• สรุปข่าวราคาทองคำ ประจำวันที่ 1 พฤศจิกายน 2567

    1 พฤศจิกายน 2567 | Gold News


ข่าวเกี่ยวกับทองคำ


  • สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงกว่า 50 ดอลลาร์ในวันพฤหัสบดี เนื่องจากนักลงทุนขายทำกำไรหลังจากราคาทองพุ่งขึ้นทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ก่อนหน้านี้ ขณะที่นักวิเคราะห์มองว่าราคาทองคำมีแนวโน้มที่แข็งแกร่ง เนื่องจากนักลงทุนยังคงเข้าซื้อสินทรัพย์ปลอดภัยท่ามกลางความไม่แน่นอนของผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ


  • ราคาทองคำตลาดโลก ปรับตัวลดลง -43.7 เหรียญ หรือ -1.57% อยู่ที่ระดับ 2,745.3 เหรียญ
  • สัญญาทองคำตลาด COMEX ส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 51.50 เหรียญ หรือ 1.84% ปิดที่ 2,749.30 เหรียญ
  • สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 1.279 เหรียญ หรือ 3.75% ปิดที่ 32.796 เหรียญ
  • สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนม.ค. ลดลง 22.10 เหรียญ หรือ 2.16% ปิดที่ 999.60 เหรียญ
  • สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 42.50 เหรียญ หรือ 3.68% ปิดที่ 1,111.60 เหรียญ


  • กองทุนทองคำ SPDR วันก่อนหน้าขายออก 0.86 ตัน ปัจจุบันถือครองที่ 891.79 ตันภาพรวมเดือนตุลาคม ซื้อสุทธิ 19.85 ตัน ขณะที่ปีนี้ ตั้งแต่ 1 ม.ค. - ปัจจุบัน ซื้อสุทธิ 12.68 ตัน


  • ผู้อำนวยการฝ่ายการซื้อขายโลหะจากบริษัท High Ridge Futures กล่าวว่า แม้ราคาทองคำปรับตัวลงเนื่องจากแรงขายทำกำไร แต่คาดว่าเหตุการณ์สำคัญที่จะเกิดขึ้นในสัปดาห์หน้าซึ่งรวมถึงการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ และสถานการณ์ตึงเครียดในตะวันออกกลาง จะยังคงเป็นปัจจัยหนุนแรงซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย


  • Goldman Sachs คาดการณ์ว่าราคาทองคำจะพุ่งแตะ 3,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อทรอยออนซ์ภายในสิ้นปี 2568 โดยชี้ว่าปัจจัยหลักที่ผลักดันราคาทองคำให้สูงขึ้นในปัจจุบันคือ ความต้องการซื้อทองคำของธนาคารกลางทั่วโลกที่เพิ่มขึ้นอย่างมาก

ข่าวเกี่ยวกับค่าเงิน และธนาคารกลาง


  • ดัชนีดอลลาร์ ปรับตัวลดลง -0.25 จุด หรือ -0.24% มาอยู่ที่ระดับ 103.86 จุด
  • อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี  ปรับตัวลดลง -0.01 % มาอยู่ที่ระดับ 4.286% ในขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 2 ปี ปรับตัวลดลง -0.01 % มาอยู่ที่ระดับ 4.174% โดยที่ส่วนต่างอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ 10 ปี มากกว่า 2 ปี เท่ากับ0.11%


  • ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ได้คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 0.25% ในการประชุมล่าสุด โดยผู้ว่าการ Kazuo Ueda ส่งสัญญาณว่าธนาคารกลางยังคงพร้อมที่จะปรับขึ้นดอกเบี้ยในอนาคตหากเศรษฐกิจและเงินเฟ้อเป็นไปตามคาด แม้จะมีความไม่แน่นอนทางการเมืองทั้งในญี่ปุ่นและสหรัฐฯ โดยตลาดคาดการณ์ว่าอาจมีการปรับขึ้นดอกเบี้ยในเดือนธันวาคม 2024 หรือมกราคม 2025

ข่าวเกี่ยวกับตลาดหุ้นและเศรษฐกิจ


  • ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดร่วงลงกว่า 300 จุดในวันพฤหัสบดี ขณะที่ดัชนี S&P500 และ Nasdaq ดิ่งลงในวันเดียวที่รุนแรงที่สุดนับตั้งแต่วันที่ 3 ก.ย. หลังจากบริษัทไมโครซอฟท์ (Microsoft) และเมตา แพลตฟอร์มส์ (Meta Platforms) ระบุว่าต้นทุนด้านเทคโนโลยีปัญญาณประดิษฐ์ (AI) ที่ปรับตัวสูงขึ้นอาจจะส่งผลกระทบต่อผลประกอบการของบริษัท


  • ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 41,763.46 จุด ลดลง 378.08 จุด หรือ -0.90%
  • ดัชนี S&P500 ปิดที่ 5,705.45 จุด ลดลง 108.22 จุด หรือ -1.86% 
  • ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 18,095.15 จุด ลดลง 512.78 จุด หรือ -2.76%


  • กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า Headline PCE ปรับตัวขึ้น 2.1%yoy ในเดือน ก.ย. สอดคล้อง ตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ จากระดับ 2.3% ในเดือนส.ค. ส่วนดัชนี PCE พื้นฐาน (Core PCE) ปรับตัวขึ้น 2.7% ในเดือน ก.ย. เมื่อเทียบรายปี สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 2.6% จากระดับ 2.7% ในเดือนส.ค.


ข่าวเกี่ยวกับน้ำมัน


  • สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกในวันพฤหัสบดี หลังจากมีรายงานอิหร่านเตรียมเปิดฉากโจมตีอิสราเอลจากดินแดนอิรักในอีกไม่กี่วันข้างหน้านี้


  • สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 65 เซนต์ หรือ 0.95% ปิดที่ 69.26 ดอลลาร์/บาร์เรล
  • สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 61 เซนต์ หรือ 0.84% ปิดที่ 73.16 ดอลลาร์/บาร์เรล


  • สำนักข่าวแอกซิออส (Axios) รายงานโดยอ้างแหล่งข่าวอิสราเอลว่า หน่วยข่าวกรองของอิสราเอลเชื่อว่าอิหร่านกำลังเตรียมความพร้อมเพื่อทำการโจมตีอิสราเอลจากดินแดนอิรักในอีกไม่กี่วันข้างหน้า โดยมีความเป็นไปได้ว่าอาจเกิดขึ้นก่อนการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ในวันที่ 5 พ.ย.


  • แหล่งข่าวเปิดเผยกับ Axios ว่า คาดว่าอิหร่านจะโจมตีอิสราเอลผ่านทางนักรบติดอาวุธในอิรักที่สนับสนุนอิหร่าน โดยจะมีการใช้โดรนและขีปนาวุธจำนวนมาก พร้อมระบุว่าการใช้นักรบติดอาวุธในอิรักโจมตีอิสราเอลนั้น อาจเป็นความพยายามของอิหร่านที่จะหลีกเลี่ยงไม่ให้อิสราเอลทำการโจมตีเป้าหมายเชิงยุทธศาสตร์ในอิหร่านอีกระลอก


  • ราคาน้ำมันยังได้แรงหนุนจากรายงานที่ว่า กลุ่มโอเปกและชาติพันธมิตร (โอเปกพลัส) อาจเลื่อนแผนการปรับเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมันออกไปอีก 1 เดือน หรือมากกว่านั้น จากเดิมที่กำหนดไว้ในเดือนธ.ค. ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับอุปสงค์ที่อ่อนแอในตลาด และอุปทานน้ำมันที่เพิ่มขึ้น โดยก่อนหน้านี้ โอเปกพลัสมีแผนปรับเพิ่มกำลังการผลิต 180,000 บาร์เรล/วันในเดือนธ.ค.


ข่าวเกี่ยวกับการเมือง


  • ทำเนียบประธานาธิบดีเกาหลีใต้เปิดเผยว่า เตรียมออกมาตรการคว่ำบาตรเกาหลีเหนือรอบใหม่ เพื่อตอบโต้การที่เกาหลีเหนือยิงขีปนาวุธที่ต้องสงสัยว่าเป็นขีปนาวุธข้ามทวีป (ICBM) ลงสู่ทะเลญี่ปุ่น


  • สำนักข่าวกลางเกาหลี (KCNA) ของทางการเกาหลีเหนือ และสำนักข่าวทาสส์ (TASS) ของทางการรัสเซียรายงานว่า ทั้งสองประเทศได้ลงนามข้อตกลงเพื่อกระชับความร่วมมือด้านเทคโนโลยีการสื่อสารและการพัฒนาดิจิทัล พร้อมทั้งประชุมคณะทำงานร่วมกันเพื่อหารือเกี่ยวกับการผลักดันข้อตกลงดังกล่าว


  • สถานีโทรทัศน์ Kan TV ของทางการอิสราเอล ได้เปิดเผยเอกสารที่อ้างว่าเป็นร่างข้อตกลงระหว่างอิสราเอลกับเลบานอน ซึ่งเสนอโดยสหรัฐอเมริกา เพื่อยุติการปะทะกันระหว่างอิสราเอลกับกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ โดยร่างดังกล่าวระบุว่า อิสราเอลจะต้องถอนทหารออกจากเลบานอนตอนใต้ภายใน 7 วันหลังจากลงนามข้อตกลง ซึ่งจะอยู่ภายใต้การกำกับดูแลของสหรัฐฯ และประเทศอื่น และภายใน 60 วัน เลบานอนจะต้องปลดอาวุธกองกำลังที่ไม่เป็นทางการทั้งหมดในเลบานอนตอนใต้ นอกจากนั้นต้องคอยตรวจสอบการผลิตและจำหน่ายอาวุธภายในประเทศ เพื่อไม่ให้อาวุธไปถึงมือกลุ่มฮิซบอลเลาะห์หรือกลุ่มติดอาวุธอื่นๆ


ข่าวเกี่ยวกับเศรษฐกิจไทยและค่าเงินบาท


  • นักบริหารการเงิน เปิดเผยว่า ค่าเงินบาทเปิดเช้านี้ ที่ระดับ  33.81 บาทต่อดอลลาร์อ่อนค่าลงเล็กน้อยจากระดับปิดวันก่อนหน้า ที่ระดับ  33.75 บาทต่อดอลลาร์ มองกรอบเงินบาทวันนี้ คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 33.65-34.00 บาทต่อดอลลาร์ (ระวังความผันผวนในช่วงตลาดทยอยรับรู้รายงานข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ)


  • โฆษก ธปท. เปิดเผยว่า ภาวะเศรษฐกิจไทยเดือน ก.ย.67 ชะลอลงจากเดือนก่อนหน้า ตามการส่งออกสินค้าและการบริโภคภาคเอกชน ขณะที่การลงทุนภาคเอกชนทรงตัว อย่างไรก็ดี รายรับจากนักท่องเที่ยวต่างชาติเพิ่มขึ้น และการใช้จ่ายภาครัฐขยายตัว ทั้งรายจ่ายประจำ และรายจ่ายลงทุน


  • ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง แถลงผลการประมาณการแนวโน้มเศรษฐกิจไทยปี 2568 คาดว่าเศรษฐกิจไทยจะขยายตัวเร่งขึ้นจากปีนี้ มาอยู่ที่ 3.0% (ช่วง 2.5 – 3.5%) จากปัจจัยบวก 4 ด้านหลัก คือ 1.การบริโภคภาคเอกชน 2.การส่งออกสินค้า 3.การท่องเที่ยว และ 4.การลงทุนทั้งภาครัฐและเอกชน

 

 


ที่มาจาก : Reuters, Infoquest, BangkokBizNews

Tags : ข่าวทอง, ข่าวทอง , ทอง , ราคาทอง

บริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ จำกัด
40,42,44 ถนนทรัพย์สิน แขวงวังบูรพาภิรมย์เขตพระนคร กรุงเทพ 10200
โทรศัพท์ 0 2770 7777 โทรสาร 0 2623 9366 E-mail: support@mtsgoldgroup.com