• สรุปข่าวราคาทองคำ ประจำวันที่ 22 สิงหาคม 2567

    22 สิงหาคม 2567 | Gold News


ข่าวเกี่ยวกับทองคำ


  • สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดลบในวันพุธ อย่างไรก็ดี สัญญาทองคำยังคงเคลื่อนไหวใกล้ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ หลังจากรายงานการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) บ่งชี้ว่าเฟดมีแนวโน้มที่จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนก.ย. ขณะที่นักลงทุนจับตาการกล่าวสุนทรพจน์ของนายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟด ในการประชุมที่เมืองแจ็กสัน โฮล เพื่อหาสัญญาณที่ชัดเจนเกี่ยวกับทิศทางอัตราดอกเบี้ยเฟด


  • ราคาทองคำตลาดโลก ปรับตัวลดลง -1.64 เหรียญ หรือ -0.07% อยู่ที่ระดับ 2,512.22 เหรียญ
  • สัญญาทองคำตลาด COMEX ส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 3.10 จุด 0.12% ปิดที่ 2,547.50 เหรียญ
  • สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 1.8 เซนต์ หรือ 0.06% ปิดที่ 29.971 เหรียญ
  • กองทุนทองคำ SPDR วันก่อนหน้าขายออก 0.57 ตัน ปัจจุบันถือครองที่ 856.7 ตันภาพรวมเดือนสิงหาคม ซื้อสุทธิ 10.65 ตัน ขณะที่ปีนี้ ตั้งแต่ 1 ม.ค. - ปัจจุบัน ขายสุทธิ 22.41 ตัน


ข่าวเกี่ยวกับค่าเงิน และธนาคารกลาง


  • ดัชนีดอลลาร์ ปรับตัวลดลง -0.21 จุด หรือ -0.21% มาอยู่ที่ระดับ 101.13 จุด
  • อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี  ปรับตัวลดลง -0.01 % มาอยู่ที่ระดับ 3.803% ในขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 2 ปี ปรับตัวลดลง -0.05 % มาอยู่ที่ระดับ 3.937% โดยที่ส่วนต่างอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ 10 ปี น้อยกว่า 2 ปี เท่ากับ-0.13% อยู่ในภาวะ inverted yield curve


  • คณะกรรมการเฟดเปิดเผยรายงานการประชุมนโยบายการเงินประจำวันที่ 30-31 ก.ค. โดยระบุว่ากรรมการเฟดส่วนใหญ่มีความเห็นว่า หากข้อมูลที่เฟดได้รับมานั้นยังคงเป็นไปตามที่คาดการณ์ไว้ ก็เป็นเรื่องเหมาะสมที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมครั้งถัดไป คือในวันที่ 17-18 ก.ย.โดยหลังจากเฟดเปิดเผยรายงานการประชุมดังกล่าว ดัชนีดอลลาร์ร่วงลงแตะระดับต่ำสุดในรอบกว่า 7 เดือน และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปีร่วงลงแตะระดับต่ำสุดในรอบกว่า 2 สัปดาห์


ข่าวเกี่ยวกับตลาดหุ้นและเศรษฐกิจ


  • ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกในวันพุธ หลังจากรายงานการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เป็นปัจจัยสนับสนุนการคาดการณ์ที่ว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนก.ย. อย่างไรก็ดี ตลาดปรับตัวในกรอบแคบ ๆ เนื่องจากนักลงทุนประเมินรายงานการทบทวนตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐ


  • ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 40,890.49 จุด เพิ่มขึ้น 55.52 จุด หรือ +0.14%
  • ดัชนี S&P500 ปิดที่ 5,620.85 จุด เพิ่มขึ้น 23.73 จุด หรือ +0.42% 
  • ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 17,918.99 จุด เพิ่มขึ้น 102.05 จุด หรือ +0.57%


  • กระทรวงแรงงานสหรัฐประกาศทบทวนตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรในช่วง 12 เดือน (เม.ย. 2566 – มี.ค. 2567) โดยได้ปรับลดตัวเลขจ้างงานในช่วงเวลาดังกล่าวลงเกือบ 30% หรือปรับลดลง 818,000 ตำแหน่ง จากที่มีการรายงานก่อนหน้านี้ที่ระดับ 2.9 ล้านตำแหน่ง ซึ่งเป็นการปรับลดการประเมินตัวเลขจ้างงานลงมากที่สุดนับตั้งแต่เกิดวิกฤตการเงินโลก และสะท้อนให้เห็นว่าตลาดแรงงานสหรัฐชะลอตัวลงมากกว่าที่มีการรายงานก่อนหน้านี้


  • กระทรวงการคลังญี่ปุ่นเปิดเผยรายงานเบื้องต้นว่า ญี่ปุ่นขาดดุลการค้า 6.218 แสนล้านเยน (4.3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ) ในเดือนก.ค. 2567 หลังจากเพิ่งเกินดุลครั้งแรกในรอบ 3 เดือนเมื่อเดือนมิ.ย.ที่ผ่านมา

  • ธนาคารกลางออสเตรเลีย (RBA) กำลังเผชิญแรงกดดันมหาศาลให้ลดอัตราดอกเบี้ยในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า ท่ามกลางสถานการณ์ที่รัฐบาลอัดฉีดเงินช่วยเหลือค่าครองชีพ ดึงดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ลดฮวบ แม้เงินเฟ้อพื้นฐานยังคงอยู่ในระดับสูง

ข่าวเกี่ยวกับน้ำมัน


  • สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดลบในวันพุธ (21 ส.ค.) หลังจากกระทรวงแรงงานสหรัฐปรับลดการประเมินตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรลงอย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งทำให้นักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐ


  • สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.ย. ลดลง 1.24 ดอลลาร์ หรือ 1.69% ปิดที่ 71.93 ดอลลาร์/บาร์เรล
  • สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนต.ค. ลดลง 1.15 ดอลลาร์ หรือ 1.49% ปิดที่ 76.05 ดอลลาร์/บาร์เรล


  • นักวิเคราะห์จากบริษัท Price Futures Group กล่าวว่า ราคาน้ำมันปรับตัวลง จากข้อมูลการปรับลดการประเมินตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตร ทำให้ตลาดเริ่มกังวลว่าเศรษฐกิจสหรัฐอาจจะเผชิญภาวะฮาร์ดแลนดิง


  • โกลด์แมน แซคส์คาดว่า ราคาน้ำมันดิบเบรนท์จะร่วงลงสู่ระดับ 68 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลภายในปลายปีหน้า ถ้าความต้องการน้ำมันของจีนยังคงทรงตัวไปจนถึงปลายปีหน้า

ข่าวเกี่ยวกับการเมือง


  • กองทัพยูเครนกดดันรัสเซียอย่างหนัก ส่งฝูงโดรนติดอาวุธโจมตีกรุงมอสโกครั้งใหญ่ที่สุดอีกครั้ง โดยกองทัพรัสเซียสามารถยิงสกัดโดรนตกถึง 45 ลำ ขณะกองทัพยูเครนส่งกำลังทหารบุกข้ามพรมแดนเข้ามาในแคว้นคูสค์ ทางภาคตะวันตกของรัสเซีย 

ข่าวเกี่ยวกับเศรษฐกิจไทยและค่าเงินบาท


  • นักบริหารการเงิน เปิดเผยว่า ค่าเงินบาทเปิดเช้านี้ ที่ระดับ 34.26 บาทต่อดอลลาร์แข็งค่าขึ้นเล็กน้อยจากระดับปิดวันก่อนหน้า ที่ระดับ  34.34 บาทต่อดอลลาร์ มองกรอบเงินบาทวันนี้ คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 34.15-34.40 บาทต่อดอลลาร์  
  • ที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) มีมติไม่เป็นเอกฉันท์ 6 ต่อ 1 เสียง ให้คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายอยู่ที่ 2.50% ต่อปี ซึ่งเป็นไปตามที่ตลาดคาดการณ์ โดย 1 เสียง เห็นควรให้ลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 0.25% ต่อปี


  • ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวถึงสถานการณ์เงินบาทที่ผันผวนและแข็งค่าเร็วในระยะนี้ว่า เงินบาทยังเคลื่อนไหวในทิศทางที่สอดคล้องกับสกุลเงินในตลาดโลก และในภูมิภาค แม้จะมีความผันผวนอยู่บ้าง แต่เมื่อเทียบกับช่วงต้นปีแล้ว แทบจะไม่เปลี่ยนแปลง อย่างไรก็ดี สาเหตุการแข็งค่าของเงินบาท มาจากการอ่อนค่าลงของเงินดอลลาร์เป็นสำคัญ เนื่องจากการที่ตลาดปรับมุมมองว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะลดดอกเบี้ยเร็วขึ้น และอาจจะมากขึ้นกว่าที่คาดไว้ ประกอบกับปัจจัยเฉพาะของไทย เช่น ทองคำราคาดี ทำให้มีการส่งออกทองคำมาก นอกจากนี้ การเมืองไทยในช่วง 2-3 วันที่ผ่านมาเริ่มมีความชัดเจนมากขึ้น ซึ่งอาจจะช่วยมุมมองเรื่องความมีเสถียรภาพ


  • รมช.คลัง กล่าวถึงกระแสข่าวการปรับเงื่อนไขโครงการดิจิทัลวอลเล็ตเป็นการแจกเงินให้กลุ่มเปราะบางก่อนผ่านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐว่า มีหลายแนวคิด แต่ยังไม่ขอตอบในประเด็นรายละเอียด มีโอกาสเปลี่ยนเป็นทุกอย่าง เราได้คิดแล้ว พูดคุยบ้างแล้ว แต่เมื่อยังไม่มีข้อตกลงออกมาจากพรรคร่วมรัฐบาล จึงยังพูดมากกว่านี้ไม่ได้ แต่ความชัดเจนจะออกมาเร็ว ๆ นี้ เพราะคณะรัฐมนตรีชุดใหม่จะแถลงนโยบายในช่วงต้นเดือน ก.ย.


  • ฟิทช์คาดการณ์กรณีรัฐบาลเดินหน้าโครงการดิจิทัลวอลเล็ตว่า การขาดดุลทางการคลังของไทยจะเพิ่มขึ้นจาก 2.0% ในปีงบประมาณ 2566 เป็น 4.3% ของจีดีพีในปีงบประมาณ 2567 และ 4.4% ในปีงบประมาณ 2568 ซึ่งจะสูงกว่าเมื่อเทียบกับค่ากลางของประเทศในกลุ่มที่มีอันดับเครดิต BBB ด้วยกัน ซึ่งคาดว่าจะอยู่ที่ 3.2% ในปีงบ 2567 และ 3.0% ในปีงบ 2568

 

 

ที่มาจาก : Reuters, Infoquest, BangkokBizNews

Tags : ข่าวทอง, ข่าวทอง , ทอง , ราคาทอง

บริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ จำกัด
40,42,44 ถนนทรัพย์สิน แขวงวังบูรพาภิรมย์เขตพระนคร กรุงเทพ 10200
โทรศัพท์ 0 2770 7777 โทรสาร 0 2623 9366 E-mail: support@mtsgoldgroup.com