• สรุปข่าวราคาทองคำ ประจำวันที่ 24 ตุลาคม 2567

    24 ตุลาคม 2567 | Gold News


ข่าวเกี่ยวกับทองคำ


  • สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงกว่า 1% ในวันพุธ เนื่องจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์และการพุ่งขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯ เป็นปัจจัยกดดันตลาด


  • ราคาทองคำตลาดโลก ปรับตัวลดลง -30.55 เหรียญ หรือ -1.11% อยู่ที่ระดับ 2,716.45 เหรียญ
  • สัญญาทองคำตลาด COMEX ส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 30.40 เหรียญ หรือ 1.10% ปิดที่ 2,729.40 เหรียญ
  • สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 1.202 เหรียญ หรือ 3.43% ปิดที่ 33.839 เหรียญ
  • สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนม.ค. ลดลง 11.70 เหรียญ หรือ 1.12% ปิดที่ 1,029.70 เหรียญ


  • กองทุนทองคำ SPDR วันก่อนหน้าขายออก 1.44 ตัน ปัจจุบันถือครองที่ 893.8 ตันภาพรวมเดือนตุลาคม ซื้อสุทธิ 21.86 ตัน ขณะที่ปีนี้ ตั้งแต่ 1 ม.ค. - ปัจจุบัน ซื้อสุทธิ 14.69 ตัน


  • อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปีพุ่งขึ้นแตะระดับ 4.255% อย่างไรก็ดี นักวิเคราะห์ของธนาคารรายใหญ่ในสหรัฐฯ ซึ่งรวมถึงโกลด์แมน แซคส์ (Goldman Sachs), เจพีมอร์แกน (JPMorgan) และซิตี้กรุ๊ป (Citigroup) ยังคงมีมุมมองที่เป็นบวกต่อแนวโน้มราคาทองคำ โดยคาดการณ์ว่าราคาทองคำจะเดินหน้าทำสถิติสูงสุดอย่างต่อเนื่องไปจนถึงปี 2568 โดยได้แรงหนุนจากเม็ดเงินที่ไหลเข้าสู่กองทุน ETF ทองคำ รวมทั้งสถานการณ์ตึงเครียดในตะวันออกกลางและความไม่แน่นอนของผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ซึ่งจะเป็นปัจจัยหนุนแรงซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย


  • ซิตี้กรุ๊ปปรับเพิ่มคาดการณ์ราคาทองคำในช่วง 3 เดือนข้างหน้าขึ้นสู่ระดับ 2,800 ดอลลาร์/ออนซ์ และคาดว่าในช่วง 6-12 เดือนข้างหน้านี้ราคาทองจะทะยานขึ้นจนถึงระดับ 3,000 ดอลลาร์/ออนซ์


ข่าวเกี่ยวกับค่าเงิน และธนาคารกลาง


  • ดัชนีดอลลาร์ ปรับตัวขึ้น 0.33 จุด หรือ 0.32% มาอยู่ที่ระดับ 104.42 จุด
  • อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี ปรับตัวขึ้น 0.04 % มาอยู่ที่ระดับ 4.25% ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 3 เดือน 
  • ในขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 2 ปี ปรับตัวขึ้น 0.05 % มาอยู่ที่ระดับ 4.08% โดยที่ส่วนต่างอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ 10 ปี มากกว่า 2 ปี เท่ากับ0.17%


ข่าวเกี่ยวกับตลาดหุ้นและเศรษฐกิจ


  • ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดร่วงลงกว่า 400 จุดในวันพุธ โดยตลาดได้รับปัจจัยลบจากการพุ่งขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯ รวมทั้งการที่นักลงทุนมีความเชื่อมั่นน้อยลงว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยเชิงรุก และข่าวด้านลบของบริษัทบางแห่งซึ่งรวมถึงแมคโดนัลด์ (McDonald’s)


  • ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 42,514.95 จุด ลดลง 409.94 จุด หรือ -0.96%
  • ดัชนี S&P500 ปิดที่ 5,797.42 จุด ลดลง 53.78 จุด หรือ -0.92% 
  • ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 18,276.65 จุด ลดลง 296.47 จุด หรือ -1.60%


  • ธนาคารกลางสหรัฐฯ ระบุในรายงาน Beige Book ซึ่งเป็นการสำรวจผู้ติดต่อทางธุรกิจในระดับภูมิภาคว่า กิจกรรมทางเศรษฐกิจของสหรัฐฯส่วนใหญ่ ยังคงชะลอตัวลง นับตั้งแต่ต้นเดือนกันยายน 


  • นักเศรษฐศาสตร์ Eliza Winger จาก Bloomberg กล่าวหลังการเผยแพร่  Beige Book ว่าการประเมินการเติบโตที่ชะลอตัวลงของสหรัฐฯ อาจบรรเทาความกังวลของตลาด เกี่ยวกับเฟดอาจต้องหยุดการลดอัตราดอกเบี้ย"


  • IMF คาดการณ์การเติบโตของเศรษฐกิจโลกที่ 3.2% ในปี 2024 และลดลงเหลือ 3.1% ในปี 2025 การฟื้นตัวในประเทศพัฒนาแล้ว เช่น สหรัฐฯ และยุโรปจะเป็นตัวขับเคลื่อนการเติบโตนี้ ขณะที่จีนและอินเดียคาดว่าจะมีผลงานที่แข็งแกร่งเช่นกัน ในทางตรงกันข้าม เศรษฐกิจไทยคาดว่าจะเติบโต 2.8% ในปี 2024 ซึ่งต่ำกว่าประเทศอื่น ๆ ในอาเซียน 


  • เจเน็ต เยลเลน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังสหรัฐฯ และ ปิแอร์-โอลิวิเยร์ กูรินชาส หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) กล่าวว่า มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจล่าสุดของจีนจะไม่ช่วยเพิ่มการใช้จ่ายภายในประเทศได้อย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งหมายความว่าความตึงเครียดทางการค้าจะยังคงมีอยู่ต่อไป


  • กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ได้เตือนถึงความเป็นไปได้ที่ตลาดอสังหาริมทรัพย์ของจีนอาจเลวร้ายลง และได้ปรับลดคาดการณ์การเติบโตทางเศรษฐกิจของจีนซึ่งมีเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดเป็นอันดับ 2 ของโลก


  • จีนเตรียมเปิดตัวแคมเปญส่งเสริมการบริโภคเป็นเวลาหนึ่งเดือนในเดือนพฤศจิกายน ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของความพยายามของรัฐบาลที่จะกระตุ้นการใช้จ่ายของผู้บริโภค


ข่าวเกี่ยวกับน้ำมัน


  • สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดลบในวันพุธ หลังสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ ขณะที่นักลงทุนยังคงจับตาสถานการณ์ในตะวันออกกลางอย่างใกล้ชิด
 
  • สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 97 เซนต์ หรือ 1.35% ปิดที่ 70.77 ดอลลาร์/บาร์เรล
  • สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 1.08 ดอลลาร์ หรือ 1.42% ปิดที่ 74.96 ดอลลาร์/บาร์เรล


  • โกลด์แมน แซคส์ (Goldman Sachs) เปิดเผยคาดการณ์เมื่อวันอังคาร (22 ต.ค.) ว่า ราคาน้ำมันโดยเฉลี่ยจะอยู่ที่ 76 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลในปี 2568 โดยอิงจากอุปทานน้ำมันดิบส่วนเกินในระดับปานกลางและกำลังการผลิตสำรองของผู้ผลิตรายใหญ่ ขณะที่ความกังวลเกี่ยวกับการผลิตน้ำมันที่หยุดชะงักของอิหร่านนั้นได้เริ่มคลี่คลายลงแล้ว


ข่าวเกี่ยวกับการเมือง


  • นักลงทุนจับตาสถานการณ์ตึงเครียดในตะวันออกกลาง โดยเฉพาะอย่างยิ่งความขัดแย้งระหว่างอิสราเอลและอิหร่าน โดยล่าสุดแอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ ได้พบกับ เบนจามิน เนทันยาฮู นายกรัฐมนตรีอิสราเอล เพื่อเรียกร้องให้มีการหยุดยิงในตะวันออกกลาง หลังจากอิสราเอลสังหารผู้นำของกลุ่มฮามาสเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว


  • โวโลดิเมียร์ เซเลนสกี ประธานาธิบดียูเครน เปิดเผยว่า สหรัฐอเมริกาเตรียมให้ความช่วยเหลือมูลค่า 800 ล้านดอลลาร์ เพื่อเป็นทุนสนับสนุนการผลิตโดรนของยูเครน


  • กระทรวงกลาโหมไต้หวันเปิดเผยว่า การซ้อมรบด้วยกระสุนจริงของจีนในมณฑลที่ตั้งอยู่ตรงข้ามกับเกาะไต้หวันนั้นเป็นส่วนหนึ่งของการซ้อมรบประจำปี แต่ก็มีความเป็นไปได้ที่จะเป็นส่วนหนึ่งของมาตรการป้องปรามของจีนในน่านน้ำของช่องแคบไต้หวันด้วย

                         

ข่าวเกี่ยวกับเศรษฐกิจไทยและค่าเงินบาท


  • ค่าเงินบาทวันนี้ เปิดตลาดอ่อนค่าที่ 33.81 บาทต่อดอลลาร์  อ่อนค่าจากราคาปิดตลาดเมื่อวันอังคารที่ระดับ 33.50 บาทต่อดอลลาร์ โดยกรอบแนวรับที่ 33.50 บาท แนวต้าน 34.00 บาท


  • ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ส่งสัญญาณว่า ธปท.จะไม่เร่งปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงอีกหลังจากปรับลดในสัปดาห์ที่ผ่านมา และได้ปกป้องเป้าหมายเงินเฟ้อในปัจจุบัน ขณะที่รัฐบาลเรียกร้องให้ธปท.ปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงอีก รวมถึงปรับเพิ่มเป้าหมายเงินเฟ้อ

 



ที่มาจาก : Reuters, Infoquest, BangkokBizNews

Tags : ข่าวทอง, ข่าวทอง , ทอง , ราคาทอง

บริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ จำกัด
40,42,44 ถนนทรัพย์สิน แขวงวังบูรพาภิรมย์เขตพระนคร กรุงเทพ 10200
โทรศัพท์ 0 2770 7777 โทรสาร 0 2623 9366 E-mail: support@mtsgoldgroup.com