MTS Help Center

• สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นในวันศุกร์ โดยได้แรงหนุนจากดอลลาร์ที่อ่อนค่าลงจากการคาดการณ์ที่เพิ่มขึ้นว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงในเดือนก.ย. นอกจากนี้ ความตึงเครียดในตะวันออกกลางได้หนุนความต้องการทองคำด้วย

• ราคาทองคำตลาดโลก ปรับตัวขึ้น 50.42 เหรียญ หรือ 2.05% อยู่ที่ระดับ 2,506.53 เหรียญ
• สัญญาทองคำตลาด COMEX ส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 45.40 เหรียญ หรือ 1.82% ปิดที่ 2,537.80 เหรียญ และปรับตัวขึ้น 2.8% ในรอบสัปดาห์นี้
• สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 0.436 เหรียญ หรือ 1.51% ปิดที่ 29.264 เหรียญ
• สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนต.ค. ลดลง 2.70 เหรียญ หรือ 0.28% ปิดที่ 962.40 เหรียญ
• กองทุนทองคำ SPDR วันก่อนหน้าซื้อเข้า 7.19 ตัน ปัจจุบันถือครองที่ 854.97 ตันภาพรวมเดือนสิงหาคม ซื้อสุทธิ 8.92 ตัน ขณะที่ปีนี้ ตั้งแต่ 1 ม.ค. - ปัจจุบัน ขายสุทธิ 24.14 ตัน

• ดัชนีดอลลาร์ลดลง 0.4% และลดลงเป็นสัปดาห์ที่ 4 แล้ว ซึ่งทำให้ทองคำมีราคาน่าดึงดูดใจสำหรับนักลงทุนที่ถือครองสกุลเงินอื่น ๆ

• หัวหน้านักวิเคราะห์ตลาดของเกนส์วิลล์ คอยน์ กล่าวว่า “ความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ที่ยังคงดำเนินอยู่ และความขัดแย้งที่อาจทวีความรุนแรงมากขึ้นที่อิหร่านอาจเข้าไปเกี่ยวข้อง รวมถึงสงครามในยูเครน ล้วนเป็นปัจจัยที่ส่งผลต่อความต้องการทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย”  

• ผลสำรวจความคิดเห็นนักวิเคราะห์และนักลงทุนรายย่อยล่าสุดจาก Kitco News Weekly Gold Survey ชี้ว่า ผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมและนักลงทุนส่วนใหญ่เชื่อว่าราคาทองคำสามารถพุ่งทะลุระดับสูงสุดตลอดกาลได้ต่อในสัปดาห์นี้

• Adam Button หัวหน้ากลยุทธ์ด้านอัตราแลกเปลี่ยนจาก Forexlive.com มองว่า นักลงทุนควรซื้อทองคำเมื่อราคาทะลุแนวต้าน เขาสังเกตว่า ความแข็งแกร่งของราคาทองคำในวันศุกร์อาจได้รับแรงหนุนจากข่าวที่ว่าธนาคารจีนได้รับโควตาซื้อทองคำเพิ่มขึ้น

• ธนาคารจีนหลายแห่งได้รับโควตาการนำเข้าทองคำใหม่จากธนาคารกลางจีน (PBOC) โดยคาดว่าความต้องการทองคำจะฟื้นตัวขึ้น แม้ราคาจะอยู่ที่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ก็ตาม ตามแหล่งข่าวระบุว่า โควตาใหม่นี้มีเป้าหมายเพื่อช่วยให้ PBOC ควบคุมปริมาณทองคำที่เข้าสู่ประเทศจีน ซึ่งโควตานี้จะได้รับการอนุมัติในเดือนสิงหาคมนี้ หลังจากหยุดพักไปสองเดือนเนื่องจากความต้องการทองคำแท่งชะตัวลงหลังจากตลาดทองคำปรับตัวสูงขึ้นอย่างมาก

ข่าวเกี่ยวกับค่าเงิน และธนาคารกลาง

• ดัชนีดอลลาร์ ปรับตัวลดลง -0.63 จุด หรือ -0.61% มาอยู่ที่ระดับ 102.4 จุด
• อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี  ปรับตัวลดลง -0.01 % มาอยู่ที่ระดับ 3.905% ในขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 2 ปี ปรับตัวลดลง -0.01 % มาอยู่ที่ระดับ 4.085% โดยที่ส่วนต่างอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ 10 ปี น้อยกว่า 2 ปี เท่ากับ-0.18% อยู่ในภาวะ inverted yield curve

• นายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) มีกำหนดกล่าวสุนทรพจน์เกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจในวันศุกร์ที่ ซึ่งเป็นวันแรกของการประชุมเศรษฐกิจประจำปีของเฟดสาขาแคนซัสซิตี้ในแจ็กสันโฮล รัฐไวโอมิง

• นายออสตัน กูลส์บี ประธานเฟดสาขาชิคาโก กล่าวว่า เศรษฐกิจสหรัฐไม่ได้แสดงสัญญาณว่าร้อนแรงเกินไป ดังนั้น เจ้าหน้าที่ธนาคารกลางควรระมัดระวังในการคงนโยบายที่เข้มงวดไว้นานเกินกว่าที่จำเป็น

• นายเอเดรียน ออร์ ผู้ว่าการธนาคารกลางนิวซีแลนด์ (RBNZ) ส่งสัญญาณเตรียมลดอัตราดอกเบี้ยลงอีก 0.50% ภายในสิ้นปีนี้ ซึ่งสะท้อนความมุ่งมั่นในการผ่อนคลายนโยบายการเงินอย่างเด็ดขาด

• นางมิเชล บูลล็อก ผู้ว่าการธนาคารกลางออสเตรเลีย (RBA) ได้แถลงว่า แม้ตลาดการเงินคาดการณ์ว่าจะมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยหลังมีการเปิดเผยข้อมูลเงินเฟ้อในสหรัฐและออสเตรเลีย แต่เธอมองว่าขณะนี้ยังเร็วเกินไปที่ RBA จะพิจารณาเรื่องการปรับลดอัตราดอกเบี้ย

• นายพาน กงเซิ่ง ผู้ว่าการธนาคารกลางจีน (PBOC) ให้คำมั่นว่าจะเดินหน้าสนับสนุนการฟื้นตัวของเศรษฐกิจภายในประเทศ อย่างไรก็ดี นายพานมีท่าทีระมัดระวังที่จะไม่ใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจมากจนเกินไป

• ความไม่แน่นอนทางการเมืองภายหลังการตัดสินใจของนายฟูมิโอะ คิชิดะ นายกรัฐมนตรีของญี่ปุ่นที่จะก้าวลงจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรีนั้น คาดว่าจะทำให้ BOJ ชะลอแผนการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยจากระดับใกล้ 0% แทนที่จะหยุดชะงักโดยสิ้นเชิง

ข่าวเกี่ยวกับตลาดหุ้นและเศรษฐกิจ

• ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกในวันศุกร์ และปรับตัวขึ้นรายสัปดาห์เป็นเปอร์เซ็นต์มากที่สุดในรอบปีนี้ หลังนักลงทุนคลายความวิตกเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจถดถอยในสหรัฐ และมุ่งความสนใจไปที่การสัมมนาด้านเศรษฐกิจที่แจ็กสันโฮลในสัปดาห์หน้า.

• ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 40,659.76 จุด เพิ่มขึ้น 96.70 จุด หรือ +0.24%
• ดัชนี S&P500 ปิดที่ 5,554.25 จุด เพิ่มขึ้น 11.03 จุด หรือ +0.20% 
• ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 17,631.72 จุด เพิ่มขึ้น 37.22 จุด หรือ +0.21%

• ดัชนี S&P500 และ Nasdaq ปรับตัวขึ้นเป็นวันที่ 7 ติดต่อกัน หลังราคาหุ้นฟื้นตัวจากการร่วงลงเมื่อ 2 สัปดาห์ก่อน

• ดัชนีทั้งสามตัวปรับตัวขึ้นรายสัปดาห์คิดเป็นเปอร์เซ็นต์สูงสุดนับตั้งแต่ช่วงปลายเดือนต.ค. 2566 ขณะที่ดัชนี S&P500 และ Nasdaq ปรับตัวขึ้นรายสัปดาห์ได้เป็นครั้งแรกในรอบ 5 สัปดาห์

ข่าวเกี่ยวกับน้ำมัน

• สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงเกือบ 2% ในวันศุกร์ แต่แทบไม่เปลี่ยนแปลงในรอบสัปดาห์นี้ และราคาน้ำมันดิบเบรนท์ลดต่ำกว่าระดับ 80 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ขณะที่นักลงทุนลดคาดการณ์เกี่ยวกับการขยายตัวของอุปสงค์จากจีนซึ่งเป็นผู้นำเข้าน้ำมันรายใหญ่

• สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.ย. ลดลง 1.51 เหรียญ หรือ 1.9% ปิดที่ 76.65 เหรียญ
• สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนต.ค. ลดลง 1.36 เหรียญ หรือ 1.7% ปิดที่ 79.68 เหรียญ

• ข้อมูลจากจีนแสดงให้เห็นว่าเศรษฐกิจของจีนชะลอตัวในเดือนก.ค. โดยราคาบ้านใหม่ลดลงในอัตราที่เร็วที่สุดในรอบ 9 ปี, ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมชะลอตัว และอัตราการว่างงานเพิ่มขึ้น ซึ่งทำให้นักลงทุนกังวลเกี่ยวกับอุปสงค์ที่ลดลงจากจีนซึ่งเป็นผู้นำเข้าน้ำมันรายใหญ่ โดยโรงกลั่นได้ลดอัตราการกลั่นน้ำมันดิบลงอย่างมากในเดือนที่แล้ว เนื่องจากความต้องการเชื้อเพลิงซบเซา

• นายกาวราฟ ชาร์มา นักวิเคราะห์น้ำมันอิสระกล่าวว่า ราคาน้ำมันอาจปรับตัวไร้ทิศทางชัดเจนไปจนกว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะตัดสินใจว่าจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงหรือไม่ในการประชุมเดือนก.ย.

 

ข่าวเกี่ยวกับการเมือง

• เจ้าหน้าที่ระดับสูงของกลุ่มฮามาสกล่าวว่า “การบุกโจมตีอย่างต่อเนื่องของอิสราเอลในฉนวนกาซานั้นขัดขวางความพยายามในการบรรลุข้อตกลงหยุดยิง” 

ข่าวเกี่ยวกับเศรษฐกิจไทยและค่าเงินบาท

• นักบริหารการเงิน เปิดเผยว่า ค่าเงินบาทเปิดเช้านี้ ที่ระดับ 34.59 บาทต่อดอลลาร์ “แข็งค่าขึ้นมาก” จากระดับปิดสัปดาห์ก่อนหน้า ที่ระดับ  34.99 บาทต่อดอลลาร์ มองกรอบค่าเงินบาทสัปดาห์นี้ ที่ระดับ 34.35-35.15 บาทต่อดอลลาร์ ส่วนกรอบเงินบาทวันนี้ คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 34.45-34.70 บาทต่อดอลลาร์

• มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ระบุว่า หลังจากนายกรัฐมนตรีหลุดจากตำแหน่งโดยศาลรัฐธรรมนูญสามารถเลือกนายกรัฐมนตรีคนใหม่ได้ทันทีทำให้ผลกระทบระยะสั้นเบาลง ผลกระทบและความเสียหายทางเศรษฐกิจ การแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน และภาคการลงทุน จะจำกัดลงได้ระดับหนึ่งในระยะสั้นด้วยการตั้งรัฐบาลให้เสร็จสิ้นโดยเร็ว ความล่าช้าในการพิจารณางบประมาณปี 68 เกิดขึ้นแน่ การขยับโครงการลงทุนภาครัฐและนโยบายต่าง ๆ ของรัฐบาลต้องช้าออกไป ขณะเดียวกันก็อาจมีมาตรการและนโยบายบางส่วนถูกทบทวนหรือยกเลิกไป เช่น นโยบายแจกเงินดิจิทัลวอลเล็ต และการให้เช่าที่ดิน 99 ปี เป็นต้น

• ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมเดือนก.ค.67 อยู่ที่ระดับ 89.3 เพิ่มขึ้นจากระดับ 87.2 ในเดือนมิ.ย. โดยดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรม ปรับตัวเพิ่มขึ้นเป็นครั้งแรกในรอบ 4 เดือน ตามการเพิ่มขึ้นของอุปสงค์ในประเทศกลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภค

 

 

ที่มาจาก : Reuters, Infoquest, BangkokBizNews

Tags : ข่าวทอง, ข่าวทอง , ทอง , ราคาทอง