• สรุปข่าวราคาทองคำ ประจำวันที่ 4 ตุลาคม 2567

    4 ตุลาคม 2567 | Gold News


ข่าวเกี่ยวกับทองคำ


  • สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกในวันพฤหัสบดี เนื่องจากสถานการณ์ตึงเครียดในตะวันออกกลางเป็นปัจจัยหนุนแรงซื้อทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย ขณะที่นักลงทุนจับตาการเปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐฯ ในวันนี้อย่างใกล้ชิด เพื่อประเมินทิศทางอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด)


  • ราคาทองคำตลาดโลก ปรับตัวลดลง -2.82 เหรียญ หรือ -0.11% อยู่ที่ระดับ 2,655.95 เหรียญ
  • สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 9.50 ดอลลาร์ หรือ 0.36% ปิดที่ 2,679.20 ดอลลาร์/ออนซ์
  • สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 54.40 เซนต์ หรือ 1.70% ปิดที่ 32.464 ดอลลาร์/ออนซ์
  • สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนม.ค. ลดลง 11.20 ดอลลาร์ หรือ 1.10% ปิดที่ 1,005.60 ดอลลาร์/ออนซ์
  • กองทุนทองคำ SPDR วันก่อนหน้าซื้อเข้า 2.58 ตัน ปัจจุบันถือครองที่ 877.4 ตันภาพรวมเดือนตุลาคม ซื้อสุทธิ 5.46 ตัน ขณะที่ปีนี้ ตั้งแต่ 1 ม.ค. - ปัจจุบัน ขายสุทธิ 1.71 ตัน


  • ปีเตอร์ แกรนท์ นักกลยุทธ์ด้านโลหะของบริษัท Zaner Metals กล่าวว่า แม้ตลาดทองคำเผชิญปัจจัยลบจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์ แต่สถานการณ์ตึงเครียดในตะวันออกกลางยังคงเป็นปัจจัยหนุนแรงซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย โดยดอลลาร์แข็งค่าหลังจากนักลงทุนปรับลดน้ำหนักต่อการคาดการณ์ที่ว่าเฟดจะลดอัตราดอกเบี้ย 0.50% ในการประชุมเดือนพ.ย.


  • ธนาคารกลางโปแลนด์ประกาศเพิ่มปริมาณทองคำสำรองเป็น 420 ตัน ส่งผลให้ประเทศเข้าสู่กลุ่มประเทศที่มีทองคำสำรองมากที่สุดในโลก และยังมีแผนที่จะซื้อทองคำเพิ่มขึ้นอีก โดยตั้งเป้าหมายให้ทองคำสำรองคิดเป็น 20% ของทุนสำรองเงินตราต่างประเทศทั้งหมด


ข่าวเกี่ยวกับค่าเงิน และธนาคารกลาง


  • ดัชนีดอลลาร์ ปรับตัวขึ้น 0.27 จุด หรือ 0.27% มาอยู่ที่ระดับ 101.9 จุด
  • อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี ปรับตัวขึ้น 0.06 % มาอยู่ที่ระดับ 3.846% ในขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 2 ปี ปรับตัวขึ้น 0.06 % มาอยู่ที่ระดับ 3.709% โดยที่ส่วนต่างอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ 10 ปี มากกว่า 2 ปี เท่ากับ0.14%


  • กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ระบุว่า ธนาคารกลางออสเตรเลีย (RBA) อาจจำเป็นต้องปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก หากมีความคืบหน้าในการควบคุมเงินเฟ้อ พร้อมกับเตือน รัฐมนตรีคลังออสเตรเลียว่า จะต้องดำเนินการอย่างสอดคล้องกับ RBA ในการฉุดเงินเฟ้อให้ชะลอตัวลง


  • ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ ประจำชิคาโก ออสตัน กูลส์บี ได้แสดงความเห็นว่า อัตราดอกเบี้ยของสหรัฐฯ จำเป็นต้องลดลงอย่างมากในปีหน้า โดยให้เหตุผลว่าอัตราเงินเฟ้อเริ่มคลี่คลาย: สถานการณ์เงินเฟ้อในสหรัฐฯ เริ่มดีขึ้นและใกล้จะเข้าสู่เป้าหมายที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ กำหนดไว้ รวมถึงตลาดแรงงานแข็งแกร่ง: อัตราการว่างงานอยู่ในระดับต่ำ และหวังว่าอัตราการว่างงานจะไม่เพิ่มขึ้นจากระดับ 4.2% ในปัจจุบัน


ข่าวเกี่ยวกับตลาดหุ้นและเศรษฐกิจ


  • ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบในวันพฤหัสบดี โดยตลาดถูกกดดันจากความกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ตึงเครียดในตะวันออกกลาง ขณะที่นักลงทุนจับตาการเปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐฯ ในวันนี้


  • ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 42,011.59 จุด ลดลง 184.93 จุด หรือ -0.44%
  • ดัชนี S&P500 ปิดที่ 5,699.94 จุด ลดลง 9.60 จุด หรือ -0.17% 
  • ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 17,918.48 จุด ลดลง 6.65 จุด หรือ -0.04%


  • หุ้น 8 ใน 11 กลุ่มที่คำนวณในดัชนี S&P500 ปิดในแดนลบ นำโดยดัชนีหุ้นกลุ่มสินค้าฟุ่มเฟือยร่วงลง 1.25% ตามด้วยดัชนีหุ้นกลุ่มวัสดุร่วงลง 1.15% ส่วนดัชนีหุ้นกลุ่มพลังงานปรับตัวขึ้นแข็งแกร่งที่สุด โดยพุ่งขึ้น 1.58% ตามด้วยดัชนีหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีดีดตัวขึ้น 0.60%


  • กระทรวงแรงงานสหรัฐฯ มีกำหนดเปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรประจำเดือนก.ย.ในวันนี้ เวลา 19.30 น.ตามเวลาไทย ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ตัวเลขจ้างงานจะเพิ่มขึ้น 144,000 ตำแหน่งในเดือนก.ย. หลังจากเพิ่มขึ้น 142,000 ตำแหน่งในเดือนส.ค. และคาดว่าอัตราว่างงานเดือนก.ย.จะอยู่ที่ระดับ 4.2% ไม่เปลี่ยนแปลงจากเดือนส.ค.


  • ส่วนข้อมูลแรงงานล่าสุดที่มีการเปิดเผยเมื่อคืนนี้ กระทรวงแรงงานสหรัฐฯ เปิดเผยว่าตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกเพิ่มขึ้น 6,000 ราย สู่ระดับ 225,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 221,000 ราย


ข่าวเกี่ยวกับน้ำมัน


  • สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นกว่า 5% ในวันพฤหัสบดี และเป็นการปรับตัวขึ้นติดต่อกันวันที่ 3 โดยราคาน้ำมันยังคงได้แรงหนุนจากการคาดการณ์ที่ว่าสถานการณ์ตึงเครียดในตะวันออกกลางจะส่งผลกระทบต่ออุปทานน้ำมันในตลาดโลก ซึ่งล่าสุดมีรายงานว่าประธานาธิบดีโจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐกำลังหารือกับอิสราเอลเกี่ยวกับการโจมตีคลังน้ำมันของอิหร่าน


  • สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนพ.ย. เพิ่มขึ้น 3.61 ดอลลาร์ หรือ 5.15% ปิดที่ 73.71 ดอลลาร์/บาร์เรล
  • สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 3.72 ดอลลาร์ หรือ 5.03% ปิดที่ 77.62 ดอลลาร์/บาร์เรล


  • สถานการณ์ตึงเครียดในตะวันออกกลางยังคงเป็นแรงหนุนราคาน้ำมัน โดยล่าสุดปธน.ไบเดนผู้นำสหรัฐเปิดเผยว่า เขากำลังหารือกับอิสราเอลเกี่ยวกับความเป็นไปได้ในการโจมตีคลังน้ำมันของอิหร่าน


  • หัวหน้านักวิเคราะห์สินค้าโภคภัณฑ์ของธนาคาร SEB กล่าวว่า กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมันและชาติพันธมิตร (โอเปกพลัส) ยังคงมีกำลังการผลิตน้ำมันส่วนเกินที่เพียงพอสำหรับชดเชยการส่งออกน้ำมันที่ลดลงของอิหร่าน ในกรณีที่อิสราเอลทำการโจมตีคลังน้ำมันของอิหร่าน แต่หากการโจมตีดังกล่าวทำให้ผู้ค้าน้ำมันเกิดความกังวลเกี่ยวกับการปิดช่องแคบฮอร์มุซ และมีการเพิ่มค่าพรีเมียมความเสี่ยงเข้าไปในราคาน้ำมัน ก็จะทำให้ราคาน้ำมันพุ่งขึ้นแตะระดับ 200 ดอลลาร์/บาร์เรล


  • ทั้งนี้ อิหร่านเป็นหนึ่งในสมาชิกรายใหญ่ของกลุ่มโอเปก โดยมีกำลังการผลิต 3.2 ล้านบาร์เรล/วัน หรือคิดเป็นสัดส่วน 3% ของผลผลิตน้ำมันทั่วโลก


ข่าวการเมือง


  • ทำเนียบประธานาธิบดีเกาหลีใต้เปิดเผย ว่า ยุน ซอกยอล ประธานาธิบดีเกาหลีใต้ และชิเงรุ อิชิบะ นายกรัฐมนตรีคนใหม่ของญี่ปุ่น กำลังหารือกันเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการพบกันเป็นครั้งแรกในสัปดาห์หน้า นอกรอบการประชุมสุดยอดอาเซียนที่ประเทศลาว


  • สื่อรัสเซียรายงานว่า กองทัพรัสเซียบุกยึดเมืองวูห์เลดาร์ (Vuhledar) ทางตะวันออกของยูเครนได้สำเร็จ หลังยูเครนต้านทานการโจมตีมานานสองปีนับตั้งแต่รัสเซียเปิดฉากโจมตีเต็มรูปแบบเมื่อปี 2565


  • ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐฯ กล่าวว่า เขาไม่สนับสนุนให้อิสราเอลโจมตีอาคารสถานที่ด้านนิวเคลียร์ของอิหร่านเพื่อเป็นการตอบโต้อิหร่านที่โจมตีอิสราเอลด้วยขีปนาวุธก่อนหน้านี้ พร้อมทั้งขอให้อิสราเอลตอบโต้อิหร่านอย่างพอเหมาะ


ข่าวเกี่ยวกับเศรษฐกิจไทยและค่าเงินบาท


  • นักบริหารการเงิน เปิดเผยว่า ค่าเงินบาทเปิดเช้านี้ ที่ระดับ 33.12 บาทต่อดอลลาร์แข็งค่าขึ้นเล็กน้อย แทบไม่เปลี่ยนแปลงจากระดับปิดวันก่อนหน้า ที่ระดับ  33.14 บาทต่อดอลลาร์  มองกรอบเงินบาทวันนี้ คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 33.00-33.30 บาทต่อดอลลาร์ (ระวังความผันผวนในช่วงตลาดทยอยรับรู้รายงานข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ)


  • รมว.คลัง เปิดเผยว่า จากที่ได้หารือกับ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ที่ได้ประเมินว่าอัตราเงินเฟ้อในไตรมาส 4 ปีนี้ จะอยู่ที่ราว 1% ส่งผลให้คาดว่าทั้งปี 67 เงินเฟ้อทั่วไปมีแนวโน้มจะหลุดกรอบล่างของเป้าหมายที่วางไว้ที่ 1-3% ดังนั้น จะมีการนัดกับผู้ว่าฯ ธปท.อีกครั้งภายในเดือนต.ค.นี้ เพื่อหารือกันว่าเมื่อทิศทางของเงินเฟ้อ


  • นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รมช.คลัง กล่าวว่า รัฐบาลมีความพยายามจะผลักดันให้เศรษฐกิจไทยในปีหน้าโตได้มากกว่า 3% ส่วนหนึ่งจะมีเม็ดเงินจากโครงการดิจิทัลวอลเล็ตใส่เข้าไป รวมทั้งการกระตุ้นเศรษฐกิจอีกครั้งใหญ่


  • รมช.คลัง กล่าวว่า รัฐบาลมีความพยายามจะผลักดันให้เศรษฐกิจไทยในปีหน้าโตได้มากกว่า 3% ส่วนหนึ่งจะมีเม็ดเงินจากโครงการดิจิทัลวอลเล็ตใส่เข้าไป รวมทั้งการกระตุ้นเศรษฐกิจอีกครั้งใหญ่



ที่มาจาก : Reuters, Infoquest, BangkokBizNews

Tags : ข่าวทอง, ข่าวทอง , ทอง , ราคาทอง

 

บริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ จำกัด
40,42,44 ถนนทรัพย์สิน แขวงวังบูรพาภิรมย์เขตพระนคร กรุงเทพ 10200
โทรศัพท์ 0 2770 7777 โทรสาร 0 2623 9366 E-mail: support@mtsgoldgroup.com