• สรุปข่าวราคาทองคำ ประจำวันที่ 29 ตุลาคม 2567

    29 ตุลาคม 2567 | Gold News


ข่าวเกี่ยวกับทองคำ


  • สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกในวันจันทร์ โดยฟื้นตัวหลังจากร่วงลงในระหว่างวัน ขณะที่นักลงทุนจับตาข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐฯ ในสัปดาห์นี้ ซึ่งรวมถึงดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) เพื่อประเมินแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด)


  • ราคาทองคำตลาดโลก ปรับตัวขึ้น 7.39 เหรียญ หรือ 0.27% อยู่ที่ระดับ 2,741.45 เหรียญ
  • สัญญาทองคำตลาด COMEX ส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 1.30 ดอลลาร์ หรือ 0.05% ปิดที่ 2,755.90 ดอลลาร์/ออนซ์
  • สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 22.20 เซนต์ หรือ 0.66% ปิดที่ 34.001 ดอลลาร์/ออนซ์
  • สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนม.ค. เพิ่มขึ้น 10.10 ดอลลาร์ หรือ 0.97% ปิดที่ 1,046.80 ดอลลาร์/ออนซ์


  • กองทุนทองคำ SPDR วันก่อนหน้าซื้อเข้า 1.72 ตัน ปัจจุบันถือครองที่ 891.5 ตันภาพรวมเดือนตุลาคม ซื้อสุทธิ 19.56 ตัน ขณะที่ปีนี้ ตั้งแต่ 1 ม.ค. - ปัจจุบัน ซื้อสุทธิ 12.39 ตัน


  • ราคาทองคำดีดตัวขึ้นในช่วงท้ายตลาด หลังร่วงหลุดจากระดับ 2,750 ดอลลาร์/ออนซ์ในระหว่างวัน อันเนื่องมาจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์และการพุ่งขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯ


  • แดเนียล จาลี นักวิเคราะห์จากบริษัท TD Securities คาดการณ์ว่า ราคาทองคำมีแนวโน้มพุ่งขึ้นแตะระดับ 2,800 ดอลลาร์ในสัปดาห์นี้ เนื่องจากความไม่แน่นอนของผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ จะเป็นปัจจัยหนุนแรงซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย


  • ความต้องการทองคำในจีนซึ่งเป็นประเทศที่ใช้ทองคำมากที่สุดในโลกนั้น ปรับตัวลงกว่า 1 ใน 5 ในไตรมาส 3/2567 เนื่องจากราคาทองคำที่พุ่งสูงสุดเป็นประวัติการณ์และการชะลอตัวของเศรษฐกิจจีนได้ส่งผลให้ปริมาณการใช้ทองคำลดน้อยลง โดยเฉพาะอย่างยิ่งทองรูปพรรณ


  • สภาทองคำจีน (China Gold Council) เปิดเผยว่า ความต้องการทองคำโดยรวมของจีนลดลง 22% สู่ระดับ 218 ตันในไตรมาส 3/2567 โดยปริมาณการใช้ทองรูปพรรณทรุดตัวลง 29% สู่ระดับ 130 ตัน ขณะที่ปริมาณการใช้ทองคำแท่งและเหรียญทองคำลดลง 9% สู่ระดับ 69 ตัน


ข่าวเกี่ยวกับค่าเงิน และธนาคารกลาง


  • ดัชนีดอลลาร์ ไม่เปลี่ยนแปลง อยู่ที่ระดับ 104.31 จุด
  • อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี ปรับตัวขึ้น 0.01 % มาอยู่ที่ระดับ 4.284% ในขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 2 ปี ปรับตัวลดลง 0.0 % มาอยู่ที่ระดับ 4.142% โดยที่ส่วนต่างอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ 10 ปี มากกว่า 2 ปี เท่ากับ0.14%


  • ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เริ่มเข้าสู่ช่วงงดเว้นการแสดงความเห็นเกี่ยวกับนโยบายการเงิน (Blackout Period) ก่อนที่เฟดจะจัดการประชุมกำหนดนโยบายการเงิน (FOMC) ในวันที่ 6-7 พ.ย. เพียง 1 วันหลังการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐในวันที่ 5 พ.ย.

  • PBOC ออกแถลงการณ์ว่า จะทำข้อตกลงกับคู่ค้าหลัก (Primary Dealers) สำหรับธุรกรรมซื้อคืนพันธบัตรโดยไม่มีเงื่อนไขหรือสัญญาว่าจะซื้อขายคืน (Outright Reverse Repurchase Agreements) โดยดำเนินการผ่านตลาดการเงิน (Open Market Operations) เดือนละ 1 ครั้ง และมีกำหนดเวลาไม่เกิน 1 ปี


ข่าวเกี่ยวกับตลาดหุ้นและเศรษฐกิจ


  • ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกในวันจันทร์ โดยได้แรงหนุนจากการที่ตลาดคลายความกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ในตะวันออกกลาง ขณะที่นักลงทุนจับตาผลประกอบการของบริษัทเทคโนโลยีที่มีมาร์เก็ตแคปสูง และการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐฯ ในสัปดาห์นี้ ซึ่งรวมถึงตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรและดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE)


  • ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 42,387.57 จุด เพิ่มขึ้น 273.17 จุด หรือ +0.65%
  • ดัชนี S&P500 ปิดที่ 5,823.52 จุด เพิ่มขึ้น 15.40 จุด หรือ +0.27% 
  • ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 18,567.19 จุด เพิ่มขึ้น 48.58 จุด หรือ +0.26%


  • บิตคอยน์พุ่งทะลุ 70,000 ดอลลาร์เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนมิถุนายน โดยได้รับแรงหนุนจากเงินไหลเข้าในกองทุน รวมถึงการคาดเดาเกี่ยวกับผลลัพธ์ที่อาจเกิดขึ้นจากการเลือกตั้งสหรัฐฯ ในสัปดาห์หน้า


  • กระทรวงสาธารณสุข แรงงาน และสวัสดิการของญี่ปุ่น เผยผลสำรวจพบว่า แรงงานญี่ปุ่นได้รับการปรับขึ้นเงินเดือนเฉลี่ย 2,524 เยน (ประมาณ 580 บาท) หรือ 4.1% จากปี 2566 สู่ระดับ 11,961 เยนในปีนี้ ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นมากสุดเป็นประวัติการณ์ และเป็นครั้งแรกที่เงินเดือนเฉลี่ยสูงกว่า 10,000 เยน ท่ามกลางราคาสินค้าและบริการที่ปรับตัวสูงขึ้น


  • สำนักงานสถิติแห่งชาติจีน (NBS) เปิดเผยว่า กำไรของบริษัทในภาคอุตสาหกรรมร่วง 27.1% ในเดือนก.ย. ซึ่งเป็นการดิ่งลงรุนแรงที่สุดในปีนี้ หลังจากที่ปรับตัวลง 17.8% ในเดือนส.ค. ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าเศรษฐกิจจีนยังคงอ่อนแอและรัฐบาลจีนจำเป็นต้องใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม


ข่าวเกี่ยวกับน้ำมัน


  • สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงกว่า 6% ในวันจันทร์ หลังจากมีรายงานว่าอิสราเอลหลีกเลี่ยงการโจมตีแหล่งน้ำมันในอิหร่านในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งทำให้อุปทานพลังงานไม่ได้รับผลกระทบ


  • สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 4.40 ดอลลาร์ หรือ 6.13% ปิดที่ 67.38 ดอลลาร์/บาร์เรล
  • สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 4.63 ดอลลาร์ หรือ 6.09% ปิดที่ 71.42 ดอลลาร์/บาร์เรล


  • ราคาน้ำมันยังถูกกดดันจากความกังวลเกี่ยวกับภาวะน้ำมันล้นตลาด ขณะที่สหรัฐฯ แคนาดา บราซิล อาร์เจนตินา และเซเนกัลต่างก็เพิ่มกำลังการผลิตน้ำมันดิบในประเทศ รวมทั้งมีการคาดการณ์ว่า กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และชาติพันธมิตร หรือโอเปกพลัส จะเริ่มปรับเพิ่มกำลังการผลิต 180,000 บาร์เรล/วันในเดือนธ.ค.

ข่าวเกี่ยวกับการเมือง

 

  • ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ระบุว่า นโยบายกีดกันทางการค้ากับจีน เป็นหนึ่งในนโยบายหาเสียงการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ที่จะมีขึ้นในเดือนพ.ย. 67 ที่มีการกล่าวถึงกันมาก โดยเฉพาะนโยบายการขึ้นภาษีนำเข้าจากสินค้าจีน 60% และประเทศอื่น ๆ อีก 10-20% ซึ่งคาดว่าจะสร้างความเสี่ยงเงินเฟ้อในสหรัฐฯ ตลอดจนอาจเกิดการย้ายฐานการผลิตออกจากจีนอีกระลอก


  • ทางการและสื่อหลายสำนักของรัสเซียรายงานว่า ยูเครนส่งโดรนเข้าโจมตีโรงงานผลิตเอทานอลในแคว้นโวโรเนซทางตอนใต้ของรัสเซีย ส่งผลให้มีผู้บาดเจ็บ 2 ราย ก่อให้เกิดเพลิงไหม้ และสร้างความเสียหายให้กับบริษัทอุตสาหกรรม 2 แห่ง


  • โวโลดิเมียร์ เซเลนสกี ประธานาธิบดียูเครน เปิดเผยว่า ยูเครนอาจจำเป็นต้องสู้รบกับทหารเกาหลีเหนือในเร็ววันนี้ เนื่องจากทหารเกาหลีเหนือในรัสเซียอาจเข้าสู่สมรภูมิรบภายในไม่กี่วันข้างหน้า


  • โฆษกกระทรวงการต่างประเทศอิหร่าน เอสมาอิล บากาเออี กล่าวในวันจันทร์ว่า อิหร่านจะ "ใช้ทุกแนวทางที่มี" เพื่อตอบโต้การโจมตีของอิสราเอลใส่เป้าหมายในอิหร่านเมื่อช่วงสุดสัปดาห์ โดยก่อนหน้านี้ อิหร่านกล่าวว่าการโจมตีทางอากาศของอิสราเอลเมื่อวันเสาร์มิได้สร้างความเสียหายมากนัก ขณะที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ โจ ไบเดน เรียกร้องให้ระงับการยกระดับความรุนแรงที่อาจทำให้สงครามลุกลามไปทั่วตะวันออกกลาง


ข่าวเกี่ยวกับเศรษฐกิจไทยและค่าเงินบาท


  • สำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) กระทรวงพาณิชย์ รายงานภาวะการค้าระหว่างประเทศของไทย เดือนก.ย. 67 โดยการส่งออก มีมูลค่า 25,983 ล้านดอลลาร์ ขยายตัว 1.1% จากเดือนเดียวกันของปีก่อน จากที่ตลาดคาดโต 3% ส่วนการนำเข้า มีมูลค่า 25,589 ล้านดอลลาร์ ขยายตัว 9.9% ส่งผลให้ในเดือนก.ย.นี้ ไทยเกินดุลการค้า 394 ล้านดอลลาร์ โดยเป็นการเกินดุลการค้าต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 2



ที่มาจาก : Reuters, Infoquest, BangkokBizNews

Tags : ข่าวทอง, ข่าวทอง , ทอง , ราคาทอง

บริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ จำกัด
40,42,44 ถนนทรัพย์สิน แขวงวังบูรพาภิรมย์เขตพระนคร กรุงเทพ 10200
โทรศัพท์ 0 2770 7777 โทรสาร 0 2623 9366 E-mail: support@mtsgoldgroup.com