ข่าวเกี่ยวกับทองคำ
- สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกในวันพุธ หลังสหรัฐฯ เปิดเผยข้อมูลแรงงานที่อ่อนแอ ซึ่งทำให้นักลงทุนมีความหวังว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.50% ในการประชุมเดือนนี้ นอกจากนี้ ตลาดทองคำยังได้แรงหนุนจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์ และการร่วงลงของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯ
- ราคาทองคำตลาดโลก ปรับตัวขึ้น 2.7 เหรียญ หรือ 0.11% อยู่ที่ระดับ 2,495.32 เหรียญ
- สัญญาทองคำตลาด COMEX ส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 3.00 เหรียญ หรือ 0.12% ปิดที่ 2,526.00 เหรียญ
- สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 21.3 เซนต์ หรือ 0.75% ปิดที่ 28.557 เหรียญ
- สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนต.ค. ลดลง 1.60 เหรียญ หรือ 0.18% ปิดที่ 908.30 เหรียญ
- กองทุนทองคำ SPDR วันก่อนหน้าไม่เปลี่ยนแปลง ปัจจุบันถือครองที่ 862.74 ตันภาพรวมเดือนกันยายน ไม่เปลี่ยนแปลง ขณะที่ปีนี้ ตั้งแต่ 1 ม.ค. - ปัจจุบัน ขายสุทธิ 16.37 ตัน
- ธนาคารยูโอบี คาดแนวโน้มราคาทองอาจปรับเพิ่มขึ้นแตะระดับ 2,700 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อออนซ์ภายในกลางปี 2568 และเป็นไปได้ว่าอาจปรับตัวต่อเนื่องแตะระดับ 3,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อออนซ์ในระยะยาว เนื่องจากความไม่แน่นอนทางภูมิรัฐศาสตร์ ความต้องการทองของบรรดาธนาคารกลาง และการคาดการณ์การปรับลดอัตราดอกเบี้ย
- ผลสำรวจธนาคารกลางทั่วโลกโดยสภาทองคำโลก ระบุว่าหนึ่งในเหตุผลสำคัญที่ธนาคารกลางในตลาดเกิดใหม่หันมาถือครองทองคำเป็นทุนสำรองมากขึ้นก็คือการที่ทองคำสามารถช่วยป้องกันความเสี่ยงในการชำระเงินด้วยดอลลาร์สหรัฐฯและความเสี่ยงจากการคว่ำบาตร และการที่เฟดเริ่มวัฏจักรลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนกันยายนซึ่งจะส่งผลบวกให้สถาบันหันมาลงทุนในทองคำ รวมถึงคาดว่าความต้องการทองคำจะเพิ่มขึ้นในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า จากสถานการณ์ที่เงินเฟ้อและตัวเลขตลาดแรงงานสหรัฐฯ ชะลอตัวลง
ข่าวเกี่ยวกับค่าเงิน และธนาคารกลาง
- ดัชนีดอลลาร์ ปรับตัวลดลง -0.4 จุด หรือ -0.39% มาอยู่ที่ระดับ 101.28 จุด
- อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี ปรับตัวลดลง -0.07 % มาอยู่ที่ระดับ 3.759% ในขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 2 ปี ปรับตัวลดลง -0.1 % มาอยู่ที่ระดับ 3.766% โดยที่ส่วนต่างอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ 10 ปี น้อยกว่า 2 ปี เท่ากับ-0.01% อยู่ในภาวะ inverted yield curve
- แมรี่ เดลีย์ ประธานเฟดสาขาซานฟรานซิสโก กล่าวธนาคารกลางสหัรัฐฯ จำเป็นต้องลดอัตราดอกเบี้ยเพื่อรักษาตลาดแรงงานให้แข็งแรง แต่ขณะนี้ต้องรอข้อมูลเศรษฐกิจที่กำลังจะเข้ามาเพื่อกำหนดว่าจะลดลงเท่าไหร่
- ราฟาเอล บอสติก ประธานเฟดสาขาแอตแลนตาแสดงความเห็นว่า เฟดไม่ควรตรึงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับสูงนานเกินไป เพราะมีความเสี่ยงที่จะทำให้การจ้างงานได้รับความเสียหายมากเกินไป พร้อมกับกล่าวว่า การรอให้เงินเฟ้อลดลงสู่เป้าหมายของเฟดที่ระดับ 2% ก่อนที่จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยนั้น มีความเสี่ยงที่จะทำให้ตลาดแรงงานเผชิญกับภาวะชะงักงัน ซึ่งอาจก่อให้เกิดปัญหาโดยไม่จำเป็น
- สำนักงานสถิติของกระทรวงแรงงานสหรัฐฯ เปิดเผยผลสำรวจการเปิดรับสมัครงานและอัตราการหมุนเวียนของแรงงาน (JOLTS) พบว่า ตัวเลขการเปิดรับสมัครงาน ซึ่งเป็นมาตรวัดอุปสงค์ในตลาดแรงงานที่เฟดให้ความสำคัญ ลดลง 237,000 ตำแหน่ง สู่ระดับ 7.67 ล้านตำแหน่งในเดือนก.ค. ซึ่งเป็นระดับต่ำที่สุดนับตั้งแต่เดือนม.ค. 2564 ข้อมูลดังกล่าวบ่งชี้ว่าภาวะตึงตัวในตลาดแรงงานคลี่คลายลง และจะเป็นปัจจัยสนับสนุนให้เฟดปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนนี้
- FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนัก 49% ที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.50% ในการประชุมวันที่ 18 ก.ย. ซึ่งเพิ่มขึ้นจากระดับ 41% ก่อนที่จะมีการเปิดเผยข้อมูลดังกล่าว
- ดัชนี Nikkei 225 ของญี่ปุ่นลดลงต่อเนื่องในวันพฤหัสบดี เนื่องจากเงินเยนที่แข็งค่าขึ้นส่งผลกระทบต่อแนวโน้มผลกำไรของผู้ส่งออก เช่น ผู้ผลิตรถยนต์ และกดดันภาคธนาคารจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรที่ลดลง
ข่าวเกี่ยวกับตลาดหุ้นและเศรษฐกิจ
- ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกในวันพุธ หลังสหรัฐฯ เปิดเผยข้อมูลที่บ่งชี้ว่าตลาดแรงงานเริ่มคลายความร้อนแรง และเจ้าหน้าที่ของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ได้แสดงความเห็นในเชิงสนับสนุนการปรับลดอัตราดอกเบี้ย อย่างไรก็ดี ดัชนี S&P500 และ Nasdaq ยังคงปิดในแดนลบ ท่ามกลางการซื้อขายที่ผันผวน
- ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 40,974.97 จุด เพิ่มขึ้น 38.04 จุด หรือ +0.09%
- ดัชนี S&P500 ปิดที่ 5,520.07 จุด ลดลง 8.86 จุด หรือ -0.16%
- ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 17,084.30 จุด ลดลง 52.00 จุด หรือ -0.30%
- สำนักงานสถิติของกระทรวงแรงงานสหรัฐฯ เปิดเผยผลสำรวจการเปิดรับสมัครงานและอัตราการหมุนเวียนของแรงงาน (JOLTS) พบว่า ตัวเลขการเปิดรับสมัครงาน ซึ่งเป็นมาตรวัดอุปสงค์ในตลาดแรงงานที่เฟดให้ความสำคัญ ลดลง 237,000 ตำแหน่ง สู่ระดับ 7.67 ล้านตำแหน่งในเดือนก.ค. ซึ่งเป็นระดับต่ำที่สุดนับตั้งแต่เดือนม.ค. 2564
- JPMorgan Chase ยกเลิกคำแนะนำให้ซื้อหุ้นจีน เนื่องจากความเสี่ยงของสงครามการค้ารอบใหม่ระหว่างสหรัฐฯ และจีนที่อาจทวีความรุนแรงขึ้นก่อนการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ รวมถึงความกังวลเกี่ยวกับการเติบโตทางเศรษฐกิจของจีนที่ชะลอตัว และนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจที่ไม่ค่อยมีประสิทธิภาพ
ข่าวเกี่ยวกับน้ำมัน
- สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดลบในวันพุธ เนื่องจากความกังวลว่าอุปสงค์น้ำมันอาจชะลอตัวลงในช่วงหลายเดือนข้างหน้า ขณะที่นักลงทุนจับตาความเคลื่อนไหวของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมันและชาติพันธมิตร หรือโอเปกพลัส หลังจากมีรายงานว่าโอเปกพลัสอาจชะลอแผนการเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมัน
- สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนต.ค. ลดลง 1.14 ดอลลาร์ หรือ 1.62% ปิดที่ 69.20 ดอลลาร์/บาร์เรล
- สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนต.ค. ลดลง 1.05 ดอลลาร์ หรือ 1.42% ปิดที่ 72.70 ดอลลาร์/บาร์เรล
- นักลงทุนเชื่อว่าข้อพิพาทด้านการเมืองในลิเบียอาจยุติลงและจะทำให้ลิเบียกลับมาผลิตน้ำมันได้ตามปกติอีกครั้ง หลังจากองค์การสหประชาชาติ (UN) ได้เข้ามาไกล่เกลี่ยความขัดแย้งระหว่างรัฐบาลลิเบียตะวันออกและตะวันตกเกี่ยวกับอำนาจในการควบคุมธนาคารกลางลิเบีย
- ข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอของจีนและสหรัฐฯ ยังส่งผลให้เกิดความวิตกกังวลว่าอุปสงค์น้ำมันในตลาดโลกจะชะลอตัวลงด้วย โดยสำนักงานสถิติแห่งชาติจีน (NBS) เปิดเผยว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตส.ค.ลดลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 6 เดือน ขณะที่ สถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐฯ (ISM) เปิดเผยว่า ดัชนีภาคการผลิตเดือนส.ค.หดตัวลงติดต่อกันเป็นเดือนที่ 5
- โกลด์แมน แซคส์ (Goldman Sachs) คาดการณ์ว่า ปัญญาประดิษฐ์ (AI) อาจส่งผลกระทบต่อราคาน้ำมันในอีก 10 ปีข้างหน้า เนื่องจากเทคโนโลยีจะเข้ามาช่วยปรับปรุงกระบวนการด้านโลจิสติกส์ให้ดีขึ้น ทำให้สำรวจพบทรัพยากรในปริมาณมากขึ้น อันจะนำไปสู่ต้นทุนการผลิตที่ลดลง และอุปทานเพิ่มขึ้น
ข่าวเกี่ยวกับการเมือง
- กองทัพรัสเซียเปิดฉากโจมตีทางอากาศถล่มเมืองลวิว ทางตะวันตกของยูเครน ใกล้ชายแดนโปแลนด์เมื่อวานนี้ ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 3 ราย บาดเจ็บจำนวนมาก และสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์หลายแห่งใจกลางเมืองได้รับความเสียหายอย่างหนัก
- สหรัฐฯ ประกาศตั้งข้อหากับแกนนำระดับสูงของกลุ่มติดอาวุธฮามาส ซึ่งมีบทบาทในการวางแผน สนับสนุน และก่อเหตุโจมตีดินแดนทางตอนใต้ของอิสราเอลเมื่อวันที่ 7 ต.ค. ซึ่งส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตจำนวนมาก
- รองประธานาธิบดีคามาลา แฮร์ริส ของสหรัฐฯ ซึ่งเป็นตัวแทนพรรคเดโมแครตในการลงชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ เตรียมเสนอลดภาษีสูงถึง 50,000 ดอลลาร์สำหรับธุรกิจขนาดเล็กเปิดใหม่ ซึ่งมากกว่าของเดิม 10 เท่า เพื่อชนะใจชาวสหรัฐฯ ชนชั้นกลาง หลังร่วมศึกชิงเก้าอี้ปธน.สหรัฐเมื่อกว่าหนึ่งเดือนที่แล้ว
ข่าวเกี่ยวกับเศรษฐกิจไทยและค่าเงินบาท
- คณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) แสดงความเห็นถึงคณะรัฐมนตรี (ครม.) ชุดใหม่ว่า การจัดตั้งรัฐมนตรีใหม่ได้อย่างรวดเร็วถือเป็นสัญญาณบวก และมองว่าแม้จะเป็นรัฐบาลจากหลายพรรค แต่ก็มีเอกภาพ และเชื่อมั่นว่าจะทำงานเป็นทีมร่วมกันได้
- คณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) ปรับเพิ่มคาดการณ์ส่งออกทั้งปีเป็นโต 1.5-2.5% จากประมาณการเดิมที่ 0.8-1.5% หลังการส่งออกของไทยในเดือนกรกฎาคมโตถึง 15.2% จากแรงหนุนของวัฏจักรอิเล็กทรอนิกส์โลก แต่การเติบโตดังกล่าว ยังกระจุกตัวอยู่เฉพาะกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ ไม่ได้เป็นการเติบโตในวงกว้าง
ที่มาจาก : Reuters, Infoquest, BangkokBizNews
Tags : ข่าวทอง, ข่าวทอง , ทอง , ราคาทอง