• สรุปข่าวราคาทองคำ ประจำวันที่ 18 ตุลาคม 2567

    18 ตุลาคม 2567 | Gold News


ข่าวเกี่ยวกับทองคำ


  • สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปรับตัวเพิ่มขึ้นเมื่อวานนี้ โดยได้ปัจจัยหนุนจากการคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะยังคงเดินหน้าปรับลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมนโยบายการเงินทั้งในเดือนพ.ย.และธ.ค. ซึ่งการปรับลดอัตราดอกเบี้ยจะช่วยลดต้นทุนค่าเสียโอกาสในการถือครองทองคำ เนื่องจากทองคำเป็นสินทรัพย์ที่ไม่มีผลตอบแทนในรูปดอกเบี้ย


  • นอกจากนี้ ราคาทองยังได้แรงหนุนจากคำสั่งซื้อในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย ท่ามกลางสถานการณ์ตึงเครียดในตะวันออกกลาง รวมทั้งความไม่แน่นอนต่อผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐในวันที่ 5 พ.ย. 
  • ราคาทองคำตลาดโลก ปรับตัวขึ้น 18.44 เหรียญ หรือ 0.69% อยู่ที่ระดับ 2,693.04 เหรียญ
  • สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 16.20 ดอลลาร์ หรือ 0.60% ปิดที่ 2,707.50 ดอลลาร์/ออนซ์
  • สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 20 เซนต์ หรือ 0.63% ปิดที่ 31.774 ดอลลาร์/ออนซ์
  • สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนม.ค. เพิ่มขึ้น 3.20 ดอลลาร์ หรือ 0.32% ปิดที่ 1,005.80 ดอลลาร์/ออนซ์
  • กองทุนทองคำ SPDR วันก่อนหน้าไม่เปลี่ยนแปลง ปัจจุบันถือครองที่ 884.59 ตันภาพรวมเดือนตุลาคม ซื้อสุทธิ 12.65 ตัน ขณะที่ปีนี้ ตั้งแต่ 1 ม.ค. - ปัจจุบัน ซื้อสุทธิ 5.48 ตัน 
  • ทองคำทำผลงานโดดเด่นที่สุดในปี 2024 ด้วยการเพิ่มขึ้นของราคาประมาณ 30% ซึ่งเป็นผลมาจากแรงกดดันจากการคาดการณ์ว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ จะผ่อนคลายนโยบายการเงิน และการซื้อทองคำสะสมของธนาคารกลางหลายแห่งทั่วโลกที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง"


ข่าวเกี่ยวกับค่าเงิน และธนาคารกลาง


  • ดัชนีดอลลาร์ ปรับตัวขึ้น 0.25 จุด หรือ 0.24% มาอยู่ที่ระดับ 103.8 จุด
  • อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี ปรับตัวขึ้น 0.08 % มาอยู่ที่ระดับ 4.093% ในขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 2 ปี ปรับตัวขึ้น 0.03 % มาอยู่ที่ระดับ 3.976% โดยที่ส่วนต่างอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ 10 ปี มากกว่า 2 ปี เท่ากับ0.12%


  • นักวิเคราะห์ระบุว่า ส่วนต่างระหว่างอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลยูโรโซนกับพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐได้ขยายกว้างมากยิ่งขึ้นในช่วงนี้ และการปรับตัวแตกต่างกันแบบนี้อาจจะยังคงดำเนินต่อไป ในขณะที่เศรษฐกิจยุโรปอยู่ในภาวะอ่อนแอ และปัจจัยดังกล่าวจะเป็นการเพิ่มแรงกดดันต่อธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) ให้ปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงอย่างรวดเร็ว


  • ธนาคารกลางยุโรป (ECB) เมื่อวันที่ 17 ต.ค.67 ประกาศการลดอัตราดอกเบี้ยลงเป็นครั้งที่ 3 ของปีนี้โดยลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลง 0.25% มาอยู่ที่ระดับ 3.25%


  • สำนักข่าวซีเอ็นบีซี ระบุว่า ความเสี่ยงด้านเงินเฟ้อปรับตัวลดลง และมีแนวโน้มการเติบโตที่อ่อนตัวลง โดยอัตราเงินเฟ้อทั่วไปในยูโรโซนลดลงเหลือ 1.7% ในเดือนกันยายน ซึ่งต่ำกว่าเป้าหมาย 2% ของธนาคารกลางเป็นครั้งแรกในรอบสามปี


  • คริสติน ลาการ์ด ประธานอีซีบียังได้กล่าวเสริมความมั่นใจให้กับตลาดก่อนหน้านี้ด้วยการระบุว่าข้อมูลล่าสุดสนับสนุนแนวโน้มที่เงินเฟ้อจะกลับสู่ระดับเป้าหมายตามที่ตั้งไว้ได้ในระยะเวลาอันสมควร


  • อัตราเงินเฟ้อพื้นฐานของญี่ปุ่นชะลอตัวลงในเดือนกันยายน หลังจากเพิ่มขึ้นต่อเนื่องมา 5 เดือน โดยคณะกรรมการนโยบายการเงินของธนาคารกลางญี่ปุ่นคาดว่าจะคงอัตราดอกเบี้ยไว้ในระดับปัจจุบัน"


ข่าวเกี่ยวกับตลาดหุ้นและเศรษฐกิจ


  • ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกที่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในวันพฤหัสบดี เป็นวันที่ 4 ในรอบ 5 วันทำการที่ผ่านมา เนื่องจากยอดค้าปลีกที่สูงเกินคาดบ่งชี้ถึงความเชื่อมั่นที่แข็งแกร่งของผู้บริโภคสหรัฐฯ และการคาดการณ์แนวโน้มที่สดใสของบริษัทไต้หวัน เซมิคอนดักเตอร์ แมนูแฟกเจอริง จำกัด (TSMC) ได้ช่วยหนุนหุ้นกลุ่มผู้ผลิตชิป


  • ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 43,239.05 จุด เพิ่มขึ้น 161.35 จุด หรือ +0.37%
  • ดัชนี S&P500 ปิดที่ 5,841.47 จุด ลดลง 1.00 จุด หรือ -0.02% 
  • ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 18,373.61 จุด เพิ่มขึ้น 6.53 จุด หรือ +0.04%


  • เศรษฐกิจจีนมีแนวโน้มขยายตัวในอัตราต่ำที่สุดในรอบ 6 ไตรมาส ซึ่งทำให้รัฐบาลจีนต้องออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในช่วงปลายเดือนก.ย.ที่ผ่านมา เพื่อหยุดยั้งการชะลอตัวดังกล่าว โดยนักเศรษฐศาสตร์คาดว่า ข้อมูลที่จะเปิดเผยในวันนี้ จะบ่งชี้ว่า เศรษฐกิจจีนมีการขยายตัว 4.5% ในไตรมาส 3/2567 เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว ซึ่งจะเป็นอัตราการขยายตัวต่ำที่สุดนับตั้งแต่เดือนมี.ค. 2566 แต่ยังคงทำให้การขยายตัวในช่วง 9 เดือนแรกของปีนี้อยู่ที่ 4.9% ซึ่งสอดคล้องกับเป้าหมายประจำปีของรัฐบาลจีนที่ราว 5%


  • ข้อมูลจากรัฐบาลญี่ปุ่นเปิดเผยว่า ในช่วงครึ่งแรกของปีงบประมาณ 2567 สิ้นสุดเดือนก.ย. ญี่ปุ่นขาดดุลการค้าเพิ่มขึ้น 14.4% เมื่อเทียบกับปีก่อน คิดเป็นมูลค่า 3.11 ล้านล้านเยน (2.08 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ) สาเหตุหลักมาจากเงินเยนอ่อนค่า ทำให้มูลค่าการนำเข้าพุ่งสูงขึ้น แม้การส่งออกจะทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ก็ตาม


ข่าวเกี่ยวกับน้ำมัน


  • สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกในวันพฤหัสบดี โดยดีดตัวขึ้นหลังจากปิดลบ 4 วันติดต่อกัน หลังสหรัฐฯ เปิดเผยสต็อกน้ำมันดิบลดลงในสัปดาห์ที่แล้ว


  • สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนพ.ย. เพิ่มขึ้น 28 เซนต์ หรือ 0.4% ปิดที่ 70.67 ดอลลาร์/บาร์เรล
  • สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 23 เซนต์ หรือ 0.31% ปิดที่ 74.45 ดอลลาร์/บาร์เรล


ข่าวเกี่ยวกับการเมือง

 

  • กระทรวงการคลังสหรัฐฯ ประกาศคว่ำบาตรเครือข่ายในเลบานอนซึ่งสนับสนุนการเงินหลายล้านดอลลาร์แก่กลุ่มฮิซบอลเลาะห์ โดยบุคคลและบริษัทเหล่านี้พยายามหลบเลี่ยงมาตรการคว่ำบาตรก่อนหน้านี้   

  

  • อิสราเอลสังหารผู้นำกลุ่มฮามาสในเมืองราฟาห์ทางตอนใต้ของกาซา ระหว่างปฏิบัติการของกองทัพ โดยยืนยันพิสูจน์อัตลักษณ์บุคคลจากฟันและลายนิ้วมือ                                                             


ข่าวเกี่ยวกับเศรษฐกิจไทยและค่าเงินบาท


  • นักบริหารการเงิน เปิดเผยว่า ค่าเงินบาทเปิดเช้านี้ ที่ระดับ   33.20 บาทต่อดอลลาร์แข็งค่าขึ้นเล็กน้อย แทบไม่เปลี่ยนแปลงจากระดับปิดวันก่อนหน้า ที่ระดับ  33.23 บาทต่อดอลลาร์ มองกรอบเงินบาทวันนี้ คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 33.05-33.30 บาทต่อดอลลาร์ 


  • ศูนย์วิจัยเศรษฐกิจและธุรกิจ ธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB EIC) มีมุมมองว่า กนง. จะลดดอกเบี้ยต่อเนื่องหรือไม่ ขึ้นอยู่กับภาวะการเงินเป็นหลัก โดยการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในครั้งนี้ เป็นการปรับลดเพื่อผ่อนคลายภาวะการเงิน ท่ามกลางภาวะสินเชื่อที่เติบโตชะลอลง และคุณภาพสินเชื่อทยอยปรับด้อยลง เพื่อป้องกันความเสี่ยงที่ภาวะการเงินตึงตัวจะส่งผลกดดันเศรษฐกิจมากขึ้นในระยะต่อไป

 




ที่มาจาก : Reuters, Infoquest, BangkokBizNews

Tags : ข่าวทอง, ข่าวทอง , ทอง , ราคาทอง

 

บริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ จำกัด
40,42,44 ถนนทรัพย์สิน แขวงวังบูรพาภิรมย์เขตพระนคร กรุงเทพ 10200
โทรศัพท์ 0 2770 7777 โทรสาร 0 2623 9366 E-mail: support@mtsgoldgroup.com