MTS Help Center

ข่าวเกี่ยวกับทองคำ

• สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นในวันอังคาร โดยปัจจัยหนุนจากแรงซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย ท่ามกลางความไม่แน่นอนของผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ และสถานการณ์ตึงเครียดในตะวันออกกลาง นอกจากนี้ ราคาทองคำยังได้ปัจจัยบวกจากการคาดการณ์ที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะเดินหน้าปรับลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนพ.ย.

• ราคาทองคำตลาดโลก ปรับตัวขึ้น 38.06 เหรียญ หรือ 1.40% อยู่ที่ระดับ 2,780 เหรียญ
• สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 25.20 ดอลลาร์ หรือ 0.91% ปิดที่ 2,781.10 ดอลลาร์/ออนซ์
• สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 44 เซนต์ หรือ 1.29% ปิดที่ 34.441 ดอลลาร์/ออนซ์
• สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนม.ค. เพิ่มขึ้น 12.50 ดอลลาร์ หรือ 1.19% ปิดที่ 1,059.30 ดอลลาร์/ออนซ์

• กองทุนทองคำ SPDR วันก่อนหน้าขายออก 1.72 ตัน ปัจจุบันถือครองที่ 889.78 ตันภาพรวมเดือนตุลาคม ซื้อสุทธิ 17.84 ตัน ขณะที่ปีนี้ ตั้งแต่ 1 ม.ค. - ปัจจุบัน ซื้อสุทธิ 10.67 ตัน

• ปีเตอร์ แกรนท์ นักกลยุทธ์ด้านโลหะจากบริษัท Zaner Metals กล่าวว่า ราคาทองคำยังคงได้รับปัจจัยบวกจากแรงซื้อสินทรัพย์ปลอดภัยในช่วงเวลาที่สถานการณ์ในตะวันออกกลางยังคงตึงเครียด รวมทั้งความไม่แน่นอนทางการเมืองในสหรัฐฯ ที่อาจจะเกิดขึ้นหลังการเลือกตั้งในสัปดาห์หน้า

ข่าวเกี่ยวกับค่าเงิน และธนาคารกลาง

• ดัชนีดอลลาร์ ปรับตัวลดลง -0.06 จุด หรือ -0.06% มาอยู่ที่ระดับ 104.25 จุด
• อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี  ปรับตัวลดลง -0.03 % มาอยู่ที่ระดับ 4.256% ในขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 2 ปี ปรับตัวลดลง -0.04 % มาอยู่ที่ระดับ 4.098% โดยที่ส่วนต่างอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ 10 ปี มากกว่า 2 ปี เท่ากับ0.16%

ข่าวเกี่ยวกับตลาดหุ้นและเศรษฐกิจ

• ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบในวันอังคาร โดยตลาดถูกกดดันจากการพุ่งขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯ แต่ดัชนี Nasdaq ปิดที่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ และดัชนี S&P500 ปิดในแดนบวก ก่อนที่บริษัทอัลฟาเบท (Alphabet) จะรายงานผลประกอบการ ขณะที่นักลงทุนจับตาการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐฯ

• ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 42,233.05 จุด ลดลง 154.52 จุด หรือ -0.36%
• ดัชนี S&P500 ปิดที่ 5,832.92 จุด เพิ่มขึ้น 9.40 จุด หรือ +0.16% และ
• ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 18,712.75 จุด เพิ่มขึ้น 145.56 จุด หรือ +0.78%

• ผลการสำรวจจากหลายสำนักบ่งชี้ถึงคะแนนนิยมที่สูสีกันอย่างมากระหว่างคามาลา แฮร์ริส ผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ จากพรรคเดโมแครต และโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้สมัครจากพรรครีพับลิกัน ในช่วงโค้งสุดท้ายก่อนการเลือกตั้งประธานาธิบดีในวันที่ 5 พ.ย.

• นักลงทุนจับตาข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐฯ ในสัปดาห์นี้เพื่อหาสัญญาณที่ชัดเจนเกี่ยวกับทิศทางอัตราดอกเบี้ยของเฟด โดยข้อมูลดังกล่าวรวมถึงตัวเลขจ้างงานภาคเอกชนจาก ADP, จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตร, ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ประจำไตรมาส 3/67 และดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE)

• จีนกำลังพิจารณาแผนกระตุ้นเศรษฐกิจมูลค่ากว่า 10 ล้านล้านหยวน (1.4 ล้านล้านดอลลาร์) โดยแบ่งเป็น 6 ล้านล้านหยวนสำหรับแก้ปัญหาหนี้ท้องถิ่นในระยะเวลา 3 ปี และ 4 ล้านล้านหยูวนสำหรับให้รัฐบาลท้องถิ่นซื้อที่ดินและอสังหาริมทรัพย์ในอีก 5 ปีข้างหน้า ซึ่งอาจได้รับการอนุมัติในการประชุมสภาวันที่ 4-8 พฤศจิกายนนี้ และอาจเพิ่มขึ้นอีกหากทรัมป์ชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ

ข่าวเกี่ยวกับน้ำมัน

• สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดลบในวันอังคาร หลังจากมีรายงานว่าเบนจามิน เนทันยาฮู นายกรัฐมนตรีอิสราเอลจะจัดการประชุมเกี่ยวกับการใช้ช่องทางการทูตเพื่อหาทางออกให้กับสงครามในเลบานอน ซึ่งข่าวดังกล่าวบ่งชี้ว่าสถานการณ์ตึงเครียดในตะวันออกกลางมีแนวโน้มคลี่คลายลง

• สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 17 เซนต์ หรือ 0.3% ปิดที่ 67.21 ดอลลาร์/บาร์เรล
• สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 30 เซนต์ หรือ 0.4% ปิดที่ 71.12 ดอลลาร์/บาร์เรล

• บารัค เรวิด ผู้สื่อข่าวของสำนักข่าวแอกซิออส (Axios) เปิดเผยโดยอ้างแหล่งข่าวว่า เนทันยาฮูจะจัดการประชุมร่วมกับบรรดารัฐมนตรี ผู้นำทางทหาร และหน่วยข่าวกรองของอิสราเอล โดยจะหารือเกี่ยวกับการใช้ช่องทางการทูตเพื่อหาทางออกให้กับสงครามในเลบานอน

• ข่าวดังกล่าวนับเป็นสัญญาณบ่งชี้ว่าสถานการณ์ในตะวันออกกลางมีแนวโน้มคลี่คลายลง และส่งผลให้ราคาน้ำมันปรับตัวลงติดต่อกันเป็นวันที่ 2 หลังจากราคาน้ำมัน WTI และน้ำมันเบรนท์ดิ่งลงกว่า 6% เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา ภายหลังจากมีรายงานว่าอิสราเอลหลีกเลี่ยงการโจมตีแหล่งน้ำมันของอิหร่านในระหว่างใช้ปฏิบัติการทางทหารโจมตีอิหร่านเมื่อวันเสาร์ (26 ต.ค.)

ข่าวเกี่ยวกับการเมือง

• ซีอีโอของบริษัทโกลด์แมน แซคส์ (Goldman Sachs) วาณิชธนกิจชั้นนำของสหรัฐฯ แสดงความกังวลเกี่ยวกับความขัดแย้งที่ขยายตัวขึ้นเป็นวงกว้างในตะวันออกกลาง แม้ว่าจะยังไม่ส่งผลกระทบกับธุรกิจมากนักก็ตาม

• เบนจามิน เนทันยาฮู นายกรัฐมนตรีอิสราเอล กล่าวว่า เขาหวังที่จะจัดทำข้อตกลงสันติภาพกับประเทศอาหรับอื่น ๆ เพิ่มเติม หลังสงครามกับกลุ่มฮามาสและฮิซบอลเลาะห์สิ้นสุดลงแล้ว

 

ข่าวเกี่ยวกับเศรษฐกิจไทยและค่าเงินบาท

• นักบริหารการเงิน เปิดเผยว่า ค่าเงินบาทเปิดเช้านี้ ที่ระดับ  33.66 บาทต่อดอลลาร์ “แข็งค่าขึ้น” จากระดับปิดวันก่อนหน้า ที่ระดับ  33.77 บาทต่อดอลลาร์ มองกรอบเงินบาทวันนี้ คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 33.55- 33.80 บาทต่อดอลลาร์ (ควรระวังความผันผวนในช่วงตลาดทยอยรับรู้รายงานข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ)

• รมว.คลัง กล่าวว่า ธปท. เองก็มีจุดประสงค์ที่ชัดเจนในการทำนโยบายการเงิน รวมถึงนโยบายอัตราแลกเปลี่ยน เพื่อสนับสนุนนโยบายเศรษฐกิจของรัฐบาล โดยการกำหนดกรอบเงินเฟ้อนั้น หากจะยังอยู่ที่ 1-3% ก็รับได้ เพียงแต่ทั้ง ธปท. และ กนง. จะต้องมีมาตรการสนับสนุนการเติบโตของเศรษฐกิจ เพื่อให้เงินเฟ้อขึ้นไปอยู่ในจุดที่เหมาะสม และใกล้เคียงค่ากลางที่ 2%

• ศูนย์วิจัยเศรษฐกิจและธุรกิจ ธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB EIC) ประเมินว่า มูลค่าการส่งออกไทยปี 2567 มีแนวโน้มจะขยายตัวได้ 2.6% ส่วนปี 2568 คาดว่าจะขยายตัวได้ 2.8% ทั้งนี้ มูลค่าการส่งออกของไทย 2 เดือนที่ผ่านมา (ส.ค.-ก.ย.) ขยายตัวได้สูงกว่าที่ SCB EIC คาดการณ์ไว้ และสูงกว่ามุมมองตลาดมาก ส่วนหนึ่งจากการส่งออกทองคำที่เพิ่มขึ้นตามราคาตลาดโลก และวัฏจักรสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ขาขึ้น ส่งผลให้มูลค่าส่งออกในช่วง 9 เดือนแรกของปีนี้ (ม.ค.-ก.ย.) ขยายตัวถึง 3.9% ประกอบกับมูลค่าการส่งออกในไตรมาสสุดท้ายของปีนี้ มีแนวโน้มขยายตัวดีต่อเนื่องจากผลของวัฏจักรอิเล็กทรอนิกส์ขาขึ้น และปัจจัยฐานที่ค่อนข้างต่ำ ทำให้มูลค่าการส่งออกปีนี้ จึงมีแนวโน้มขยายตัวมากกว่าประมาณการเดิมที่ 2.6%

ที่มาจาก : Reuters, Infoquest, BangkokBizNews

Tags : ข่าวทอง, ข่าวทอง , ทอง , ราคาทอง