• สรุปข่าวราคาทองคำ ประจำวันที่ 21 ตุลาคม 2567

    21 ตุลาคม 2567 | Gold News


ข่าวเกี่ยวกับทองคำ


  • สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกเหนือระดับ 2,700 ดอลลาร์/ออนซ์ในวันศุกร์ เช้านี้ขยับขึ้นมาบริเวณ 2,728 เหรียญ โดยสัปดาห์ที่ผ่านมาขยับขึ้นมากว่า 2.44% หรือประมาณ 64.72 เหรียญ 


  • โดยได้แรงหนุนจากความตึงเครียดที่เพิ่มขึ้นในตะวันออกกลาง ซึ่งผลักดันราคาทองคำพุ่งขึ้นสู่ระดับสูงเป็นประวัติการณ์


  • ราคาทองคำตลาดโลก ปรับตัวขึ้น 30.05 เหรียญ หรือ 1.12% เปิดที่ที่ระดับ 2,723.09 เหรียญ
  • สัญญาทองคำตลาด COMEX ส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 22.50 เหรียญ หรือ 0.83% ปิดที่ 2,730.00 เหรียญ
  • สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 1.46 เหรียญ หรือ 4.59% ปิดที่ 33.234 เหรียญ
  • สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนม.ค. เพิ่มขึ้น 18.70 เหรียญ หรือ 1.86% ปิดที่ 1,024.50 เหรียญ

  • กองทุนทองคำ SPDR วันก่อนหน้าซื้อเข้า 4.04 ตัน ปัจจุบันถือครองที่ 888.63 ตันภาพรวมเดือนตุลาคม ซื้อสุทธิ 16.69 ตัน ขณะที่ปีนี้ ตั้งแต่ 1 ม.ค. - ปัจจุบัน ซื้อสุทธิ 9.52 ตัน


  • ข้อมูลจาก LSEG บ่งชี้ว่า ราคาทองคำทำลายสถิติหลายครั้งในปีนี้ เนื่องจากความคาดหวังเกี่ยวกับการลดอัตราดอกเบี้ยจากธนาคารกลางต่าง ๆ และความไม่แน่นอนทางภูมิรัฐศาสตร์ทำให้ราคาทองคำพุ่งขึ้นมากกว่า 30% นับตั้งแต่ต้นปี ซึ่งถือเป็นการขยายตัว รายปีที่ดีที่สุดนับตั้งแต่ปี 2522


  • แม็กซ์ เลย์ตัน หัวหน้าฝ่ายวิจัยสินค้าโภคภัณฑ์ระดับโลกของซิตี้คาดว่า ราคาทองคำอาจแตะระดับ 3,000 ดอลลาร์ต่อออนซ์ในช่วง 6-12 เดือนข้างหน้า โดยทองคำถือเป็นสินทรัพย์ปลอดภัยในช่วงที่มีความไม่แน่นอนอย่างมากด้านเศรษฐกิจในสหรัฐฯ และยุโรป ซึ่งทำให้ความต้องการลงทุนในกองทุน ETF ทองคำเพิ่มขึ้น


  • Colin Cieszynski นักกลยุทธ์ตลาดประจำ SIA Wealth Management เชื่อว่าทองคำยังคงมีแนวโน้มขาขึ้นต่อเนื่อง โดยโมเมนตัมในปัจจุบันยังคงแข็งแกร่ง แม้ดัชนีดอลลาร์สหรัฐฯ จะแข็งค่าขึ้นและอัตราดอกเบี้ยสหรัฐฯ ปรับตัวสูงขึ้นก็ตาม


  • Marc Chandler กรรมการผู้จัดการ Bannockburn Global Forex มองว่า แรงกดดันจากความตึงเครียดในตะวันออกกลางและการประชุมสุดยอด BRICS ที่กำลังจะมาถึง เป็นปัจจัยหนุนความต้องการทองคำจากธนาคารกลางทั่วโลก


  • ผลสำรวจความเห็นของนักวิเคราะห์จาก Kitco News ในสัปดาห์นี้  เผยให้เห็นว่าเหล่าผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมแทบจะลงความเห็นเป็นเสียงเดียวกันว่า ตลาดทองคำยังคงมีแนวโน้มขาขึ้น โดยมีผู้เชี่ยวชาญ 94% เชื่อว่าราคาทองคำจะปรับตัวสูงขึ้นในสัปดาห์นี้ มีเพียง 6% ที่มองราคาทองคำจะทรงตัว และไม่มีใครคาดการณ์ว่าราคาจะลดลง


ข่าวเกี่ยวกับค่าเงิน และธนาคารกลาง


  • ดัชนีดอลลาร์ ปรับตัวลดลง -0.34 จุด หรือ -0.33% มาอยู่ที่ระดับ 103.46 จุด
  • อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี ไม่เปลี่ยนแปลง อยู่ที่ระดับ 4.093% ในขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 2 ปี ปรับตัวลดลง -0.01 % มาอยู่ที่ระดับ 3.962% โดยที่ส่วนต่างอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ 10 ปี มากกว่า 2 ปี เท่ากับ0.13%


  • ธนาคารกลางยุโรป (ECB) มีแนวโน้มที่จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยอีกครั้งในเดือนธ.ค. เว้นแต่ว่าข้อมูลเศรษฐกิจจะบ่งชี้เป็นอย่างอื่น ขณะที่เครื่องมือ CME Fedwatch บ่งชี้ว่า นักลงทุนยังคงคาดว่า มีโอกาส 92% ที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะลดอัตราดอกเบี้ยลงในเดือนพ.ย.


  • ผู้ว่าการธนาคารกลางจีน (PBOC) เปิดเผยว่า อัตราส่วนการกันสำรอง (RRR) สำหรับธนาคารพาณิชย์ อาจลดลงอีก 0.25-0.50% ภายในสิ้นปี โดยขึ้นอยู่กับสภาพคล่องทางการเงิน ซึ่งเปิดโอกาสสำหรับการดำเนินมาตรการผ่อนคลายด้านนโยบายเพิ่มเติม


  • บรรดาธนาคารรายใหญ่ที่สุดของรัฐบาลจีนแห่ปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินฝาก ซึ่งนับเป็นการปรับลดเป็นครั้งที่ 2 ในปีนี้ เพื่อเร่งกอบกู้อัตรากำไรที่ต่ำเป็นประวัติการณ์ท่ามกลางความสามารถในการทำกำไรที่อ่อนแอลง


  • FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนัก 92.3% ที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% สู่ระดับ 4.50-4.75% ในการประชุมเดือนพ.ย. รวมทั้งให้น้ำหนัก 77.3% ที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% สู่ระดับ 4.25-4.50% ในการประชุมเดือนธ.ค.


ข่าวเกี่ยวกับตลาดหุ้นและเศรษฐกิจ


  • ดัชนีดาวโจนส์และ S&P500 ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกที่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในวันศุกร์ และดัชนี Nasdaq ปิดในแดนบวก เนื่องจากตลาดได้แรงหนุนจากการพุ่งขึ้นของหุ้นเน็ตฟลิกซ์ (Netflix) หลังการเปิดเผยผลประกอบการที่แข็งแกร่ง และการปรับตัวขึ้นโดยรวมของหุ้นเทคโนโลยี


  • ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 43,275.91 จุด เพิ่มขึ้น 36.86 จุด หรือ +0.09%
  • ดัชนี S&P500 ปิดที่ 5,864.67 จุด เพิ่มขึ้น 23.20 จุด หรือ +0.40% 
  • ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 18,489.55 จุด เพิ่มขึ้น 115.94 จุด หรือ +0.63%


  • สัปดาห์นี้ จะมีการประชุมทั้ง IMF และ BRICS+ ที่กรุงวอชิงตัน ดีซี และรัสเซียตามลำดับ คาดว่าจะส่งผลกระทบต่อตลาดโลกอย่างมาก โดยเฉพาะการประกาศสมาชิกใหม่และระบบการชำระเงินใหม่ของกลุ่ม BRICS+ ที่อาจส่งผลกระทบต่อดอลลาร์สหรัฐฯ และราคาทองคำ


  • คริสตาลินา กอร์เกียวา กรรมการจัดการของกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) เรียกร้องให้เจ้าหน้าที่กำหนดนโยบายของประเทศต่าง ๆ ลดอุณหภูมิตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ เนื่องจากคาดว่าจะส่งผลกระทบต่อการเติบโตของเศรษฐกิจโลกให้ซบเซาในระยะกลาง


ข่าวเกี่ยวกับน้ำมัน


  • สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงในวันศุกร์ และร่วงลงมากกว่า 7% ในรอบสัปดาห์นี้ หลังจากการเปิดเผยข้อมูลบ่งชี้ว่า การขยายตัวทางเศรษฐกิจของจีนชะลอตัวลง และนักลงทุนประเมินสถานการณ์ที่ไม่แน่นอนในตะวันออกกลาง


  • สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนพ.ย. ร่วงลง 1.45 ดอลลาร์ หรือ 2.05% ปิดที่ 69.22 ดอลลาร์/บาร์เรล
  • สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนธ.ค. ร่วงลง 1.39 ดอลลาร์ หรือ 1.87% ปิดที่ 73.06 ดอลลาร์/บาร์เรล


  • ในรอบสัปดาห์ที่แล้ว สัญญาน้ำมันดิบ WTI ร่วงลงราว 8% ขณะที่สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ร่วงลงมากกว่า 7% โดยสัญญาน้ำมันทั้งสองตัวร่วงลงรายสัปดาห์รุนแรงมากที่สุดนับตั้งแต่วันที่ 2 ก.ย. ซึ่งเป็นวันที่โอเปกและสำนักงานพลังงานสากล (IEA) ปรับลดคาดการณ์ความต้องการน้ำมันทั่วโลกในปี 2567 และ 2568


  • เศรษฐกิจจีนซึ่งเป็นผู้นำเข้าน้ำมันรายใหญ่ของโลกนั้นขยายตัวในไตรมาส 3 ที่อัตราต่ำสุดนับตั้งแต่ต้นปี 2566 แม้การอุปโภคบริโภคและผลผลิตอุตสาหกรรมเดือนก.ย.เพิ่มขึ้นเกินคาดก็ตาม


  • การผลิตน้ำมันดิบในสหรัฐฯ พุ่งทำสถิติใหม่อีกครั้งเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว โดยสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงาน(EIA) ของสหรัฐฯ เปิดเผยเมื่อวันพฤหัสบดีว่า การผลิตน้ำมันเพิ่มขึ้น 100,000 บาร์เรลต่อวันในสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 11 ต.ค. เป็น 13.5 ล้านบาร์เรลต่อวัน จากสถิติก่อนหน้านี้ที่ 13.4 ล้านบาร์เรลต่อวันซึ่งเคยทำไว้เมื่อสองเดือนก่อน แต่การที่ EIA ระบุว่าสต็อกน้ำมันดิบ น้ำมันเบนซิน และน้ำมันกลั่นของสหรัฐฯ ลดลงในสัปดาห์ที่แล้วนั้นได้ช่วยพยุงราคาน้ำมัน


ข่าวเกี่ยวกับการเมือง



  • ประธานาธิบดีโจ ไบเดนของสหรัฐฯ กล่าวว่า มีโอกาสที่จะจัดการกับอิสราเอลและอิหร่านในลักษณะที่อาจช่วยยุติความขัดแย้งในตะวันออกกลางลงชั่วคราว


  • หลังจากการสังหาร ยาห์ยา ซินวาร์ ผู้นำกลุ่มฮามาสนั้น กลุ่มติดอาวุธฮิซบอลเลาะห์ในเลบานอนได้กล่าวเมื่อวันศุกร์ว่า พวกเขากำลังก้าวเข้าสู่ขั้นตอนใหม่ที่รุนแรงขึ้นในการต่อสู้กับทหารอิสราเอล หลังจากที่ก่อนหน้านั้น หลายคนมีความหวังว่าการตายของซินวาร์จะช่วยให้สงครามที่ทวีความรุนแรงในตะวันออกกลางสิ้นสุดลงเร็วขึ้น แต่การประกาศของฮิซบอลเลาะห์ทำลายความหวังเหล่านั้น   

 

  • อิสราเอลเพิ่มระดับการโจมตีในเมืองหลวงของเลบานอนและฉนวนกาซ่าในวันอาทิตย์ ทำให้มีผู้เสียชีวิตหลายสิบคน ทั้งนี้ การโจมตีฐานที่มั่นของกลุ่มเฮซบอลลาห์ทางภาคใต้ของกรุงเบรุตเกิดขึ้นหลังจากนายกรัฐมนตรีอิสราเอล เบนจามิน เนทันยาฮู กล่าวหากลุ่มติดอาวุธที่มีอิหร่านหนุนหลังนี้ว่า พยายามลอบสังหารตนด้วยการโจมตีบ้านพักของตนเอง

                        

ข่าวเกี่ยวกับเศรษฐกิจไทยและค่าเงินบาท


  • ค่าเงินบาทวันนี้เปิดตลาดแข็งค่าที่ 33.10 บาทต่อดอลลาร์ แข็งค่าเมื่อเทียบกับราคาปิดตลาดเมื่อวันศุกร์ที่ระดับ 33.15 บาทต่อดอลลาร์ โดยกรอบแนวรับที่ 32.95 บาท แนวต้าน 33.25 บาท


  • มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย กล่าวว่าคาดการลดดอกเบี้ยไม่ส่งผลต่อการเพิ่มขึ้นของการก่อหนี้เกินตัวขณะที่ส่งผลบวกต่อการลดภาระต้นทุนทางการเงินของภาคครัวเรือนและธุรกิจ การลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลงมา 0.25% จะทำให้ลดเงินผ่อนชำระสินเชื่อบ้านและรถยนต์รายเดือนลง และมีแนวโน้มที่อัตราดอกเบี้ยอาจปรับลดลงได้อีกในช่วงต้นปีหน้า อย่างไรก็ตามการเปลี่ยนแปลงอัตราดอกเบี้ยนโยบายจะขึ้นอยู่กับภาวะเศรษฐกิจและอัตราเงินเฟ้อคาดการณ์ในระยะ 6-12 เดือนข้างหน้า

 

 


ที่มาจาก : Reuters, Infoquest, BangkokBizNews

Tags : ข่าวทอง, ข่าวทอง , ทอง , ราคาทอง

บริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ จำกัด
40,42,44 ถนนทรัพย์สิน แขวงวังบูรพาภิรมย์เขตพระนคร กรุงเทพ 10200
โทรศัพท์ 0 2770 7777 โทรสาร 0 2623 9366 E-mail: support@mtsgoldgroup.com