MTS Help Center

 ข่าวเกี่ยวกับทองคำ

• สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกในวันพุธ โดยได้แรงหนุนจากความหวังที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนก.ย. อย่างไรก็ดี ราคาทองคำปรับตัวขึ้นเพียงเล็กน้อย เนื่องจากการแข็งค่าของดอลลาร์และการพุ่งขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐเป็นปัจจัยฉุดตลาด

• ราคาทองคำตลาดโลก ปรับตัวลดลง -8.73 เหรียญ หรือ -0.37% อยู่ที่ระดับ 2,381.47 เหรียญ
• สัญญาทองคำตลาด COMEX ส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 80 เซนต์ หรือ 0.03% ปิดที่ 2,432.40 เหรียญ
• สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนก.ย. ลดลง 27.20 เซนต์ หรือ 1% ปิดที่ 26.944 เหรียญ
• สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนต.ค. เพิ่มขึ้น 9.50 เหรียญ หรือ 1.03% ปิดที่ 929.70 เหรียญ
• กองทุนทองคำ SPDR วันก่อนหน้าขายออก 4.02 ตัน ปัจจุบันถือครองที่ 844.04 ตันภาพรวมเดือนสิงหาคม ขายสุทธิ 2.01 ตัน ขณะที่ปีนี้ ตั้งแต่ 1 ม.ค. - ปัจจุบัน ขายสุทธิ 35.07 ตัน

• ราคาทองคำได้รับปัจจัยบวกจากการที่นักลงทุนคาดการณ์ว่า เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.50% ในการประชุมเดือนก.ย. นอกจากนี้ นักลงทุนมองว่า สถานการณ์ตึงเครียดในตะวันออกกลางจะเป็นปัจจัยหนุนราคาทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย

• อย่างไรก็ดี การแข็งค่าของดอลลาร์และการพุ่งขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐได้สกัดแรงบวกของราคาทองคำ โดยดัชนีดอลลาร์ ปรับตัวขึ้น 0.22% แตะที่ระดับ 103.197 และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปีพุ่งขึ้นเหนือระดับ 3.9%

ข่าวเกี่ยวกับค่าเงิน และธนาคารกลาง

• ดัชนีดอลลาร์ ปรับตัวขึ้น 0.14 จุด หรือ 0.14% มาอยู่ที่ระดับ 103.09 จุด
• อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี ปรับตัวขึ้น 0.05 % มาอยู่ที่ระดับ 3.947% ในขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 2 ปี ปรับตัวลดลง -0.02 % มาอยู่ที่ระดับ 3.962% โดยที่ส่วนต่างอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ 10 ปี น้อยกว่า 2 ปี เท่ากับ-0.02% อยู่ในภาวะ inverted yield curve

• ซีอีโอของโกลด์แมน แซคส์ กรุ๊ป อิงค์ คาดการณ์ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะไม่ดำเนินมาตรการฉุกเฉินในการปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง ขณะที่เขาเชื่อว่า เศรษฐกิจสหรัฐจะหลีกเลี่ยงภาวะถดถอยได้

• ธนาคารเจพีมอร์แกน เชส แอนด์ โค ปรับเพิ่มโอกาสที่เศรษฐกิจสหรัฐฯ จะเข้าสู่ภาวะถดถอยภายในสิ้นปีนี้ จากเดิม 25% เป็น 35% เนื่องจากสัญญาณเศรษฐกิจสหรัฐฯ ล่าสุดบ่งชี้ถึงการอ่อนตัวของตลาดแรงงานที่รุนแรงกว่าคาด นอกจากนี้ เจพีมอร์แกนยังปรับลดโอกาสที่เฟด จะคงอัตราดอกเบี้ยไว้ในระดับสูงเป็นเวลานาน จากเดิม 50% เหลือเพียง 30% ซึ่งเจพีมอร์แกนมองว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯ มีแนวโน้มอ่อนตัวลง และเฟดอาจปรับลดอัตราดอกเบี้ยเร็วกว่าที่คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้

• รองผู้ว่าการธนาคารกลางญี่ปุ่นส่งสัญญาณแบบ "นกพิราบ" (dovish) ที่ชัดเจน โดยระบุว่าธนาคารกลางจะไม่ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในช่วงที่ตลาดการเงินมีความผันผวนสูง คำพูดดังกล่าวทำให้ค่าเงินเยนอ่อนค่าลงอย่างรวดเร็ว และตลาดหุ้นญี่ปุ่นปรับตัวดีขึ้น โดยเป็นการคลายความกังวลของนักลงทุนเกี่ยวกับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของญี่ปุ่นในระยะใกล้

• นักเศรษฐศาสตร์บางรายคาดการณ์ว่า ธนาคารกลางจีนอาจลดอัตราดอกเบี้ยอีก 2-3 ครั้งในปีนี้ ซึ่งจะเป็นการผ่อนคลายนโยบายการเงินที่ใหญ่ที่สุดในรอบหลายปี หลังจากที่ตลาดการเงินโลกเริ่มคลายความกดดันเกี่ยวกับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟด

ข่าวเกี่ยวกับตลาดหุ้นและเศรษฐกิจ

• ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบในวันพุธ ขณะที่ดัชนี Nasdaq ดิ่งลงกว่า 1% โดยตลาดถูกกดดันจากการร่วงลงของหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปีที่พุ่งขึ้นหลังจากผลการประมูลพันธบัตรบ่งชี้ถึงอุปสงค์ที่อ่อนแอ

• ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 38,763.45 จุด ลดลง 234.21 จุด หรือ -0.60%
• ดัชนี S&P500 ปิดที่ 5,199.50 จุด ลดลง 40.53 จุด หรือ -0.77% 
• ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 16,195.81 จุด ลดลง 171.05 จุด หรือ -1.05%

• นักวิเคราะห์ของโกลด์แมน แซคส์คาดว่า ปริมาณการส่งออกสินค้าส่วนเกินของจีนจะลดลงในอีกไม่กี่ปีข้างหน้านี้ อย่างไรก็ตาม สถานการณ์ที่ดีขึ้นนี้ไม่มีแนวโน้มที่จะเกิดขึ้นกับรถยนต์ไฟฟ้า (EV) และเหล็กซึ่งปริมาณผลผลิตส่วนเกินมีแนวโน้มที่จะยังคงดำเนินต่อไป

ข่าวเกี่ยวกับน้ำมัน

• สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นกว่า 2% ในวันพุธ หลังสหรัฐเปิดเผยสต็อกน้ำมันดิบลดลงมากกว่าคาด นอกจากนี้ ตลาดยังได้แรงหนุนจากการคาดการณ์ที่ว่า สถานการณ์ตึงเครียดในตะวันออกกลางและการที่ลิเบียลดการผลิตน้ำมันอาจจะส่งผลกระทบต่ออุปทานน้ำมันในตะวันออกกลาง

• สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.ย. เพิ่มขึ้น 2.03 ดอลลาร์ หรือ 2.77% ปิดที่ 75.23 ดอลลาร์/บาร์เรล
• สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนต.ค. เพิ่มขึ้น 1.85 ดอลลาร์ หรือ 2.42% ปิดที่ 78.33 ดอลลาร์/บาร์เรล

• สำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบรายสัปดาห์ของสหรัฐลดลง 3.7 ล้านบาร์เรล มากกว่าที่นักวิเคราะห์ในโพลสำรวจของรอยเตอร์คาดว่าจะลดลงเพียง 700,000 บาร์เรล และเป็นการปรับตัวลงติดต่อกัน 6 สัปดาห์

• ลิเบียได้ปรับลดการผลิตน้ำมันในแหล่งน้ำมันชารารา (Sharara) ลง 300,000 บาร์เรล/วัน ซึ่งข่าวดังกล่าวทำให้เกิดความกังวลเกี่ยวกับภาวะอุปทานตึงตัวและเป็นปัจจัยหนุนราคาน้ำมัน โดยบรรษัทน้ำมันแห่งชาติ (National Oil Corp) ของลิเบียได้ประกาศภาวะสุดวิสัย (Force Majeure) ที่บ่อน้ำมันชาราราเมื่อวานนี้ และจะเริ่มปรับลดการผลิตจากแหล่งน้ำมันดังกล่าวอย่างค่อยเป็นค่อยไป เนื่องจากผลกระทบของเหตุการณ์ประท้วง

ข่าวเกี่ยวกับเศรษฐกิจไทยและค่าเงินบาท

• นักบริหารการเงิน เปิดเผยว่า ค่าเงินบาทเปิดเช้านี้ ที่ระดับ 35.60 บาทต่อดอลลาร์ “แข็งค่าขึ้นเล็กน้อย” จากระดับปิดวันก่อนหน้า ที่ระดับ  35.66 บาทต่อดอลลาร์ มองกรอบเงินบาทวันนี้ คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 35.45-35.70 บาทต่อดอลลาร์

• รมช.คลัง ยอมรับว่ามีความเป็นไปได้ตามที่นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ระบุว่า อยากให้ “ดิจิทัลวอลเล็ต” สามารถเริ่มใช้ได้ภายใน พ.ย. 67 เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ ซึ่งเป็นไปตามกรอบระยะเวลาที่รัฐบาลกำหนดในไตรมาส 4 โดยขณะนี้ทุกหน่วยงานได้เร่งดำเนินการทำให้เร็วและปลอดภัยที่สุด เพื่อลดความเดือดร้อนของประชาชน

• กกร. เปิดเผยว่า ที่ประชุม กกร.ได้ประเมินสถานการณ์เศรษฐกิจไทยในระยะข้างหน้าว่ายังมีความเปราะบาง แม้การเบิกจ่ายงบประมาณของรัฐ จะเริ่มนำเม็ดเงินเข้ามาสู่ระบบเศรษฐกิจมากขึ้น การเร่งเบิกจ่ายงบประมาณ ทำให้การใช้จ่ายของรัฐกลับมาขยายตัวเฉลี่ยสูงกว่ากว่า 15% ในเดือนพ.ค.-มิ.ย.67

ที่มาจาก : Reuters, Infoquest, BangkokBizNews

Tags : ข่าวทอง, ข่าวทอง , ทอง , ราคาทอง