• สรุปข่าวราคาทองคำ ประจำวันที่ 20 กันยายน 2567

    20 กันยายน 2567 | Gold News


ข่าวเกี่ยวกับทองคำ

  • สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกในวันพฤหัสบดี ขานรับธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ประกาศลดอัตราดอกเบี้ยลงมากถึง 0.50% ในการประชุมล่าสุด
  • ราคาทองคำตลาดโลก ปรับตัวขึ้น 27.29 เหรียญ หรือ 1.07% อยู่ที่ระดับ 2,586.52 เหรียญ
  • ทั้งนี้ สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 16 ดอลลาร์ หรือ 0.62% ปิดที่ 2,614.60 ดอลลาร์/ออนซ์
  • สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 73.60 เซนต์ หรือ 2.40% ปิดที่ 31.423 ดอลลาร์/ออนซ์
  • สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนม.ค. เพิ่มขึ้น 19.60 ดอลลาร์ หรือ 2.01% ปิดที่ 994.40 ดอลลาร์/ออนซ์
  • กองทุนทองคำ SPDR วันก่อนหน้าซื้อเข้า 1.73 ตัน ปัจจุบันถือครองที่ 873.96 ตันภาพรวมเดือนกันยายน ซื้อสุทธิ 11.22 ตัน ขณะที่ปีนี้ ตั้งแต่ 1 ม.ค. - ปัจจุบัน ขายสุทธิ 5.15 ตัน
  • นักวิเคราะห์จาก UBS คาดการณ์ว่า ราคาทองคำมีแนวโน้มปรับตัวขึ้นอีก โดยคาดว่าราคาจะพุ่งขึ้นแตะระดับ 2,700 ดอลลาร์/ออนซ์ภายในช่วงกลางปี 2568 โดยได้ปัจจัยหนุนจากภาวะดอกเบี้ยขาลง สถานการณ์ตึงเครียดในตะวันออกกลาง และแรงซื้อจากกองทุน ETF ทองคำ

ข่าวเกี่ยวกับค่าเงิน และธนาคารกลาง

  • ดัชนีดอลลาร์ ปรับตัวลดลง -0.33 จุด หรือ -0.33% มาอยู่ที่ระดับ 100.68 จุด
  • อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี ปรับตัวขึ้น 0.01 % มาอยู่ที่ระดับ 3.715% ในขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 2 ปี ปรับตัวลดลง -0.04 % มาอยู่ที่ระดับ 3.588% โดยที่ส่วนต่างอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ 10 ปี มากกว่า 2 ปี เท่ากับ0.13%
  • ธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) มีมติด้วยคะแนนเสียง 8-1 ในการคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับ 5.00% ในการประชุมเมื่อวานนี้ สอดคล้องกับการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ ก่อนหน้านี้ BoE ได้ทำการปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% สู่ระดับ 5.00% ในการประชุมเดือนส.ค. ซึ่งเป็นการปรับลดอัตราดอกเบี้ยครั้งแรกในรอบกว่า 4 ปี หลังจากที่ได้ตรึงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 5.25% ติดต่อกัน 7 ครั้ง
  • JP Morgan ซึ่งได้คาดการณ์ถูกต้องว่าเฟดจะลดดอกเบี้ย 0.5% ในการประชุมครั้งก่อน ได้ออกมาคาดการณ์อีกครั้งว่า เฟดอาจสร้างความประหลาดใจด้วยการลดดอกเบี้ยอีก 0.5% ในการประชุมเดือนพฤศจิกายน



ข่าวเกี่ยวกับตลาดหุ้นและเศรษฐกิจ



  • ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในวันพฤหัสบดี โดยดาวโจนส์ทะยานขึ้นเหนือระดับ 42,000 จุดเป็นครั้งแรก ขณะที่ดัชนี S&P500 ปิดที่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์เช่นกัน หลังจากธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ประกาศลดอัตราดอกเบี้ย 0.50% และส่งสัญญาณปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงอีกหลายครั้ง
  • ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 42,025.19 จุด เพิ่มขึ้น 522.09 จุด หรือ +1.26%
  • ดัชนี S&P500 ปิดที่ 5,713.64 จุด เพิ่มขึ้น 95.38 จุด หรือ +1.70% และ
  • ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 18,013.98 จุด เพิ่มขึ้น 440.68 จุด หรือ +2.51%
  • นักวิเคราะห์หลายรายมองว่า การที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.50% อาจจะเป็นปัจจัยบวกต่อตลาดหุ้นในเอเชีย เพราะจะเป็นการเปิดทางให้ธนาคารกลางต่าง ๆ ในภูมิภาคเอเชียมีโอกาสมากขึ้นในการใช้นโยบายผ่อนคลายทางการเงิน
  • แกรี ดูแกน ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของบริษัท ดาลมา แคปิตอล (Dalma Capital) กล่าวว่า การปรับลดอัตราดอกเบี้ยของเฟดจะช่วยลดแรงกดดันในการดำเนินนโยบายคุมเข้มด้านการเงิน และช่วยลดความกังวลเกี่ยวกับการอ่อนค่าของสกุลเงินในเอเชีย ซึ่งผลลัพธ์ดังกล่าวจะเป็นปัจจัยบวกกับสินทรัพย์เสี่ยงและสกุลเงินที่ให้ผลตอบแทนสูง
  • ตามการประมาณการจากบริษัทวิเคราะห์อนุพันธ์ Asym 500 จับตาเหตุการณ์ "triple-witching" รายไตรมาสครั้งนี้ คาดว่าจะได้เห็น Option มูลค่า 5.1 ล้านล้านดอลลาร์ที่เชื่อมโยงกับหุ้น ดัชนี และ ETF หมดอายุ โดยผู้จัดการพอร์ตโฟลิโอร่วมของ Little Harbor Advisors กล่าวว่าเหตุการณ์ “Triple-witching มีแนวโน้มที่จะเพิ่มความผันผวนในตลาด
  • หากการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของเฟดถูกตีความว่าสายเกินไป อาจมีการ Protective Put ซึ่งอาจลากให้ตลาดปรับตัวลงหาก Dealer ถูกบังคับให้ป้องกันความเสี่ยงแต่ถ้าการลดดอกเบี้ยได้รับการตอบรับอย่างดีนั่น จะสนับสนุนให้ตลาดหุ้นไปต่อ

 

ข่าวเกี่ยวกับน้ำมัน

  • สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกในวันพฤหัสบดี หลังจากธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ประกาศลดอัตราดอกเบี้ย 0.50% ซึ่งทำให้นักลงทุนมีความหวังว่าจะช่วยกระตุ้นกิจกรรมทางเศรษฐกิจและอุปสงค์น้ำมัน นอกจากนี้ ราคาน้ำมันยังได้ปัจจัยหนุนจากการปรับตัวลงของสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐฯ รวมทั้งสถานการณ์ตึงเครียดในตะวันออกกลาง
  • สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนต.ค. เพิ่มขึ้น 1.04 ดอลลาร์ หรือ 1.47% ปิดที่ 71.95 ดอลลาร์/บาร์เรล
  • ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนพ.ย. เพิ่มขึ้น 1.23 ดอลลาร์ หรือ 1.67% ปิดที่ 74.88 ดอลลาร์/บาร์เรล

 

  • ตลาดยังได้แรงหนุนจากรายงานของสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐฯ (EIA) ซึ่งระบุว่า สต็อกน้ำมันดิบรายสัปดาห์ลดลง 1.6 ล้านบาร์เรล มากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลงเพียง 200,000 บาร์เรล
  • หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์จากบริษัท Matador Economics กล่าวว่า ราคาน้ำมันยังได้แรงหนุนจากสถานการณ์ตึงเครียดในตะวันออกกลาง หลังจากมีรายงานว่า walkie-talkie หรือเครื่องรับส่งสัญญาณวิทยุแบบมือถือที่ใช้งานโดยกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ในเลบานอนได้เกิดระเบิดเมื่อวันพุธที่ผ่านมา

 

ข่าวการเมือง

  • ประธานาธิบดีโวโลดิเมียร์ เซเลนสกี ของยูเครน เปิดเผยเข้าได้เตรียมแผนแห่งชัยชนะ” (Victory Plan) เสร็จสมบูรณ์แล้ว หลังผ่านการปรึกษาหารือหลายต่อหลายครั้ง โดยแผนดังกล่าวมีจุดมุ่งหมายในการนำสันติภาพมาสู่ยูเครน พร้อมกับรักษาประเทศให้มีความเข้มแข็ง และหลีกเลี่ยงความขัดแย้ง โดยจะนำเสนอแผนดังกล่าวต่อประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐฯ ซึ่งคาดว่าจะเป็นสัปดาห์หน้า 
  • สหภาพแรงงานทีมสเตอร์ (The International Brotherhood of Teamsters) มีสมาชิกกว่า 1.3 ล้านคน ประกาศว่าจะไม่สนับสนุนผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ คนใดเลย แม้ผลสำรวจภายในจะพบว่าสมาชิกส่วนใหญ่หนุนโดนัลด์ ทรัมป์ จากพรรครีพับลิกัน มากกว่าคามาลา แฮร์ริส จากพรรคเดโมแครต

 

ข่าวเกี่ยวกับเศรษฐกิจไทยและค่าเงินบาท

  • นักกลยุทธ์ตลาดเงินตลาดทุน Krungthai GLOBAL MARKETS ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่า "ค่าเงินบาทวันนี้" ค่าเงินบาทเปิดเช้านี้ ที่ระดับ 33.13 บาทต่อดอลลาร์อ่อนค่าลงเล็กน้อยจากระดับปิดวันก่อนหน้า ที่ระดับ  33.09 บาทต่อดอลลาร์ มองกรอบเงินบาทวันนี้ คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 32.85-33.30 บาทต่อดอลลาร์ 
  • ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ ผู้บริหารสำนักวิจัย ธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย (CIMBT) มีมุมมองเรื่องดอกเบี้ยไทยว่า ในรอบการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ในเดือนต.ค.ที่จะถึงนี้คาดว่าจะยังไม่ปรับลดดอกเบี้ย เนื่องจาก 3 ปัจจัย 1. รอดูทิศทางการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทย 2. รอดูรอบการประชุมของเฟดในเดือนพ.ย.ว่าจะลดดอกเบี้ย 0.25% หรือจะลดดอกเบี้ยแรงต่อเนื่องจากครั้งนี้ที่ลดไปถึง 0.50%  3. รอติดตามผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีของสหรัฐฯ คาดว่าจะมีความชัดเจนในเดือนพ.ย.
  • รมช.คลัง กล่าวว่า แนวโน้มอัตราดอกเบี้ยทั่วโลกน่าจะเริ่มเข้าสู่ช่วงขาลงส่วนแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยนโยบายของไทยนั้น มองว่า จำเป็นต้องดำเนินการให้สอดคล้องและเหมาะสมกับสภาวะเศรษฐกิจโลก ตลอดจนทิศทางนโยบายการเงินของโลกด้วย

 

 

ที่มาจาก : Reuters, Infoquest, BangkokBizNews

Tags : ข่าวทอง, ข่าวทอง , ทอง , ราคาทอง

 

 

 

 

 

บริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ จำกัด
40,42,44 ถนนทรัพย์สิน แขวงวังบูรพาภิรมย์เขตพระนคร กรุงเทพ 10200
โทรศัพท์ 0 2770 7777 โทรสาร 0 2623 9366 E-mail: support@mtsgoldgroup.com