• สรุปข่าวราคาทองคำ ประจำวันที่ 10 ตุลาคม 2567

    10 ตุลาคม 2567 | Gold News


ข่าวเกี่ยวกับทองคำ


  • สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดลบติดต่อกันเป็นวันที่ 6 ในวันพุธ เนื่องจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์เป็นปัจจัยกดดันตลาด นอกจากนี้ ตลาดทองคำยังคงถูกกดดันจากการที่นักลงทุนลดความคาดหวังว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.50% ในการประชุมเดือนพ.ย. 


  • ราคาทองคำตลาดโลก ปรับตัวลดลง -15.11 เหรียญ หรือ -0.58% อยู่ที่ระดับ 2,607.0 เหรียญ
  • สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 9.40 ดอลลาร์ หรือ 0.36% ปิดที่ 2,626.00 ดอลลาร์/ออนซ์
  • สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 7 เซนต์ หรือ 0.23% ปิดที่ 30.67 ดอลลาร์/ออนซ์
  • สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนม.ค. ลดลง 4.70 ดอลลาร์ หรือ 0.49% ปิดที่ 957.30 ดอลลาร์/ออนซ์
  • กองทุนทองคำ SPDR วันก่อนหน้าไม่เปลี่ยนแปลง ปัจจุบันถือครองที่ 876.26 ตันภาพรวมเดือนตุลาคม ซื้อสุทธิ 4.32 ตัน ขณะที่ปีนี้ ตั้งแต่ 1 ม.ค. - ปัจจุบัน ขายสุทธิ 2.85 ตัน


ข่าวเกี่ยวกับค่าเงิน และธนาคารกลาง


  • ดัชนีดอลลาร์ ปรับตัวขึ้น 0.39 จุด หรือ 0.38% มาอยู่ที่ระดับ 102.87 จุด
  • อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี ปรับตัวขึ้น 0.06 % มาอยู่ที่ระดับ 4.075% ในขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 2 ปี ปรับตัวขึ้น 0.06 % มาอยู่ที่ระดับ 4.022% โดยที่ส่วนต่างอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ 10 ปี มากกว่า 2 ปี เท่ากับ0.05%


  • นายปีเตอร์ คาซิมีร์ สมาชิกสภาบริหารธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) และผู้ว่าการธนาคารกลางสโลวาเกีย กล่าวว่า เขาไม่เชื่อมั่นว่ามีความจำเป็นต้องลดอัตราดอกเบี้ยในสัปดาห์หน้า โดยระบุว่า ข้อมูลที่สำคัญจะออกมาก่อนการประชุมในเดือนธ.ค.เท่านั้น


  • เออิจิ มาเอดะ อดีตกรรมการบริหารด้านนโยบายการเงินของธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) กล่าวว่า ชิเงรุ อิชิบะ นายกรัฐมนตรีคนใหม่ของญี่ปุ่น จะไม่ขัดขวาง BOJ ในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย โดยเดือนม.ค.ปีหน้าเป็นช่วงเวลาที่เป็นไปได้มากที่สุดสำหรับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งถัดไป


  • ผลสำรวจของรอยเตอร์คาดว่า การให้สินเชื่อสกุลเงินหยวนใหม่ของจีนอาจพุ่งขึ้นในเดือนก.ย.จากเดือนส.ค. ขณะที่ธนาคารกลางจีนเพิ่มมาตรการกระตุ้นเพื่อทำให้เศรษฐกิจจีนบรรลุเป้าหมายการขยายตัวของปีนี้


ข่าวเกี่ยวกับตลาดหุ้นและเศรษฐกิจ


  • ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นในวันพุธ โดยดาวโจนส์ และ S&P500 ปิดที่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ หลังจากธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) เปิดเผยรายงานการประชุมประจำเดือนก.ย. ขณะที่นักลงทุนจับตาการเปิดเผยข้อมูลเงินเฟ้อของสหรัฐฯ และผลประกอบการประจำไตรมาส 3/2567 ของบริษัทจดทะเบียน


  • ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 42,512.00 จุด เพิ่มขึ้น 431.63 จุด หรือ +1.03%
  • ดัชนี S&P500 ปิดที่ 5,792.04 จุด เพิ่มขึ้น 40.91 จุด หรือ +0.71% 
  • ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 18,291.62 จุด เพิ่มขึ้น 108.70 จุด หรือ +0.60%


  • รายงานการประชุม FOMC เมื่อวันที่ 17-18 กันยายน เปิดเผยว่า มีความเห็นแตกต่างกันในคณะกรรมการเกี่ยวกับการปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.5% ซึ่งประธานเฟด เจอโรม พาวเวลล์ เป็นผู้เสนอ ขณะที่บางส่วนของคณะกรรมการเห็นควรให้ลดลงเพียง 0.25% เพื่อความระมัดระวัง อย่างไรก็ตาม ในที่สุด คณะกรรมการส่วนใหญ่ก็เห็นชอบกับการลดดอกเบี้ย 0.5% เพื่อบรรเทาความเสี่ยงต่อตลาดแรงงานที่ยังคงมีความไม่แน่นอน


  • นักลงทุนจับตาการเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ของสหรัฐฯ ในวันนี้ เพื่อประเมินแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยของเฟด


  • บรรดาผู้ผลิตญี่ปุ่นมีความเชื่อมั่นมากขึ้นเกี่ยวกับภาวะธุรกิจในเดือนต.ค. แต่ความเชื่อมั่นของภาคบริการลดลง ซึ่งสะท้อนถึงภาวะเศรษฐกิจที่ยังเติบโตอย่างไม่สม่ำเสมอในญี่ปุ่น และยังคงวิตกเกี่ยวกับอัตราการฟื้นตัวของเศรษฐกิจจีน


  • จีนจะจัดแถลงข่าวเกี่ยวกับนโยบายการคลังในวันเสาร์ที่ 12 ต.ค. นี้ โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังจะนำเสนอมาตรการเสริมสร้างความแข็งแกร่งของนโยบายการคลังเพื่อสนับสนุนการเติบโตทางเศรษฐกิจ หลังจากที่ตลาดหุ้นจีนอ่อนตัวลงเมื่อวานนี้ เนื่องจาก NDRC ประกาศมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่น้อยเกินคาด


  • ธนาคารโลก (World Bank) ได้มีการปรับเพิ่มตัวเลขอัตราการเติบโตของเศรษฐกิจจีน โดยมีการปรับเพิ่มประมาณการการเติบโตของปี 2024 ขึ้น 0.4% อยู่ที่ 4.8% YoY ภายหลังจากที่ทางการจีนเปิดตัวมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจชุดใหม่ออกมาในช่วงปลายเดือน ก.ย.


  • อย่างไรก็ตาม ทางธนาคารโลก ยังคงมองว่าถึงแม้ทางการจีนจะมีการออกมาตรการกระตุ้นชั่วคราวออกมาเพิ่มเติม แต่อัตราการเติบโตเศรษฐกิจในปีหน้ายังมีแนวโน้มชะลอลงอยู่ โดยคาดว่าปี 2025 เศรษฐกิจจีนจะเติบโตอยู่ที่ 4.3% YoY 


  • โดยธนาคารโลก ได้ระบุว่า มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่ภาครัฐจีนออกมา เป็นเพียงตัวช่วยชดเชยการบริโภคที่ชะลอ แต่ยังไม่ได้แก้ไขปัญหาเชิงโครงสร้างที่จีนเผชิญอยู่ในตอนนี้ ซึ่งแนวทางที่จีนจะสามารถกลับมาเติบโตในระยะยาว จำเป็นต้องทำการปฏิรูปโครงสร้างการเติบโตของเศรษฐกิจแบบเชิงลึก เพื่อหาปัยจัยการเติบโตใหม่ ๆ


ข่าวเกี่ยวกับน้ำมัน


  • สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดลบในวันพุธ หลังสหรัฐฯ เปิดเผยสต็อกน้ำมันดิบรายสัปดาห์เพิ่มขึ้นมากกว่าคาด อย่างไรก็ดี ราคาน้ำมันลดช่วงลบ โดยได้แรงหนุนจากการคาดการณ์ที่ว่าความขัดแย้งในตะวันออกกลางจะส่งผลกระทบต่ออุปทานน้ำมันของอิหร่าน รวมทั้งผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นจากพายุเฮอร์ริเคนมิลตัน (Milton) ที่พัดถล่มสหรัฐฯ


  • สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนพ.ย. ลดลง 33 เซนต์ หรือ 0.45% ปิดที่ 73.24 ดอลลาร์/บาร์เรล
  • สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 60 เซนต์ หรือ 0.78% ปิดที่ 76.58 ดอลลาร์/บาร์เรล


  • ราคาน้ำมันปรับตัวลง หลังจากสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐฯ (EIA) เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบรายสัปดาห์เพิ่มขึ้น 5.8 ล้านบาร์เรล ซึ่งมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเพียง 2 ล้านบาร์เรล


  • ส่วนสต็อกน้ำมันเบนซินลดลง 6.3 ล้านบาร์เรล มากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลง 1.5 ล้านบาร์เรล และสต็อกน้ำมันกลั่นซึ่งรวมถึงฮีตติ้งออยล์และน้ำมันดีเซล ลดลง 3.1 ล้านบาร์เรล มากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลง 2.3 ล้านบาร์เรล


  • นักวิเคราะห์จากบริษัท Mizuho แสดงความเห็นว่า ตัวเลขสต็อกน้ำมันดิบที่รายงานโดย EIA นั้น เพิ่มขึ้นน้อยกว่าที่สถาบันปิโตรเลียมอเมริกา (API) รายงานว่าสต็อกน้ำมันดิบพุ่งขึ้น 10.9 ล้านบาร์เรล ส่วนสต็อกน้ำมันเบนซินและน้ำมันกลั่นลดลงมากกว่าคาด ซึ่งทั้งสองปัจจัยนี้ช่วยให้ราคาน้ำมันลดช่วงลบ

                                                                                                                                

ข่าวการเมือง


  • ส่วนสถานการณ์ล่าสุดในตะวันออกกลางนั้น เจ้าหน้าที่อิสราเอลเปิดเผยว่า ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐฯ ได้สนทนาทางโทรศัพท์กับเบนจามิน เนทันยาฮู นายกรัฐมนตรีอิสราเอล โดยคาดว่าผู้นำทั้งสองได้หารือกันเกี่ยวกับแผนการที่อิสราเอลจะตอบโต้อิหร่าน หลังจากที่อิหร่านยิงขีปนาวุธเกือบ 200 ลูกโจมตีอิสราเอลเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว


  • อิหร่านเตือนชาติอาหรับในอ่าวเปอร์เซียว่า การอนุญาตให้ใช้น่านฟ้าหรือฐานทัพเพื่อโจมตีอิหร่านเป็นเรื่องที่ยอมรับไม่ได้ และการกระทำดังกล่าวจะนำไปสู่การตอบโต้


  • ขณะที่ อิบราฮิม จาบบารี ที่ปรึกษาของฮอสเซน ซาลามี หัวหน้าผู้บัญชาการกองกำลังพิทักษ์การปฏิวัติอิสลามของอิหร่าน (IRGC) กล่าวว่า อิหร่านพร้อมที่จะตอบโต้อิสราเอลรุนแรงกว่าเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว หากถูกอิสราเอลโจมตี


  • อันโตนิโอ กูเตอร์เรส เลขาธิการสหประชาชาติ (UN) กล่าวว่า เลบานอนเสี่ยงเผชิญสงครามเต็มรูปแบบ แต่ยังพอมีเวลาที่จะหยุดยั้งได้ พร้อมกับเปรียบเปรยว่าภูมิภาคตะวันออกกลางเป็นถังดินปืนที่มีหลายฝ่ายพร้อมจุดไฟ


  • ผลสำรวจล่าสุดจาก The Times/Siena College พบว่า คามาลา แฮร์ริส คะแนนนำโดนัลด์ ทรัมป์ อดีดประธานาธิบดี ในการสำรวจทั่วประเทศเป็นครั้งแรก โดยแฮร์ริส ได้ 49% ส่วนทรัมบ์ได้ 46% จากผู้ตอบแบบสำรวจ 3,385 คน


  • สำนักข่าวยูครินฟอร์ม (Ukrinform) ของรัฐบาลยูเครนรายงานว่า โดยอ้างเจ้าหน้าที่ระดับสูงของสหภาพยุโรป (EU) ว่า ยูเครนจะได้รับเงินกู้ก้อนใหม่จำนวน 3.5 หมื่นล้านยูโรจาก EU ภายในสิ้นปีนี้


  • สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานโดยอ้างอิงแหล่งข่าวว่า เดวิด แลมมี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของอังกฤษ เตรียมเดินทางเยือนประเทศจีนในสัปดาห์หน้า ในขณะที่รัฐบาลชุดใหม่พยายามสร้างความสัมพันธ์ที่ลดการเผชิญหน้ากับจีน โดยต้องการกลับมาหารือเรื่องการค้าและการลงทุนร่วมกันอีกครั้ง


ข่าวเกี่ยวกับเศรษฐกิจไทยและค่าเงินบาท


  • นักบริหารการเงิน เปิดเผยว่า ค่าเงินบาทเปิดเช้านี้ ที่ระดับ 33.54 บาทต่อดอลลาร์อ่อนค่าลงจากระดับปิดวันก่อนหน้า ที่ระดับ  33.45 บาทต่อดอลลาร์ มองกรอบเงินบาทวันนี้ คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 33.35- 33.70 บาทต่อดอลลาร์ (ระวังความผันผวนในช่วงทยอยรับรู้รายงานอัตราเงินเฟ้อ CPI สหรัฐฯ)

 


ที่มาจาก : Reuters, Infoquest, BangkokBizNews

Tags : ข่าวทอง, ข่าวทอง , ทอง , ราคาทอง

บริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ จำกัด
40,42,44 ถนนทรัพย์สิน แขวงวังบูรพาภิรมย์เขตพระนคร กรุงเทพ 10200
โทรศัพท์ 0 2770 7777 โทรสาร 0 2623 9366 E-mail: support@mtsgoldgroup.com