• สรุปข่าวราคาทองคำ ประจำวันที่ 30 กันยายน 2567

    30 กันยายน 2567 | Gold News


ข่าวเกี่ยวกับทองคำ


  • สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดลดลงในวันศุกร์ เนื่องจากนักลงทุนขายทำกำไร หลังจากราคาพุ่งขึ้นก่อนหน้านี้

  • ราคาทองคำตลาดโลก ปรับตัวลดลง -10.39 เหรียญ หรือ -0.39% อยู่ที่ระดับ 2,661.81 เหรียญ
  • สัญญาทองคำตลาด COMEX ส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 26.80 เหรียญ หรือ 0.99% ปิดที่ 2,668.10 เหรียญ แต่ในรอบสัปดาห์นี้ สัญญาทองคำปรับตัวขึ้น 1.28%
  • สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 52.5 เซนต์ หรือ 1.62% ปิดที่ 31.816 เหรียญ
  • สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนม.ค. ลดลง 20 เซนต์ หรือ 0.02% ปิดที่ 1,022.00 เหรียญ


  • กองทุนทองคำ SPDR วันก่อนหน้าขายออก 5.18 ตัน ปัจจุบันถือครองที่ 871.94 ตันภาพรวมเดือนกันยายน ซื้อสุทธิ 9.2 ตัน ขณะที่ปีนี้ ตั้งแต่ 1 ม.ค. - ปัจจุบัน ขายสุทธิ 7.17 ตัน


  • ราคาทองยังได้แรงหนุนจากการที่นักลงทุนพากันเข้าซื้อทองในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ในตะวันออกกลาง ขณะที่อิสราเอลเข้าโจมตีฐานที่มั่นของกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ในเลบานอน ส่งผลให้มีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตจำนวนมาก


  • สำนักงานสำรวจสำมะโนประชากรและสถิติของฮ่องกงเปิดเผยว่า จีนนำเข้าทองคำสุทธิจำนวน 6.245 ตันในเดือนส.ค. ร่วงลง 76% จาก 25.659 ตันในเดือนก.ค. โดยการนำเข้าลดลงต่ำสุดในรอบกว่า 2 ปีนับตั้งแต่เดือนเม.ย. 2565 เนื่องจากราคาทองคำที่พุ่งสูงสุดเป็นประวัติการณ์ทำให้ความต้องการของจีนลดลง


  • ผลสำรวจ Kitco News Gold Survey ล่าสุดพบว่า นักวิเคราะห์ชั้นนำแบ่งความเห็นเป็นสองฝ่ายเกี่ยวกับแนวโน้มราคาทองคำในสัปดาห์นัเ โดยประมาณ 43% คาดว่าราคาจะปรับตัวสูงขึ้น ขณะที่อีก 43% มองว่าจะลดลง ในขณะเดียวกัน นักลงทุนทั่วไปส่วนใหญ่ยังคงมองว่าราคาทองคำมีโอกาสปรับตัวขึ้นต่อ แต่ความเชื่อมั่นดังกล่าวลดลงเล็กน้อยเมื่อเทียบกับสัปดาห์ก่อน โดย 62% คาดว่าราคาจะเพิ่มขึ้น ขณะที่ 20% คาดว่าจะลดลง 


  • นักวิเคราะห์อาวุโสของ Kitco news นายจิม ไวคอฟฟ์ คาดว่าราคาทองคำจะลดลงในระยะสั้นนี้ "ราคาจะอ่อนตัวลงอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากในระยะสั้นในทางเทคนิค ตลาดมีการซื้อมากเกินไป และมีแนวโน้มจะเกิดการย่อพักฐาน


ข่าวเกี่ยวกับค่าเงิน และธนาคารกลาง


  • ดัชนีดอลลาร์ ปรับตัวลดลง -0.17 จุด หรือ -0.17% มาอยู่ที่ระดับ 100.41 จุด
  • อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี  ปรับตัวลดลง -0.04 % มาอยู่ที่ระดับ 3.758% ในขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 2 ปี ปรับตัวลดลง -0.06 % มาอยู่ที่ระดับ 3.574% โดยที่ส่วนต่างอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ 10 ปี มากกว่า 2 ปี เท่ากับ0.18%


  • เยนแข็งค่าขึ้น หลังนายชิเงรุ อิชิบะ อดีตรัฐมนตรีกลาโหมของญี่ปุ่น ชนะการเลือกตั้งหัวหน้าพรรคเสรีประชาธิปไตย (LDP) ซึ่งเป็นพรรครัฐบาล ส่งผลให้นายอิชิบะกลายเป็นว่าที่นายกรัฐมนตรีคนใหม่ของญี่ปุ่น


  • ธนาคารกลางจีน (PBOC) ประกาศซื้อคืนพันธบัตร (reverse repo) ระยะ 7 วัน มูลค่า 1.82 แสนล้านหยวน (ราว 2.596 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ) ที่อัตราดอกเบี้ย 1.5% โดยความเคลื่อนไหวดังกล่าวมีจุดมุ่งหมายเพื่อรักษาสภาพคล่องในระบบธนาคารให้อยู่ในระดับที่เหมาะสมและเพียงพอในช่วงปลายไตรมาส

ข่าวเกี่ยวกับตลาดหุ้นและเศรษฐกิจ


  • ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกที่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในวันศุกร์ เนื่องจากข้อมูลเงินเฟ้อที่ต่ำกว่าคาดทำให้มีความหวังว่า ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงอีก ส่วนดัชนี S&P500 และดัชนี Nasdaq ปรับตัวลงเล็กน้อย แต่ก็ยังคงอยู่ใกล้กับระดับสูงเป็นประวัติการณ์


  • ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 42,313.00 จุด เพิ่มขึ้น 137.89 จุด หรือ +0.33%
  • ดัชนี S&P500 ปิดที่ 5,738.17 จุด ลดลง 7.20 จุด หรือ -0.13% 
  • ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 18,119.59 จุด ลดลง 70.70 จุด หรือ -0.39%


  • โดยในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา ดัชนีดาวโจนส์บวก 0.59%, ดัชนี S&P500 เพิ่มขึ้น 0.62% และดัชนี Nasdaq ปรับตัวขึ้น 0.95%


  • ตลาดหุ้นเอเชียส่วนใหญ่แข็งแกร่งขึ้นในวันจันทร์ เนื่องจากจีนประกาศมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม แต่ด้านวดัชนี Nikkei ร่วงลงแรงกว่า 4% ในเช้านี้ จากความกังวลว่านายกรัฐมนตรีคนใหม่ของญี่ปุ่นสนับสนุนให้ปรับอัตราดอกเบี้ยต่อไป


  • ดัชนี PMI เศรษฐกิจขนาดใหญ่อย่างจีน และสหรัฐฯคาดยังคงอยู่ต่ำกว่าระดับ 50 จุด สะท้อนกิจการภาคการผลิตที่หดตัว และสะท้อนภาพทิศทางของเศรษฐกิจโลกเป็นการชะลอตัวลง

ข่าวเกี่ยวกับน้ำมัน


  • สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดปรับตัวขึ้นในวันศุกร์ แต่ลดลงในรอบสัปดาห์นี้ ขณะที่นักลงทุนชั่งน้ำหนักระหว่างการคาดการณ์เกี่ยวกับปริมาณน้ำมันที่เพิ่มขึ้นทั่วโลกกับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของจีนซึ่งเป็นผู้นำเข้าน้ำมันรายใหญ่


  • สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนพ.ย. เพิ่มขึ้น 51 เซนต์ หรือ 0.75% ปิดที่ 68.18 ดอลลาร์/บาร์เรล
  • สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนพ.ย. เพิ่มขึ้น 38 เซนต์ หรือ 0.53% ปิดที่ 71.98 ดอลลาร์/บาร์เรล


  • แต่ในรอบสัปดาหที่ผ่านมานี้ สัญญาน้ำมันดิบ WTI ลดลงราว 5% และน้ำมันดิบเบรนท์ปรับตัวลงราว 3%


  • ธนาคารกลางจีนได้ปรับลดอัตราดอกเบี้ยและอัดฉีดสภาพคล่องเข้าสู่ระบบธนาคารเมื่อวันศุกร์ เพื่อพยายามกระตุ้นการเติบโตทางเศรษฐกิจให้กลับสู่เป้าหมายที่ประมาณ 5% ในปีนี้


  • นอกจากนี้ คาดว่าจีนจะประกาศมาตรการด้านการคลังเพิ่มเติมก่อนวันหยุดของจีนที่เริ่มตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค. หลังจากการประชุมของผู้นำระดับสูงของพรรคคอมมิวนิสต์แสดงให้เห็นถึงความเร่งด่วนมากขึ้นในการรับมือกับแรงกดดันด้านเศรษฐกิจที่เพิ่มขึ้น


  • แหล่งข่าวเปิดเผยว่า กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมันและพันธมิตรหรือโอเปกพลัส จะดำเนินการตามแผนการเพิ่มการผลิตน้ำมัน 180,000 บาร์เรลต่อวันในแต่ละเดือนโดยเริ่มตั้งแต่เดือนธ.ค.


  • ด้านนายกรัฐมนตรีรักษาการของเลบานอน นาจิบ มิกาติ กล่าวว่า การโจมตีของอิสราเอลในเขตชานเมืองทางตอนใต้ของกรุงเบรุตในวันศุกร์นั้นแสดงให้เห็นว่าอิสราเอลไม่ใส่ใจต่อความพยายามที่จะทำข้อตกลงหยุดยิง ซึ่งก็ได้ช่วยหนุนราคาน้ำมัน


  • สำนักงานความปลอดภัยและการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมของสหรัฐฯ เปิดเผยว่า ประมาณ 24% ของการผลิตน้ำมันดิบและ 18% ของการผลิตก๊าซธรรมชาติในอ่าวเม็กซิโกของสหรัฐฯ ได้ถูกระงับชั่วคราวเพื่อรับมือกับพายุเฮอริเคนเฮเลน (Helene)

ข่าวการเมือง


  • รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังของออสเตรเลีย กล่าวยกย่องความพยายามในการกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งใหม่ของจีน ชี้เป็นความเคลื่อนไหวที่น่ายินดียิ่งสำหรับทั้งสองชาติและเศรษฐกิจโลกโดยรวม


  • สำนักข่าวซินหัวรายงานการเปิดเผยของกองกำลังป้องกันอิสราเอลซึ่งประกาศว่า ฮัสซัน นาสรัลเลาะห์ ผู้นำกลุ่มติดอาวุธฮิซบอลเลาะห์ของเลบานอนได้เสียชีวิตแล้ว หลังจากอิสราเอลโจมตีทางอากาศในเขตชานเมืองทางตอนใต้ของกรุงเบรุต


  • กระทรวงต่างประเทศรัสเซียออกแถลงการณ์ประณามการสังหารฮัสซัน นาสรัลเลาะห์ ผู้นำกลุ่มติดอาวุธฮิซบอลเลาะห์ ของอิสราเอลอย่างรุนแรง พร้อมเรียกร้องให้อิสราเอลยุติการโจมตี


  • สหรัฐฯ และจีนกำลังพิจารณาความเป็นไปได้ในการจัดการประชุมสุดยอดครั้งสุดท้ายระหว่างไบเดนและสีในเดือนพ.ย. ซึ่งอาจจัดขึ้นระหว่างการประชุมพหุภาคีที่บราซิลหรือเปรู


ข่าวเกี่ยวกับเศรษฐกิจไทยและค่าเงินบาท


  • ค่าเงินบาทวันนี้ เปิดตลาดแข็งค่าที่ 32.37 บาทต่อดอลลาร์ แข็งค่าจากราคาปิดตลาดเมื่อวันศุกร์ที่ระดับ 32.42 บาทต่อดอลลาร์ โดยกรอบแนวรับที่ 32.20 บาท แนวต้าน 32.50 บาท


  • มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยว่า ในระยะยาวการส่งออกต้องเติบโตจากปัจจัยพื้นฐาน ไม่ใช่ปัจจัยความได้เปรียบด้านราคาผ่านอัตราแลกเปลี่ยน ปัจจัยพื้นฐานมีทั้งเรื่องผลิตภาพของอุตสาหกรรมส่งออก ประสิทธิภาพ และต้นทุนการผลิต ผลิตภัณฑ์ที่ตอบสนองต่อตลาดโลก แบรนด์ของสินค้าที่แข็งแรง นวัตกรรมและการพัฒนาสินค้าและบริการตลอดเวลา ความสามารถในการเจาะตลาดใหม่ ๆ และรักษาตลาดเดิมได้

 


ที่มาจาก : Reuters, Infoquest, BangkokBizNews

Tags : ข่าวทอง, ข่าวทอง , ทอง , ราคาทอง

บริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ จำกัด
40,42,44 ถนนทรัพย์สิน แขวงวังบูรพาภิรมย์เขตพระนคร กรุงเทพ 10200
โทรศัพท์ 0 2770 7777 โทรสาร 0 2623 9366 E-mail: support@mtsgoldgroup.com