• สรุปข่าวราคาทองคำ ประจำวันที่ 22 พฤศจิกายน 2567

    22 พฤศจิกายน 2567 | Gold News


ข่าวเกี่ยวกับทองคำ


  • สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกติดต่อกันเป็นวันที่ 4 ในวันพฤหัสบดี โดยได้แรงหนุนจากการที่นักลงทุนเดินหน้าซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับสงครามระหว่างรัสเซียและยูเครน รวมทั้งการเปิดเผยรายได้ของบริษัทอินวิเดีย (Nvidia) ที่ชะลอตัวในไตรมาส 3


  • ราคาทองคำตลาดโลก ปรับตัวขึ้น 27.61 เหรียญ หรือ 1.04% อยู่ที่ระดับ 2,677.53 เหรียญ
  • สัญญาทองคำตลาด COMEX ส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 23.20 เหรียญ หรือ 0.87% ปิดที่ 2,674.90 เหรียญ
  • สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนมี.ค. ลดลง 5.20 เซนต์ หรือ 0.17% ปิดที่ 31.379 เหรียญ
  • สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนม.ค. เพิ่มขึ้น 4.70 เหรียญ หรือ 0.49% ปิดที่ 970.50 เหรียญ
  • กองทุนทองคำ SPDR วันก่อนหน้าซื้อเข้า 2.58 ตัน ปัจจุบันถือครองที่ 877.97 ตันภาพรวมเดือนพฤศจิกายน ขายสุทธิ 13.82 ตัน ขณะที่ปีนี้ ตั้งแต่ 1 ม.ค. - ปัจจุบัน ขายสุทธิ 1.14 ตัน


  • ผู้อำนวยการฝ่ายการซื้อขายโลหะของบริษัท High Ridge Futures กล่าวว่า สถานการณ์ตึงเครียดระหว่างรัสเซียและยูเครนที่รุนแรงมากขึ้นในขณะนี้ เป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้นักลงทุนเข้าซื้อทองคำอย่างต่อเนื่อง 


ข่าวเกี่ยวกับค่าเงิน และธนาคารกลาง


  • ดัชนีดอลลาร์ ปรับตัวขึ้น 0.44 จุด หรือ 0.41% มาอยู่ที่ระดับ 107.03 จุด
  • อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี ปรับตัวขึ้น 0.01 % มาอยู่ที่ระดับ 4.42% ในขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 2 ปี ปรับตัวขึ้น 0.02 % มาอยู่ที่ระดับ 4.341% โดยที่ส่วนต่างอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ 10 ปี มากกว่า 2 ปี เท่ากับ0.08%


  • ธนาคารกลางยุโรป (ECB) เปิดเผยรายงานทบทวนเสถียรภาพด้านการเงิน (Financial Stability Review) รอบครึ่งปี โดยระบุว่า สถานการณ์ตึงเครียดด้านการค้าที่เกิดขึ้นทั่วโลกได้สร้างความเสี่ยงให้กับเศรษฐกิจยูโรโซน และยังระบุด้วยว่า เศรษฐกิจที่ขยายตัวอ่อนแอลงถือเป็นภัยคุกคามมากกว่าภาวะเงินเฟ้อสูงในกลุ่มยูโรโซนซึ่งประกอบไปด้วยสมาชิก 20 ประเทศ


  • หลายประเทศทั่วโลกกำลังแสดงความกังวลเกี่ยวกับแผนการของทรัมป์ที่จะเรียกเก็บภาษีนำเข้า 10% สำหรับสินค้านำเข้าจากทุกประเทศ นอกจากนี้ ทรัมป์ยังมีแผนที่จะเรียกเก็บภาษีสินค้านำเข้าในอัตราที่สูงกว่ามากจากบางประเทศ เช่นจีน ขณะที่นักเศรษฐศาสตร์กังวลว่า ผลกระทบจากการใช้มาตรการเหล่านี้อาจเป็นปัจจัยฉุดค่าเงินยูโร หากการชะลอตัวของการส่งออกกระตุ้นให้ ECB ต้องปรับลดอัตราดอกเบี้ยเร็วขึ้น


ข่าวเกี่ยวกับตลาดหุ้นและเศรษฐกิจ


  • ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นกว่า 1% ในวันพฤหัสบดี โดยได้ปัจจัยบวกจากแรงซื้อหุ้นวัฏจักร (Cyclical Stocks) นอกจากนี้ บรรยากาศการซื้อขายยังได้แรงหนุนจากการที่นักลงทุนมีมุมมองบวกต่อผลประกอบการของบริษัทอินวิเดีย (Nvidia) ซึ่งเป็นผู้ผลิตชิปปัญญาประดิษฐ์ (AI) รายใหญ่ของสหรัฐฯ


  • ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 43,870.35 จุด เพิ่มขึ้น 461.88 จุด หรือ +1.06%
  • ดัชนี S&P500 ปิดที่ 5,948.71 จุด เพิ่มขึ้น 31.60 จุด หรือ +0.53% 
  • ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 18,972.42 จุด เพิ่มขึ้น 6.28 จุด หรือ +0.03%


  • ที่ปรึกษารัฐบาลจีนแนะนำให้รัฐบาลคงเป้าหมายการเติบโตทางเศรษฐกิจไว้ที่ราว 5.0% สำหรับปีหน้า พร้อมผลักดันให้ใช้นโยบายกระตุ้นด้านการคลังที่แข็งแกร่งขึ้นเพื่อลดผลกระทบจากการปรับขึ้นภาษีศุลกากรของสหรัฐฯ ที่คาดว่าจะส่งผลกระทบต่อการส่งออกของจีน


  • นายกรัฐมนตรีชิเงรุ อิชิบะ ของญี่ปุ่น เตรียมเปิดตัวมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจวงเงิน 21.9 ล้านล้านเยน (1.4 แสนล้านดอลลาร์) เพื่อจัดการกับความท้าทายต่าง ๆ ที่ประเทศต้องเผชิญ ตั้งแต่เงินเฟ้อไปจนถึงการปรับขึ้นค่าจ้าง


ข่าวเกี่ยวกับน้ำมัน


  • สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกในวันพฤหัสบดี หลังจากสถานการณ์ตึงเครียดระหว่างรัสเซียและยูเครนทวีความรุนแรงมากขึ้น โดยขณะนี้ทั้งสองประเทศต่างก็โจมตีกันด้วยขีปนาวุธ ซึ่งทำให้นักลงทุนคาดการณ์ว่าอุปทานน้ำมันอาจได้รับผลกระทบหากความขัดแย้งลุกลามเป็นวงกว้าง


  • สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนม.ค. เพิ่มขึ้น 1.35 ดอลลาร์ หรือ 1.96% ปิดที่ 70.10 ดอลลาร์/บาร์เรล
  • สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนม.ค. เพิ่มขึ้น 1.42 ดอลลาร์ หรือ 1.95% ปิดที่ 74.23 ดอลลาร์/บาร์เรล
  • นักวิเคราะห์ด้านสินค้าโภคภัณฑ์จากบริษัท SEB กล่าวว่า นักลงทุนเริ่มหันมาจับตาสงครามระหว่างยูเครนและรัสเซียที่มีความรุนแรงมากขึ้น โดยรัสเซียเป็นผู้ส่งออกน้ำมันดิบรายใหญ่อันดับสองของโลกรองจากซาอุดีอาระเบีย ซึ่งหากเกิดภาวะชะงักครั้งใหญ่ก็อาจส่งผลกระทบต่ออุปทานน้ำมันทั่วโลกด้วย
 
  • ขณะที่นักวิเคราะห์จาก ING กล่าวว่า อุปทานน้ำมันอาจตกอยู่ในความเสี่ยงหากยูเครนพุ่งเป้าโจมตีโครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงานของรัสเซีย และความเสี่ยงอีกด้านหนึ่งก็คือความไม่แน่นอนว่ารัสเซียจะตอบโต้ต่อการโจมตีเหล่านี้อย่างไร

 

  • ราคาน้ำมันยังได้แรงหนุนจากข่าวที่ว่า กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และชาติพันธมิตร หรือโอเปกพลัส มีแนวโน้มเลื่อนแผนการปรับเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมันในการประชุมที่จะมีขึ้นในวันที่ 1 ธ.ค.


ข่าวเกี่ยวกับการเมือง

 

  • รัสเซียได้ยิงขีปนาวุธข้ามทวีป (ICBM) จากแคว้นอัสตราคัน ทางตอนใต้ของรัสเซีย เพื่อโจมตียูเครน นับเป็นครั้งแรกที่รัสเซียใช้ขีปนาวุธพิสัยไกลที่มีอานุภาพร้ายแรงเช่นนี้ในการทำสงครามกับยูเครน โดยการโจมตีครั้งนี้เกิดขึ้นหลังจากยูเครนใช้ขีปนาวุธของสหรัฐฯ และอังกฤษ โจมตีเป้าหมายภายในประเทศรัสเซียในสัปดาห์นี้ จนเป็นเหตุให้รัสเซียประกาศปรับหลักเกณฑ์ในการใช้อาวุธนิวเคลียร์ ซึ่งก่อนหน้านี้รัสเซียได้เคยเตือนมาหลายเดือนแล้วว่า หากยูเครนทำเช่นนี้ จะถือเป็นการยกระดับความขัดแย้งครั้งใหญ่ และเตือนชาติตะวันตกว่า รัสเซียสามารถโจมตีฐานทัพของประเทศใดก็ตามที่ใช้อาวุธโจมตีรัสเซีย

 

  • ปูตินกล่าวว่า ชาติตะวันตกกำลังยกระดับความขัดแย้งด้วยการอนุญาตให้ยูเครนใช้ขีปนาวุธพิสัยไกลโจมตีรัสเซีย และสงครามครั้งนี้กำลังลุกลามกลายเป็นความขัดแย้งระดับโลก

 

  • โฆษกกระทรวงการต่างประเทศรัสเซีย เปิดเผยว่า รัสเซียพร้อมที่จะพิจารณาข้อเสนอสันติภาพใด ๆ ก็ตามที่ เป็นไปได้จริงเพื่อคลี่คลายความขัดแย้งในยูเครน โดยคำนึงถึงผลประโยชน์ของชาติและสถานการณ์ในพื้นที่เป็นหลัก


ข่าวเกี่ยวกับเศรษฐกิจไทยและค่าเงินบาท


  • ค่าเงินบาทเปิดเช้านี้ที่ระดับ  34.75 บาทต่อดอลลาร์อ่อนค่าลงเล็กน้อยจากระดับปิดวันก่อนหน้า ที่ระดับ  34.66 บาทต่อดอลลาร์ จากปัจจัยการแข็งค่าขึ้นบ้างของเงินดอลลาร์ในช่วงคืนที่ผ่านมา อาจกดดันให้เงินบาทสามารถอ่อนค่าลงทดสอบโซนแนวต้าน 34.70-34.80 บาทต่อดอลลาร์ได้


  • ธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB EIC) ระบุว่าปัญหาหนี้ครัวเรือนไทยเป็นหนึ่งในปัญหาเศรษฐกิจที่พูดถึงกันมาก โดยเฉพาะตั้งแต่เกิดวิกฤต COVID-19 สัดส่วนหนี้ครัวเรือนต่อ GDP ของไทยสูงขึ้นเร็ว และติดอันดับต้น ๆ ของโลก อย่างไรก็ดี ข้อมูลล่าสุด ณ ไตรมาส 2 ปี 2567 ชี้ว่าสัดส่วนหนี้ครัวเรือนไทยต่อ GDP ลดลงต่อเนื่องจากสิ้นปี 2566 ที่ 91.4% เหลือ 89.6% ต่ำสุดตั้งแต่เกิดวิกฤต COVID-19



ที่มาจาก : Reuters, Infoquest, BangkokBizNews

Tags : ข่าวทอง, ข่าวทอง , ทอง , ราคาทอง

บริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ จำกัด
40,42,44 ถนนทรัพย์สิน แขวงวังบูรพาภิรมย์เขตพระนคร กรุงเทพ 10200
โทรศัพท์ 0 2770 7777 โทรสาร 0 2623 9366 E-mail: support@mtsgoldgroup.com