MTS Help Center

• สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกในวันจันทร์ ขณะที่นักลงทุนจับตาการเปิดเผยข้อมูลเงินเฟ้อของสหรัฐฯ ในสัปดาห์นี้ เพื่อหาสัญญาณที่ชัดเจนว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงมากเท่าใด

• ราคาทองคำตลาดโลก ปรับตัวขึ้น 9.94 เหรียญ หรือ 0.4% อยู่ที่ระดับ 2,506.73 เหรียญ
• ทั้งนี้ สัญญาทองคำตลาด COMEX ส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 8.10 เหรียญ หรือ 0.32% ปิดที่ 2,532.70 เหรียญ
• สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 46.8 เซนต์ หรือ 1.66% ปิดที่ 28.651 เหรียญ
• สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนต.ค. เพิ่มขึ้น 28.20 เหรียญ หรือ 3.07% ปิดที่ 946.90 เหรียญ
• กองทุนทองคำ SPDR วันก่อนหน้าไม่เปลี่ยนแปลง ปัจจุบันถือครองที่ 862.74 ตันภาพรวมเดือนกันยายน ไม่เปลี่ยนแปลง ขณะที่ปีนี้ ตั้งแต่ 1 ม.ค. - ปัจจุบัน ขายสุทธิ 16.37 ตัน

ข่าวเกี่ยวกับค่าเงิน และธนาคารกลาง

• ดัชนีดอลลาร์ ปรับตัวขึ้น 0.45 จุด หรือ 0.44% มาอยู่ที่ระดับ 101.63 จุด
• อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี  ปรับตัวลดลง -0.03 % มาอยู่ที่ระดับ 3.702% ในขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 2 ปี ปรับตัวขึ้น 0.0 % มาอยู่ที่ระดับ 3.671% โดยที่ส่วนต่างอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ 10 ปี มากกว่า 2 ปี เท่ากับ0.03%

ข่าวเกี่ยวกับตลาดหุ้นและเศรษฐกิจ

• ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นในวันจันทร์ โดยได้แรงหนุนจากการที่นักลงทุนช้อนซื้อเก็งกำไรหลังจากตลาดดิ่งลงอย่างหนักเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ขณะที่นักลงทุนจับตาการเปิดเผยข้อมูลเงินเฟ้อของสหรัฐฯ ในสัปดาห์นี้ รวมทั้งการประชุมนโยบายการเงินของ(เฟด) ในสัปดาห์หน้า

• ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 40,829.59 จุด เพิ่มขึ้น 484.18 จุด หรือ +1.20%
• ดัชนี S&P500 ปิดที่ 5,471.05 จุด เพิ่มขึ้น 62.63 จุด หรือ +1.16% 
• ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 16,884.60 จุด เพิ่มขึ้น 193.77 จุด หรือ +1.16%

• ตลาดหุ้นนิวยอร์กฟื้นตัวหลังจากที่ถูกเทขายเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว อันเนื่องมาจากความกังวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจถดถอย หลังจากสหรัฐฯ เปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรที่ต่ำกว่าคาดและข้อมูลภาคการผลิตที่อ่อนแอ ขณะเดียวกันนักลงทุนจับตาการเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ประจำเดือนส.ค.ของสหรัฐฯ ในวันพุธนี้ และดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ประจำเดือนส.ค.ในวันพฤหัสบดี ก่อนที่การประชุมนโยบายการเงินของเฟดจะมีขึ้นในวันที่ 17-18 ก.ย.

• เจเน็ต เยลเลน รัฐมนตรีคลังสหรัฐฯ ได้แสดงความเชื่อมั่นว่า เศรษฐกิจของสหรัฐฯ ยังคงแข็งแกร่ง แม้ตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรที่มีการเปิดเผยล่าสุดได้ส่งผลให้นักลงทุนวิตกกังวลและเป็นปัจจัยฉุดตลาดหุ้นร่วงลงก็ตาม

• นักวิเคราะห์จากบริษัท Kinesis Money กล่าวว่า “หากดัชนี CPI เดือนส.ค.ออกมาต่ำกว่าคาดและสนับสนุนการคาดการณ์ที่ว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.50% ราคาทองคำก็อาจจะพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ แต่แม้ว่าผลสำรวจส่วนใหญ่บ่งชี้ว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยเพียง 0.25% ก็คาดว่าจะไม่ส่งผลกระทบต่อราคาทองมากนัก เนื่องจากแนวโน้มในขณะนี้บ่งชี้ว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยอย่างแน่นอน”

• นักวิเคราะห์จากบริษัท BlackRock กล่าวว่า ขณะนี้นักลงทุนมีมุมมองว่าการปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.25% ถือเป็นระดับที่เหมาะสม เพราะหากเฟดปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงมากถึง 0.50% ในการประชุมครั้งนี้ อาจจะสะท้อนให้เห็นว่าเฟดมีความวิตกกังวลเกี่ยวกับทิศทางเศรษฐกิจของสหรัฐฯ

• นักลงทุนยังรอดูการดีเบต ระหว่างคามาลา แฮร์ริส และโดนัลด์ ทรัมป์  ในเวลา 21.00 น. ของวันที่อังคารที่ 10 ก.ย. ตามเวลาท้องถิ่น หรือประมาณ 08.00 น. ของวันพุธที่ 11 ก.ย. ตามเวลาไทย โดยการดีเบตครั้งแรกนี้จัดโดยสถานีโทรทัศน์เอบีซี ซึ่งคาดว่าหัวข้อการดีเบตจะครอบคลุมถึงประเด็นเศรษฐกิจและการย้ายถิ่นฐาน

• โพลสำรวจซึ่งจัดทำโดย The New York Times ระบุว่า ขณะนี้ทรัมป์มีคะแนนนิยมนำหน้าแฮร์ริสเพียง 1% ก่อนที่ศึกเลือกตั้งประธานาธิบดีจะมีขึ้นในวันที่ 5 พ.ย.นี้

• สำนักงานสถิติแห่งชาติจีน (NBS) รายงานว่า ดัชนี(CPI) ปรับตัวขึ้น 0.6% ในเดือส.ค. เมื่อเทียบเป็นรายปี ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 0.7% โดยตัวเลขเงินเฟ้อที่ซบเซาของจีนบ่งชี้ว่าอุปสงค์ภายในประเทศยังคงอ่อนแอนับตั้งแต่เกิดการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19

• ซีอีโอของธนาคารสแตนดาร์ด ชาร์เตอร์ด (สแตนชาร์ด) ระบุว่า ภาคอสังหาริมทรัพย์จีนยังอยู่ในช่วงขาลง และยังไม่แตะจุดต่ำสุด แม้ว่าจะผ่านพ้นช่วงเวลาแห่งความผันผวนในปีที่ผ่านมา

• สำนักงานคณะรัฐมนตรีญี่ปุ่นปรับลดการประเมินตัวเลข (GDP) ประจำไตรมาส 2/2567 โดยระบุว่า GDP ไตรมาส 2 ขยายตัว 2.9% เมื่อเทียบเป็นรายปี ลดลงจากการประมาณการเบื้องต้นที่ระบุว่าขยายตัว 3.1%

ข่าวเกี่ยวกับน้ำมัน

• สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกในวันจันทร์ หลังจากมีรายงานว่าพายุเฮอร์ริเคนอาจพัดถล่มรัฐลุยเซียนาของสหรัฐฯ ในวันพุธนี้ ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อการผลิตและการกลั่นน้ำมันในเขตกัลฟ์โคสต์ของสหรัฐฯ

• สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนต.ค. เพิ่มขึ้น 1.04 ดอลลาร์ หรือ 1.54% ปิดที่ 68.71 ดอลลาร์/บาร์เรล
• สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนพ.ย. เพิ่มขึ้น 78 เซนต์ หรือ 1.10% ปิดที่ 71.84 ดอล.ลาร์/บาร์เรล

• รายงานระบุว่า บริษัทผู้ผลิตน้ำมันและก๊าซตามแนวชายฝั่งของเขตกัลฟ์โคสต์ได้เริ่มอพยพพนักงานและลดการขุดเจาะน้ำมัน เพื่อเตรียมรับมือกับพายุโซนร้อน ฟรานซีน (Francine) ที่กำลังพัดผ่านอ่าวเม็กซิโก

• ศูนย์พายุเฮอร์ริเคนแห่งชาติของสหรัฐฯ คาดการณ์ว่า พายุโซนร้อนฟรานซีนจะทวีความรุนแรงเป็นพายุเฮอร์ริเคนในวันนี้ (10 ก.ย.) ก่อนที่จะพัดถล่มชายฝั่งรัฐลุยเซียนา โดยข้อมูลจากสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานของสหรัฐฯ (EIA) ระบุว่า เขตกัลฟ์โคสต์มีการผลิตน้ำมันในสัดส่วนสูงถึง 50% ของกำลังการกลั่นน้ำมันภายในประเทศ

• นักลงทุนจับตาความเคลื่อนไหวของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) โดยเฉพาะลิเบียซึ่งเป็นหนึ่งในสมาชิกของโอเปก โดยล่าสุดมีรายงานว่าบรรษัทน้ำมันแห่งชาติของลิเบีย (National Oil Corp) ได้เกิดเหตุสุดวิสัย (Force Majeure) สำหรับการขนส่งน้ำมันดิบหลายเที่ยวจากท่าเรือเอส ซิเดอร์ (Es Sider) เนื่องจากการผลิตน้ำมันของลิเบียเป็นไปอย่างจำกัด อันเป็นผลมาจากความขัดแย้งทางการเมืองในประเด็นที่ว่ารัฐบาลของฝั่งใดจะมีอำนาจในการควบคุมธนาคารกลางลิเบียและรายได้จากน้ำมัน

• มอร์แกน สแตนเลย์ปรับลดคาดการณ์ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ลงสู่ระดับ 75 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลในไตรมาส 4 จาก 80 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลที่คาดไว้ก่อนหน้า และคาดว่าราคาน้ำมันดิบเบรนท์ในไตรมาสแรกปีหน้าจะลดลงสู่ระดับ 75 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล จาก 78 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลที่คาดไว้ก่อนหน้า

ข่าวเกี่ยวกับการเมือง

• กองทัพอากาศยูเครนรายงานว่า กองทัพสามารถยิงโดรนรัสเซียตก 6 ลำ จากทั้งหมด 8 ลำ และยิงสกัดขีปนาวุธได้ 2 ลูก จากทั้งหมด 3 ลูกที่พุ่งเข้าโจมตี 4 แคว้นของยูเครนตลอดทั้งคืน

• จีนประกาศจัดการซ้อมรบร่วมกับรัสเซียในเดือนนี้ สะท้อนความสัมพันธ์ด้านกลาโหมของสองประเทศที่แน่นแฟ้นยิ่งขึ้นท่ามกลางเสียงวิพากษ์วิจารณ์จากชาติตะวันตก รวมถึงองค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ (นาโต) ที่ระบุว่าจีนเป็นผู้สนับสนุนรัสเซียทำสงครามในยูเครน

• เจเน็ต เยลเลน รัฐมนตรีคลังสหรัฐฯ กล่าวว่า เธออาจจะวางมือจากการทำหน้าที่รัฐมนตรีคลังซึ่งถือเป็นหน้าที่ในระดับสูงสุดของรัฐบาล หลังจากประธานาธิบดีโจ ไบเดน สิ้นสุดวาระการดำรงตำแหน่งในเดือนม.ค.ปีหน้า อย่างไรก็ดี เธออาจจะพบปะกับเจ้าหน้าที่ระดับสูงของจีนในเร็ว ๆ นี้

ข่าวเกี่ยวกับเศรษฐกิจไทยและค่าเงินบาท

• ค่าเงินบาทเปิดเช้านี้ที่ระดับ  33.90 บาทต่อดอลลาร์ “แข็งค่าขึ้นเล็กน้อย”จากระดับปิดวันก่อนหน้า ที่ระดับ  33.96 บาทต่อดอลลาร์ ยังคงแกว่งตัวในกรอบ sideways ควรระวังความผันผวนในช่วงตลาดทยอยรับรู้รายงานข้อมูลเศรษฐกิจจีนและอังกฤษ โดยเฉพาะในช่วงบ่าย ราว 13.00 น. ตามเวลาประเทศไทย

• รมว.กลาโหม กล่าวถึงการดำเนินโครงการดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาทว่า หลังจากรัฐบาลแถลงนโยบายต่อรัฐสภาแล้ว จะมีการเสนอโครงการดิจิทัลวอลเล็ตเข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในวันที่ 17 ก.ย.นี้ เพื่อขออนุมัติโครงการทันที ก่อนจะจ่ายเงินออกมากระตุ้นเศรษฐกิจให้เร็วที่สุดภายในสิ้นเดือน ก.ย.นี้

• รมช.คลัง ชี้แจงร่าง พ.ร.บ.งบประมาณปี 68 ต่อที่ประชุมวุฒิสภาว่า รัฐบาลได้เตรียมกรอบงบประมาณสำหรับโครงการดิจิทัลวอลเล็ตไว้ 450,00 ล้านบาท ซึ่งงบประมาณที่ยังขาดอยู่นั้น รัฐบาลใช้การบริหารจัดการงบประมาณในส่วนที่สามารถทำได้ เช่น ปี 2567 ที่ พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติม 122,000 ล้านบาท รวมถึงยังมีงบประมาณส่วนอื่นอีกกว่า 23,000 ล้านบาท เพื่อนำมาช่วยเหลือกลุ่มเปราะบางในช่วงปลายเดือนก.ย.นี้ และในปีงบประมาณ 2568 ก็จะมีการบริหารจัดการงบประมาณเช่นกัน

 

 

 

ที่มาจาก : Reuters, Infoquest, BangkokBizNews

Tags : ข่าวทอง, ข่าวทอง , ทอง , ราคาทอง