• สรุปข่าวราคาทองคำ ประจำวันที่ 14 สิงหาคม 2567

    14 สิงหาคม 2567 | Gold News


ข่าวเกี่ยวกับทองคำ


  • สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกในวันอังคาร หลังสหรัฐเปิดเผยดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ที่ต่ำกว่าคาด ซึ่งทำให้นักลงทุนมีความหวังมากขึ้นว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนก.ย. นอกจากนี้ ราคาทองคำยังได้แรงหนุนจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์และการร่วงลงของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ


  • ราคาทองคำตลาดโลก ปรับตัวลดลง -4.03 เหรียญ หรือ -0.16% อยู่ที่ระดับ 2,466.36 เหรียญ
  • สัญญาทองคำตลาด COMEX ส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 3.80 เหรียญ หรือ 0.15% ปิดที่ 2,507.80 เหรียญ
  • สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนก.ย. ลดลง 22.2 เซนต์ หรือ 0.79% ปิดที่ 27.786 เหรียญ
  • สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนต.ค. ลดลง 70 เซนต์ หรือ 0.07% ปิดที่ 945.90 เหรียญ
  • กองทุนทองคำ SPDR วันก่อนหน้าขายออก 4.03 ตัน ปัจจุบันถือครองที่ 845.76 ตันภาพรวมเดือนสิงหาคม ขายสุทธิ 0.29 ตัน ขณะที่ปีนี้ ตั้งแต่ 1 ม.ค. - ปัจจุบัน ขายสุทธิ 33.35 ตัน


  • นักวิเคราะห์สินค้าโภคภัณฑ์จาก ING Bank ระบุว่า ทองคำยังคงให้ความสำคัญกับขนาดและช่วงเวลาของการลดอัตราดอกเบี้ยของเฟด โดยคาดว่าการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ในเดือนพฤศจิกายน และการลดอัตราดอกเบี้ยของเฟด จะช่วยหนุนราคาทองคำให้ปรับตัวสูงขึ้นต่อเนื่องจนถึงสิ้นปี


ข่าวเกี่ยวกับค่าเงิน และธนาคารกลาง


  • ดัชนีดอลลาร์ ปรับตัวลดลง -0.48 จุด หรือ -0.47% มาอยู่ที่ระดับ 102.61 จุด
  • อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี  ปรับตัวลดลง -0.06 % มาอยู่ที่ระดับ 3.845% ในขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 2 ปี ปรับตัวลดลง -0.09 % มาอยู่ที่ระดับ 3.934% โดยที่ส่วนต่างอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ 10 ปี น้อยกว่า 2 ปี เท่ากับ-0.09% อยู่ในภาวะ inverted yield curve


  • ราฟาเอล บอสติก ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ สาขาแอตแลนตา กล่าวว่า ต้องการเห็นข้อมูลเศรษฐกิจเพิ่มเติมก่อนจะสนับสนุนการลดอัตราดอกเบี้ย โดยเน้นย้ำว่าต้องการความมั่นใจว่าเฟดจะไม่ต้องปรับขึ้นดอกเบี้ยอีกครั้งหลังจากเริ่มลดดอกเบี้ยแล้ว

ข่าวเกี่ยวกับตลาดหุ้นและเศรษฐกิจ


  • ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นกว่า 400 จุดในวันอังคาร หลังสหรัฐเปิดเผยดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ที่ต่ำกว่าคาด ซึ่งทำให้นักลงทุนมีความเชื่อมั่นว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนก.ย.


  • ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 39,765.64 จุด เพิ่มขึ้น 408.63 จุด หรือ +1.04%
  • ดัชนี S&P500 ปิดที่ 5,434.43 จุด เพิ่มขึ้น 90.04 จุด หรือ +1.68% 
  • ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 17,187.61 จุด เพิ่มขึ้น 407.00 จุด หรือ +2.43%


  • กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนี PPI ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อจากการใช้จ่ายของผู้ผลิต ปรับตัวขึ้น 2.2% ในเดือนก.ค. เมื่อเทียบรายปี ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 2.3% จากระดับ 2.7% ในเดือนมิ.ย.


  • ส่วนดัชนี PPI พื้นฐาน (Core PPI) ซึ่งไม่นับรวมหมวดอาหารและพลังงาน เพิ่มขึ้น 2.4% ในเดือนก.ค. เมื่อเทียบรายปี ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 2.7% จากระดับ 3.0% ในเดือนมิ.ย.


  • กรรมการผู้จัดการด้านการซื้อขายหลักทรัพย์ของบริษัท Wedbush Securities กล่าวว่าตัวเลขดัชนี PPI พื้นฐานเป็นปัจจัยสนับสนุนมุมมองที่ว่า เฟดได้ดำเนินการอย่างดีเยี่ยมในการทำให้เงินเฟ้ออยู่ในระดับที่สามารถควบคุมได้ และทำให้ตลาดมีความมั่นใจมากขึ้นว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในไม่ช้านี้ ขณะเดียวกันนักลงทุนจับตาการเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ในวันพุธนี้ ซึ่งข้อมูลดังกล่าวจะมีอิทธิพลต่อความเคลื่อนไหวในตลาดอย่างมาก


  • ผลสำรวจความคิดเห็นผู้จัดการกองทุนทั่วโลกโดยแบงก์ ออฟ อเมริกา (BofA) ระบุว่า ผู้จัดการกองทุนแห่ถือเงินสดมากขึ้น พร้อมกับลดสัดส่วนการลงทุนในหุ้นลงในเดือนส.ค. เนื่องจากความเชื่อมั่นต่อการเติบโตของเศรษฐกิจโลกดิ่งลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 8 เดือน


  • ตลาดการเงินกังวลเศรษฐกิจสหรัฐฯ อาจถดถอยมากขึ้น โดยเฉพาะหลังจากที่ตลาดคาดการณ์ว่าเฟดจะลดดอกเบี้ยเร็วขึ้น ทางด้าน Goldman Sachs และ JPMorgan ประเมินจากการเคลื่อนไหวของตลาดตราสารหนี้และหุ้นกลุ่มเศรษฐกิจว่า โอกาสเกิดภาวะถดถอยเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ โดย Goldman คาดการณ์โอกาสอยู่ที่ 41% จากเดิม 29% ในเดือนเมษายน ส่วน JPMorgan ประเมินอยู่ที่ 31% เพิ่มขึ้นจาก 20% เมื่อสิ้นเดือนมีนาคม สาเหตุหลักมาจากการที่ตลาดคาดการณ์ว่าเฟดจะลดอัตราดอกเบี้ยเร็วขึ้น และหุ้นกลุ่มเศรษฐกิจปรับตัวลดลง


  • รัฐสภาญี่ปุ่นจะจัดการประชุมพิเศษในวันที่ 23 ส.ค.นี้ เพื่อหารือกันเกี่ยวกับกรณีที่ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ตัดสินใจปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเมื่อเดือนก.ค.


ข่าวเกี่ยวกับน้ำมัน


  • สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดลบในวันอังคาร เนื่องจากนักลงทุนมีความกังวลน้อยลงเกี่ยวกับความเป็นไปได้ที่สงครามในตะวันออกกลางจะลุกลามเป็นวงกว้าง อันเนื่องมาจากอิหร่านยังไม่ได้ดำเนินการตามคำขู่ที่จะโจมตีอิสราเอลเพื่อตอบโต้กรณีแกนนำกลุ่มฮามาสถูกลอบสังหารในกรุงเตหะราน


  • สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.ย. ลดลง 1.71 ดอลลาร์ หรือ 2.14% ปิดที่ 78.35 ดอลลาร์/บาร์เรล
  • สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนต.ค. ลดลง 1.61 ดอลลาร์ หรือ 1.96% ปิดที่ 80.69 ดอลลาร์/บาร์เรล


  • นักวิเคราะห์จากบริษัท Price Futures Group กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ตลาดคาดการณ์ว่าอิหร่านจะโจมตีอิสราเอลภายในเวลา 24-48 ชั่วโมง แต่นับจนถึงขณะนี้ก็ยังไม่เกิดขึ้น ซึ่งทำให้นักลงทุนมองว่าความเสี่ยงที่สงครามในตะวันออกกลางจะลุกลามนั้น มีน้อยลง


  • รายงานล่าสุดระบุว่า เจ้าหน้าที่ระดับสูงของอิหร่านส่งสัญญาณว่า หากอิสราเอลยอมทำข้อตกลงหยุดยิงกับกลุ่มฮามาสในฉนวนกาซา ก็อาจทำให้อิหร่านตัดสินใจที่จะไม่ตอบโต้อิสราเอลในกรณีการลอบสังหารนายอิสมาอิล ฮานิเยห์ ผู้นำฝ่ายการเมืองของกลุ่มฮามาส


  • นอกจากนี้ ราคาน้ำมันยังถูกกดดันจากการที่กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) ปรับลดคาดการณ์อุปสงค์น้ำมันในปี 2567 โอเปกคาดการณ์ว่าอุปสงค์น้ำมันทั่วโลกจะเพิ่มขึ้นเพียง 2.11 ล้านบาร์เรล/วันในปี 2567 ซึ่งลดลง 135,000 บาร์เรล/วันจากตัวเลขคาดการณ์ในเดือนก.ค. นอกจากนี้โอเปกยังคาดการณ์ว่าอุปสงค์น้ำมันจะเพิ่มขึ้นเพียง 1.78 ล้านบาร์เรล/วันในปี 2568 ซึ่งลดลงจากตัวเลขคาดการณ์ในเดือนก.ค.ที่คาดว่าอุปสงค์น้ำมันจะเพิ่มขึ้น 1.85 ล้านบาร์เรล/วัน

ข่าวเกี่ยวกับการเมือง


  • กองทัพอากาศยูเครนออกแถลงการณ์ว่า รัสเซียได้ส่งโดรนชาเฮด (Shahed) จำนวน 38 ลำเข้ามายังดินแดนยูเครนเมื่อคืนวันจันทร์ และระบบป้องกันทางอากาศสามารถสกัดโดรนดังกล่าวไว้ได้จำนวนมากถึง 30 ลำ


  • ทำเนียบขาวเปิดเผยว่า ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐได้หารือกับผู้นำฝรั่งเศส, เยอรมนี, อิตาลี และอังกฤษ เกี่ยวกับแนวทางการลดความตึงเครียดในตะวันออกกลาง และการทำข้อตกลงหยุดยิงในฉนวนกาซา

ข่าวเกี่ยวกับเศรษฐกิจไทยและค่าเงินบาท


  • นักบริหารการเงิน เปิดเผยว่า ค่าเงินบาทเปิดเช้านี้ ที่ระดับ 35.03 บาทต่อดอลลาร์แข็งค่าขึ้นจากระดับปิดวันก่อนหน้า ที่ระดับ  35.16 บาทต่อดอลลาร์ มองกรอบเงินบาทวันนี้ คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 34.85-35.25 บาทต่อดอลลาร์ (ควรระวังความผันผวนในช่วงตลาดรับรู้คำวินิจฉัยคดีถอดถอนนายกฯ และ ช่วงทยอยรับรู้รายงานอัตราเงินเฟ้อ CPI สหรัฐฯ)

 

 


ที่มาจาก : Reuters, Infoquest, BangkokBizNews

Tags : ข่าวทอง, ข่าวทอง , ทอง , ราคาทอง

บริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ จำกัด
40,42,44 ถนนทรัพย์สิน แขวงวังบูรพาภิรมย์เขตพระนคร กรุงเทพ 10200
โทรศัพท์ 0 2770 7777 โทรสาร 0 2623 9366 E-mail: support@mtsgoldgroup.com