• สรุปข่าวราคาทองคำ ประจำวันที่ 12 กันยายน 2567

    12 กันยายน 2567 | Gold News


ข่าวเกี่ยวกับทองคำ


  • สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดลบในวันพุธ หลังสหรัฐฯ เปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ที่สูงเกินคาด ซึ่งทำให้นักลงทุนลดความคาดหวังที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.50% ในการประชุมสัปดาห์หน้า


  • ราคาทองคำตลาดโลก ปรับตัวลดลง -3.61 เหรียญ หรือ -0.14% อยู่ที่ระดับ 2,512.95 เหรียญ
  • สัญญาทองคำตลาด COMEX ส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 70 เซนต์ หรือ 0.03% ปิดที่ 2,542.40 เหรียญ
  • สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 31.4 เซนต์ หรือ 1.10% ปิดที่ 28.928 เหรียญ
  • สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนต.ค. เพิ่มขึ้น 11.90 เหรียญ หรือ 1.26% ปิดที่ 956.20 เหรียญ
  • กองทุนทองคำ SPDR วันก่อนหน้าซื้อเข้า 1.72 ตัน ปัจจุบันถือครองที่ 866.18 ตันภาพรวมเดือนกันยายน ซื้อสุทธิ 3.44 ตัน ขณะที่ปีนี้ ตั้งแต่ 1 ม.ค. - ปัจจุบัน ขายสุทธิ 12.93 ตัน


  • นอกจากนี้ ตลาดทองคำยังถูกกดดันจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์และการปรับตัวขึ้นของอัตราตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯ โดยดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ปรับตัวขึ้นแตะระดับ 101.684 และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 10 ปี ดีดตัวขึ้นแตะระดับ 3.663% เมื่อคืนนี้


  • ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยทองคำ เผยดัชนีความเชื่อมั่นราคาทองคำประจำเดือน ก.ย.67 อยู่ที่ 68.97 จุด ปรับตัวลดลง 4.01 จุด หรือ 5.49% จากเดือน ส.ค.67 ที่ระดับ 72.98 จุด โดยมีปัจจัยจากความกังวลต่อการปรับอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด), การแข็งค่าของเงินบาท, การขายทำกำไรของกองทุน และเศรษฐกิจโลกส่งสัญญาณการฟื้นตัว


ข่าวเกี่ยวกับค่าเงิน และธนาคารกลาง


  • ดัชนีดอลลาร์ ปรับตัวขึ้น 0.12 จุด หรือ 0.12% มาอยู่ที่ระดับ 101.78 จุด
  • อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี ปรับตัวขึ้น 0.01 % มาอยู่ที่ระดับ 3.655% ในขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 2 ปี ปรับตัวขึ้น 0.04 % มาอยู่ที่ระดับ 3.644% โดยที่ส่วนต่างอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ 10 ปี มากกว่า 2 ปี เท่ากับ0.01%


  • FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนัก 85% ที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% ในการประชุมวันที่ 17-18 ก.ย. หลังจากให้น้ำหนัก 66% เมื่อวันอังคาร และให้น้ำหนักเพียง 15% ที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.50% ในการประชุมครั้งนี้ หลังจากที่ให้น้ำหนัก 34% เมื่อวันอังคาร


  • Raphael Bostic ประธานธนาคารกลางเฟดสาขาแอตแลนต้าได้ทำผิดกฎจริยธรรมของธนาคารกลางหลายข้อ โดยการซื้อขายหลักทรัพย์ของเขาในช่วงที่ไม่เหมาะสม และการไม่รายงานการถือครองหลักทรัพย์อย่างถูกต้อง แม้ว่าจะไม่มีหลักฐานว่าเขาใช้ข้อมูลภายในเพื่อแสวงหาผลประโยชน์ส่วนตัว แต่การกระทำของเขาก็สร้างความน่าสงสัยและขัดต่อหลักการของธนาคารกลาง


  • บรรดานักลงทุนต่างคาดการณ์ว่า ธนาคารกลางยุโรป (ECB) เตรียมปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงอีกครั้งที่ระดับ 0.25% ในการประชุมนโยบายทางการเงินในวันพฤหัสบดีนี้ ซึ่งเกิดขึ้นก่อนที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะเริ่มปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงครั้งแรกในการประชุมนโยบายการเงินในวันที่ 19 ก.ย.นี้ ตามที่หลายฝ่ายคาดการณ์เอาไว้


  • จุนโกะ นาคากาวะ ผู้กำหนดนโยบายของธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) กล่าวว่า BOJ จะยังคงปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อไป หากเงินเฟ้อปรับตัวตามคาด ซึ่งเป็นการส่งสัญญาณว่า การร่วงลงของตลาดในเดือนที่ผ่านมาไม่ได้ส่งผลกระทบต่อแผนการของ BOJ ที่จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างต่อเนื่อง


ข่าวเกี่ยวกับตลาดหุ้นและเศรษฐกิจ


  • ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกในวันพุธ ขณะที่ดัชนี S&P500 และ Nasdaq ปิดในแดนบวกเช่นกัน โดยตลาดได้แรงหนุนจากการพุ่งขึ้นของหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี ซึ่งช่วยบดบังปัจจัยลบจากดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ของสหรัฐฯ ที่ออกมาสูงเกินคาดและทำให้นักลงทุนลดความคาดหวังที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.50% ในการประชุมสัปดาห์หน้า


  • ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 40,861.71 จุด เพิ่มขึ้น 124.75 จุด หรือ +0.31%
  • ดัชนี S&P500 ปิดที่ 5,554.13 จุด เพิ่มขึ้น 58.61 จุด หรือ +1.07% 
  • ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 17,395.53 จุด เพิ่มขึ้น 369.65 จุด หรือ +2.17%


  • หุ้น 6 ใน 11 กลุ่มที่คำนวณในดัชนี S&P500 ปิดในแดนบวก นำโดยดัชนีหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีพุ่งขึ้นแข็งแกร่งถึง 3.25% ตามด้วยดัชนีหุ้นกลุ่มสินค้าฟุ่มเฟือยปรับตัวขึ้น 1.32% ส่วนดัชนีหุ้นกลุ่มพลังงานปรับตัวลงมากที่สุด โดยลดลง 0.93% ตามด้วยด้วยดัชนีหุ้นกลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภคปรับตัวลง 0.88%


  • กระทรวงแรงงานสหรัฐฯ เปิดเผยว่า ดัชนี CPI ปรับตัวขึ้น 0.2% ในเดือนส.ค. เมื่อเทียบรายเดือน สอดคล้องกับตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ แต่ดัชนี CPI พื้นฐาน (Core CPI) ซึ่งไม่นับรวมหมวดอาหารและพลังงาน เพิ่มขึ้น 0.3% ในเดือนส.ค. เมื่อเทียบรายเดือน สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้น 0.2%


  • นักลงทุนจับตาการเปิดเผยดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) และตัวเลขผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ของสหรัฐฯ ในวันนี้ เพื่อหาสัญญาณบ่งชี้ทิศทางเงินเฟ้อและตลาดแรงงานของสหรัฐฯ


  • บรรยากาศการซื้อขายในตลาดยังได้แรงหนุนจากผลการดีเบตชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดยผลสำรวจของสำนักข่าว CNN ระบุว่า คามาลา แฮร์ริส ตัวแทนจากพรรคเดโมแครตสามารถคว้าชัยชนะเหนือโดนัลด์ ทรัมป์ ตัวแทนจากพรรครีพับลิกัน ด้วยคะแนน 63% ต่อ 37% เมื่อเทียบกับคะแนน 50% ต่อ 50% ก่อนการดีเบต

  • เศรษฐกิจของสหราชอาณาจักร (UK) ชะงักงันเป็นเดือนที่ 2 ติดต่อกันในเดือนก.ค. เนื่องจากผลผลิตจากภาคการผลิตร่วงลงอย่างหนัก นับเป็นการเริ่มต้นที่ไม่สู้ดีนักสำหรับรัฐบาลใหม่ของนายกรัฐมนตรีเคียร์ สตาร์เมอร์ ซึ่งตั้งเป้าที่จะเร่งอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศ


ข่าวเกี่ยวกับน้ำมัน


  • สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกในวันพุธ หลังจากมีรางานว่าบริษัทพลังงานหลายแห่งได้ระงับการผลิตที่แท่นขุดเจาะน้ำมันนอกชายฝั่งของสหรัฐฯ เนื่องจากพายุเฮอร์ริเคนฟรานซีน (Francine) กำลังพัดขึ้นฝั่งในรัฐลุยเซียนา


  • สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนต.ค. เพิ่มขึ้น 1.56 ดอลลาร์ หรือ 2.37% ปิดที่ 67.31 ดอลลาร์/บาร์เรล
  • สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนพ.ย. เพิ่มขึ้น 1.42 ดอลลาร์ หรือ 2.05% ปิดที่ 70.61 ดอลลาร์/บาร์เรล


  • แอนดรูว์ ลิโพว์ ประธานบริษัท Lipow Oil Associates กล่าวว่า ความวิตกกังวลที่ว่าพายุเฮอร์ริเคนฟรานซีนจะส่งผลกระทบต่อการผลิตน้ำมันในสหรัฐฯ เป็นปัจจัยหนุนราคาน้ำมัน พร้อมกับคาดการณ์ว่า ในสัปดาห์หน้า อิทธิพลของพายุเฮอร์ริเคนลูกนี้จะส่งผลกระทบต่อเรือบรรทุกน้ำมันที่แล่นผ่านอ่าวเม็กซิโก


  • สำนักงานนิรภัยและการบังคับใช้กฎหมายสิ่งแวดล้อมของรัฐบาลกลางสหรัฐฯ (BSEE) ระบุว่า 39% ของการผลิตน้ำมันดิบในอ่าวเม็กซิโกถูกระงับแล้วเมื่อวานนี้ ขณะที่บริษัทพลังงานหลายแห่งได้อพยพพนักงานออกจากเส้นทางของพายุเฮอร์ริเคนฟรานซีน นอกจากนี้ BSEE ระบุว่า 49% ของการผลิตก๊าซธรรมชาติในอ่าวถูกระงับเนื่องจากพายุเฮอร์ริเคนเช่นกัน


  • EIA เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบรายสัปดาห์ของสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น 833,000 บาร์เรล แตะระดับ 419.1 ล้านบาร์เรล เทียบกับที่นักวิเคราะห์ในโพลสำรวจของรอยเตอร์คาดว่าเพิ่มขึ้น 987,000 บาร์เรล ขณะที่สต็อกน้ำมันดิบที่เมืองคูชิง รัฐโอกลาโฮมา ซึ่งเป็นจุดส่งมอบสัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้าของสหรัฐ ลดลง 1.7 ล้านบาร์เรล


  • ส่วนสต็อกน้ำมันเบนซินเพิ่มขึ้น 2.3 ล้านบาร์เรล เทียบกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าลดลง 400,000 บาร์เรล และสต็อกน้ำมันกลั่นซึ่งรวมถึงฮีตติ้งออยล์และน้ำมันดีเซล เพิ่มขึ้น 2.3 ล้านบาร์เรล เทียบกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าเพิ่มขึ้น 300,000 บาร์เรล

ข่าวเกี่ยวกับการเมือง


  • สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานถ้อยแถลงของกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ว่า IMF ได้บรรลุข้อตกลงระดับเจ้าหน้าที่กับทางการยูเครน ซึ่งจะช่วยให้ยูเครนเข้าถึงเงินทุนได้ราว 1.1 พันล้านดอลลาร์


  • ประธานาธิบดีโจ ไบเดน แห่งสหรัฐฯ ได้ตอบคำถามเกี่ยวกับการยกเลิกข้อจำกัดการใช้อาวุธพิสัยไกลของยูเครนในสงครามกับรัสเซียว่า รัฐบาลกำลังพิจารณาเรื่องนี้อยู่


  • อิสราเอลยื่นข้อเสนอให้ยาห์ยา ซินวาร์ ผู้นำกลุ่มฮามาส เดินทางออกจากฉนวนกาซาอย่างปลอดภัย แลกกับการที่กลุ่มฮามาสปล่อยตัวประกันที่กักขังอยู่และยอมละทิ้งการควบคุมพื้นที่กาซา ท่ามกลางความหวังที่ริบหรี่เกี่ยวกับการบรรลุข้อตกลงหยุดยิงระหว่างสองฝ่าย

ข่าวเกี่ยวกับเศรษฐกิจไทยและค่าเงินบาท


  • นักบริหารการเงิน เปิดเผยว่า ค่าเงินบาทเปิดเช้านี้ ที่ระดับ 33.81 บาทต่อดอลลาร์อ่อนค่าลงจากระดับปิดวันก่อนหน้า ที่ระดับ  33.69 บาทต่อดอลลาร์ โดยมองกรอบเงินบาทวันนี้ 33.50-34.00 บาทต่อดอลลาร์

 

 

ที่มาจาก : Reuters, Infoquest, BangkokBizNews

Tags : ข่าวทอง, ข่าวทอง , ทอง , ราคาทอง

บริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ จำกัด
40,42,44 ถนนทรัพย์สิน แขวงวังบูรพาภิรมย์เขตพระนคร กรุงเทพ 10200
โทรศัพท์ 0 2770 7777 โทรสาร 0 2623 9366 E-mail: support@mtsgoldgroup.com