• สรุปข่าวราคาทองคำ ประจำวันที่ 17 กันยายน 2567

    17 กันยายน 2567 | Gold News


ข่าวเกี่ยวกับทองคำ

  • สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดลบเล็กน้อยในวันจันทร์ ขณะที่นักลงทุนจับตาการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ในสัปดาห์นี้ ท่ามกลางความหวังที่ว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยเป็นครั้งแรกในรอบกว่า 4 ปี
  • ราคาทองคำตลาดโลก ปรับตัวขึ้น 3.87 เหรียญ หรือ 0.15% อยู่ที่ระดับ 2,582.66 เหรียญ
  • สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 1.80 ดอลลาร์ หรือ 0.07% ปิดที่ 2,608.90 ดอลลาร์/ออนซ์
  • สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 6.10 เซนต์ หรือ 0.20% ปิดที่ 31.135 ดอลลาร์/ออนซ์
  • สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนต.ค. ลดลง 18.60 ดอลลาร์ หรือ 1.85% ปิดที่ 988.20 ดอลลาร์/ออนซ์
  • โกลด์แมน แซคส์คาดการณ์ว่า ราคาทองคำยังคงมีแนวโน้มที่สดใส โดยได้ปัจจัยหนุนจากแรงซื้อของธนาคารกลางทั่วโลก รวมทั้งการที่นักลงทุนมีความเชื่อมั่นว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมสัปดาห์นี้อย่างแน่นอนทั้งนี้ โกลด์แมน แซคส์คาดว่า ราคาทองคำจะพุ่งขึ้นแตะระดับ 2,700 ดอลลาร์/ออนซ์ภายในต้นปี 2568
  • กองทุนทองคำ SPDR วันก่อนหน้าซื้อเข้า 1.72 ตัน ปัจจุบันถือครองที่ 872.23 ตันภาพรวมเดือนกันยายน ซื้อสุทธิ 9.49 ตัน ขณะที่ปีนี้ ตั้งแต่ 1 ม.ค. - ปัจจุบัน ขายสุทธิ 6.88 ตัน

 

ข่าวเกี่ยวกับค่าเงิน และธนาคารกลาง

  • ดัชนีดอลลาร์ ปรับตัวลดลง -0.28 จุด หรือ -0.28% มาอยู่ที่ระดับ 100.75 จุด
  • อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี  ปรับตัวลดลง -0.06 % มาอยู่ที่ระดับ 3.621% ในขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 2 ปี ปรับตัวลดลง -0.09 % มาอยู่ที่ระดับ 3.553% โดยที่ส่วนต่างอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ 10 ปี มากกว่า 2 ปี เท่ากับ0.07%
  • นักลงทุนพากันเทน้ำหนักต่อคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.50% ในการประชุมรอบนี้ ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับตลาดแรงงานที่อ่อนแอ หลังการเปิดเผยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานที่สูงกว่าคาดเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ล่าสุด FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนัก 59.0% ที่เฟดจะลดอัตราดอกเบี้ย 0.50% สู่ระดับ 4.75-5.00% ในการประชุมวันที่ 18 ก.ย. หลังจากที่ให้น้ำหนักเพียง 30.0% เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
  • หากเฟดลดอัตราดอกเบี้ยตามคาดในการประชุมวันพุธนี้ ก็จะเป็นการปรับลดอัตราดอกเบี้ยครั้งแรกในรอบกว่า 4 ปีหรือนับตั้งแต่ปี 2563 ซึ่งขณะนั้นเฟดได้ปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงใกล้ 0% เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ ท่ามกลางการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19



  • หัวหน้าฝ่ายกลยุทธ์สินค้าโภคภัณฑ์ของ Saxo Bank A/S กล่าว การปรับลดอัตราดอกเบี้ยของเฟดครั้งนี้ ไม่ว่าจะเป็น 0.25% หรือ 0.50% นั้นถือเป็นสัญญาณสำคัญที่ตลาดจับตามองอย่างใกล้ชิด เพราะการตัดสินใจครั้งนี้จะสะท้อนให้เห็นถึงมุมมองของเฟดที่มีต่อเศรษฐกิจในปัจจุบันและแนวโน้มในอนาคต

ข่าวเกี่ยวกับตลาดหุ้นและเศรษฐกิจ

  • ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกในวันจันทร์ แต่ดัชนี Nasdaq ปิดในแดนลบเนื่องจากแรงขายหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี ขณะที่นักลงทุนประเมินขนาดในการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ในสัปดาห์นี้
  • ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 41,622.08 จุด เพิ่มขึ้น 228.30 จุด หรือ +0.55%
  • ดัชนี S&P500 ปิดที่ 5,633.09 จุด เพิ่มขึ้น 7.07 จุด หรือ +0.13% 
  • ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 17,592.13 จุด ลดลง 91.85 จุด หรือ -0.52%
  • หุ้น 9 ใน 11 กลุ่มที่คำนวณในดัชนี S&P500 ปิดในแดนบวก นำโดยดัชนีหุ้นกลุ่มการเงินพุ่งขึ้น 1.22% ตามด้วยดัชนีหุ้นกลุ่มพลังงานดีดตัวขึ้น 1.20% ส่วนดัชนีหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีปรับตัวลงมากที่สุด โดยลดลง 0.95% ตามด้วยดัชนีหุ้นกลุ่มสินค้าฟุ่มเฟือยปรับตัวลง 0.32%
  • โกลด์แมน แซคส์ และซิตี้กรุ๊ป ปรับลดคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจจีนในปี 2567 ลงสู่ระดับ 4.7% หลังจากจีนเปิดเผยการผลิตภาคอุตสาหกรรมชะลอตัวลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 5 เดือนในเดือนส.ค. ก่อนหน้านี้ คาดการณ์ว่า จะขยายตัวที่ระดับ 4.9% 
  • (S&P Global Ratings) ระบุว่า การอุปโภคบริโภคที่ชะลอตัวลงอย่างต่อเนื่องของจีนมีสาเหตุมาจากการทรุดตัวของตลาดอสังหาริมทรัพย์ภายในประเทศ และมีความเชื่อมโยงกันอย่างมากกับสถานะการเงินและปัญหาหนี้สินของรัฐบาลท้องถิ่นจีน

 

ข่าวเกี่ยวกับน้ำมัน

  • สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกในวันจันทร์ โดยได้แรงหนุนจากรายงานที่ว่าพายุเฮอร์ริเคนฟรานซีน (Francine) ได้ส่งผลกระทบต่อการผลิตน้ำมันในอ่าวเม็กซิโกของสหรัฐฯ ขณะที่นักลงทุนจับตาผลการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ในสัปดาห์นี้อย่างใกล้ชิด
  • สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนต.ค. เพิ่มขึ้น 1.44 ดอลลาร์ หรือ 2.1% ปิดที่ 70.09 ดอลลาร์/บาร์เรล
  • ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนพ.ย. เพิ่มขึ้น 1.14 ดอลลาร์ หรือ 1.59% ปิดที่ 72.75 ดอลลาร์/บาร์เรล
  • สำนักงานนิรภัยและการบังคับใช้กฎหมายสิ่งแวดล้อมของรัฐบาลกลางสหรัฐฯ (BSEE) แถลงเมื่อวานนี้ว่า การผลิตน้ำมันดิบกว่า 12% และการผลิตก๊าซธรรมชาติ 16% ในอ่าวเม็กซิโกยังคงถูกระงับ เนื่องจากอิทธิพลของพายุเฮอร์ริเคนฟรานซีน
  • ข้อมูลจากสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐฯ (EIA) ระบุว่า อ่าวเม็กซิโกทางตอนเหนือซึ่งอยู่ภายใต้การกำกับดูแลของสหรัฐฯ มีการผลิตน้ำมันดิบในสัดส่วน 15% ของการผลิตน้ำมันดิบทั้งหมดในสหรัฐฯ และผลิตก๊าซธรรมชาติในสัดส่วน 2% ของการผลิตทั้งหมดภายในประเทศ
  • จีนเพิ่มปริมาณสำรองน้ำมันดิบในเดือนส.ค.มากที่สุดในรอบ 14 เดือน ซึ่งบ่งชี้ว่ายอดนำเข้าน้ำมันดิบที่ฟื้นตัวขึ้นนั้นเป็นผลมาจากการสำรองน้ำมันดิบ ไม่ใช่การฟื้นตัวเนื่องจากการบริโภคเชื้อเพลิงเพิ่มขึ้นโดยพบว่า จีนเพิ่มปริมาณสำรองน้ำมันดิบรวม 1.85 ล้านบาร์เรลต่อวัน (bpd) เข้าคลังสำรองน้ำมันซึ่งเป็นปริมาณสำรองน้ำมันที่เพิ่มขึ้นมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนมิ.ย. 2566 ที่เพิ่มถึง 2.1 ล้านบาร์เรลต่อวัน 

 

ข่าวเกี่ยวกับเศรษฐกิจไทยและค่าเงินบาท

  •  นักกลยุทธ์ตลาดเงินตลาดทุน Krungthai GLOBAL MARKETS ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่า ค่าเงินบาทวันนี้ ค่าเงินบาทเปิดเช้านี้ ที่ระดับ 33.27 บาทต่อดอลลาร์อ่อนค่าลงเล็กน้อยจากระดับปิดวันก่อนหน้า ที่ระดับ  33.21 บาทต่อดอลลาร์ มองกรอบเงินบาทวันนี้ คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 33.10-33.40 บาทต่อดอลลาร์ 

 

ที่มาจาก : Reuters, Infoquest, BangkokBizNews

Tags : ข่าวทอง, ข่าวทอง , ทอง , ราคาทอง

บริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ จำกัด
40,42,44 ถนนทรัพย์สิน แขวงวังบูรพาภิรมย์เขตพระนคร กรุงเทพ 10200
โทรศัพท์ 0 2770 7777 โทรสาร 0 2623 9366 E-mail: support@mtsgoldgroup.com