในอินเดียและประเทศฝั่งตะวันตก

 

ข่าวเกี่ยวกับเศรษฐกิจไทยและค่าเงินบาท


  • ค่าเงินบาทเริ่มเผชิญความเสี่ยงด้านอ่อนค่ามากขึ้น ควรระวังความผันผวนของค่าเงินบาทในช่วงตลาดทยอยรับรู้คำวินิจฉัยในคดียุบพรรคก้าวไกลอาจส่งผลต่อบรรยากาศในตลาดการเงิน

  • ค่าเงินบาทเปิดเช้านี้ ที่ระดับ  35.49 บาทต่อดอลลาร์แข็งค่าขึ้นเล็กน้อยจากระดับปิดวันก่อนหน้า ที่ระดับ  35.53 บาทต่อดอลลาร์ มองกรอบเงินบาทวันนี้ คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 35.40-35.65 บาท/ดอลลาร์

 

ที่มาจาก : Reuters, Infoquest, BangkokBizNews

Tags : ข่าวทอง, ข่าวทอง , ทอง , ราคาทอง

 



บริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ จำกัด
40,42,44 ถนนทรัพย์สิน แขวงวังบูรพาภิรมย์เขตพระนคร กรุงเทพ 10200
โทรศัพท์ 0 2770 7777 โทรสาร 0 2623 9366 E-mail: support@mtsgoldgroup.com