MTS Help Center

ข่าวเกี่ยวกับทองคำ

• สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกในวันพุธ โดยได้แรงหนุนจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์ อย่างไรก็ดี ราคาทองคำลดช่วงบวก หลังสหรัฐฯ เปิดเผยข้อมูลที่บ่งชี้ว่าเงินเฟ้อยังคงอยู่ในระดับสูง ซึ่งอาจส่งผลให้ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ชะลอการปรับลดอัตราดอกเบี้ย

• ราคาทองคำตลาดโลก ปรับตัวลดลง -7.2 เหรียญ หรือ -0.27% อยู่ที่ระดับ 2,624.01 เหรียญ
• สัญญาทองคำตลาด COMEX ส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 18.60 เหรียญ หรือ 0.71% ปิดที่ 2,639.90 เหรียญ
• สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนมี.ค. ลดลง 27.60 เซนต์ หรือ 0.90% ปิดที่ 30.556 เหรียญ
• สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนม.ค. เพิ่มขึ้น 1.90 เหรียญ หรือ 0.20% ปิดที่ 931.80 เหรียญ
• กองทุนทองคำ SPDR วันก่อนหน้าขายออก 0.86 ตัน ปัจจุบันถือครองที่ 878.55 ตันภาพรวมเดือนพฤศจิกายน ขายสุทธิ 13.24 ตัน ขณะที่ปีนี้ ตั้งแต่ 1 ม.ค. - ปัจจุบัน ขายสุทธิ 0.56 ตัน

• อย่างไรก็ดี ราคาทองคำลดช่วงบวก เนื่องจากนักลงทุนกังวลว่าตัวเลขเงินเฟ้อที่ยังคงอยู่ในระดับสูงอาจทำให้เฟดชะลอการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในปีหน้า โดยกระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ เปิดเผยว่าดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) เพิ่มขึ้น 2.3% ในเดือนต.ค. เมื่อเทียบรายปี ซึ่งแม้ว่าสอดคล้องกับการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ แต่ก็ปรับตัวขึ้นมากกว่าในเดือนก.ย.ที่เพิ่มขึ้น 2.1%

ข่าวเกี่ยวกับค่าเงิน และธนาคารกลาง

• ดัชนีดอลลาร์ ปรับตัวลดลง -0.67 จุด หรือ -0.63% มาอยู่ที่ระดับ 106.15 จุด
• อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี  ปรับตัวลดลง -0.04 % มาอยู่ที่ระดับ 4.261% ในขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 2 ปี ปรับตัวลดลง -0.03 % มาอยู่ที่ระดับ 4.231% โดยที่ส่วนต่างอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ 10 ปี มากกว่า 2 ปี เท่ากับ0.03%

• เครื่องมือ FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า แม้นักลงทุนยังคงคาดการณ์ว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% ในการประชุมเดือนธ.ค. แต่ก็คาดว่าเฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนม.ค.และเดือนมี.ค.ปีหน้า

• สก็อต เวลช์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านการลงทุนจากบริษัท Certuity กล่าวว่า ดัชนี PCE ล่าสุดสะท้อนให้เห็นว่าเงินเฟ้อของสหรัฐฯ ยังคงอยู่ในระดับสูงกว่าที่เฟดคาดหวังไว้ และอาจทำให้เฟดชะลอการปรับลดอัตราดอกเบี้ย นอกจากนี้ ตลาดยังกังวลว่าหากสหรัฐฯ บังคับใช้มาตรการเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าของทรัมป์ ก็จะส่งผลให้เงินเฟ้อปรับตัวสูงขึ้น

ข่าวเกี่ยวกับตลาดหุ้นและเศรษฐกิจ

• ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบในวันพุธ ส่วนดัชนี Nasdaq และ S&P500 ปิดในแดนลบเช่นกัน เนื่องจากนักลงทุนกังวลว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) อาจชะลอการปรับลดอัตราดอกเบี้ย หลังสหรัฐฯ เปิดเผยข้อมูลเงินเฟ้อที่ยังคงอยู่ในระดับสูง

• ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 44,722.06 จุด ลดลง 138.25 จุด หรือ -0.31%
• ดัชนี S&P500 ปิดที่ 5,998.74 จุด ลดลง 22.89 จุด หรือ -0.38%
• ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 19,060.48 จุด ลดลง 115.10 จุด หรือ -0.60%

• ขณะที่ข้อมูลเศรษฐกิจผสมผสาน GDP Q3 คงที่ที่ 2.8% แต่การบริโภคส่วนบุคคลถูกปรับลดลงจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานลดลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 7 เดือน และ Core PCE ซึ่งเป็นตัวชีวัดเงินเฟ้อหลักของ Fed เพิ่มขึ้นตามที่ตลาดคาด

• ทรัมป์เสนอชื่ออีก 2 ตำแหน่งสำคัญเมื่อวานนี้ โดยเสนอให้ "เควิน แฮสเซตต์" (Kevin Hassett) เป็นผู้อำนวยการสภาเศรษฐกิจแห่งชาติ และให้ 'เจมีซัน เกรียร์' (Jamieson Greer) เป็นผู้แทนการค้าสหรัฐ ซึ่งนับเป็นตำแหน่งสำคัญทางเศรษฐกิจล่าสุด หลังจากที่ทรัมป์เพิ่งประกาศว่าจะขึ้นภาษีศุลกากรกับจีน 10% และแคนาดากับเม็กซิโก 25% ไปเมื่อวันก่อน

• สำนักงานสถิติแห่งชาติจีน (NBS) เปิดเผยว่า กำไรของบริษัทในภาคอุตสาหกรรมจีนร่วงลง 10% ในเดือนต.ค. เมื่อเทียบเป็นรายปี ซึ่งเป็นสัญญาณล่าสุดที่บ่งชี้ว่ามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลจีนยังไม่ช่วยให้ผลประกอบการของภาคเอกชนฟื้นตัวขึ้นได้

ข่าวเกี่ยวกับน้ำมัน

• สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดลบในวันพุธ หลังสหรัฐฯ เปิดเผยสต็อกน้ำมันเบนซินที่สูงเกินคาด นอกจากนี้ ตลาดยังถูกกดดันจากความกังวลว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) อาจชะลอการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในปีหน้า หลังมีข้อมูลบ่งชี้ว่าเงินเฟ้อยังคงอยู่ในระดับสูง

• สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนม.ค. ลดลง 5 เซนต์ หรือ 0.07% ปิดที่ 68.72 ดอลลาร์/บาร์เรล
• สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนม.ค. เพิ่มขึ้น 2 เซนต์ หรือ 0.03% ปิดที่ 72.83 ดอลลาร์/บาร์เรล

• สำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐฯ (EIA) เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันเบนซินพุ่งขึ้น 3.3 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 22 พ.ย. ซึ่งมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเพียง 46,000 บาร์เรล

• ส่วนสต็อกน้ำมันดิบลดลง 1.8 ล้านบาร์เรล ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลง 1.3 ล้านบาร์เรล

• อย่างไรก็ดี ราคาน้ำมันได้รับแรงหนุนในระหว่างวัน หลังจากสื่อรายงานโดยอ้างแหล่งข่าวว่า กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และชาติพันธมิตร หรือโอเปกพลัส กำลังหารือกันเกี่ยวกับการเลื่อนแผนปรับเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมัน โดยกลุ่มโอเปกพลัสจะตัดสินในเรื่องดังกล่าวในการประชุมวันที่ 1 ธ.ค.นี้

ข่าวเกี่ยวกับการเมือง

• นายบาเซม นาอิม จากกลุ่มฮามาส พร้อมหยุดยิงตามรอยเลบานอน พร้อมสนับสนุนหากเป็นประโยชน์ต่อเลบานอน โดยระบุว่าฮามาสจะยังคงต่อสู่เพื่อสิทธิของชาวป่าเลสไตน์ต่อไป และพร้อมถอนตัวหากเป็นอุปสรรคต่อการฟื้นฟูรัฐปาเลสไตน์ นายนาอิมมองว่าสถานการณ์ในตะวันออกกลางจะไม่ย่าแย่ไปกว่าช่วงรัฐบาลโจ ไบเดน และเชื่อมันในสัญญาของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ที่จะยุติสงครามหากกลับมาเป็นผู้นำสหรัฐฯ

• รัฐบาลอิสราเอลแสดงความมั่นใจว่าเศรษฐกิจที่ได้รับผลกระทบจากสงครามในฉนวนกาซาและเลบานอนจะกลับมาฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่งในปีหน้า หลังจากสถานการณ์ความขัดแย้งเริ่มคลี่คลาย

• โดนัลด์ ทรัมป์เสนอชื่อพลเอก คีธ เคลล็อกก์ เป็นทูตพิเศษประจำยูเครนและรัสเซีย โดยเป็นที่ปรึกษาคนเก่า ที่สนับสนุนเป้าหมายในการยุติสงครามอย่างรวดเร็ว รวมถึงอาจตัดความช่วยเหลือทางทหารแก่ กรุงเคียฟอีกด้วย

• สื่อรัฐบาลจีนเตือนว่า คำสัญญาของโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ที่จะเพิ่มภาษีนำเข้าสินค้าจีนด้วยเหตุผลเรื่องยาเสพติดเฟนทานิล อาจลากสองมหาอำนาจเศรษฐกิจของโลกเข้าสู่สงครามภาษีที่ทำลายล้างทั้งสองฝ่าย

• โฆษกของสำนักงานกิจการไต้หวันสังกัดสภาแห่งรัฐของจีนกล่าวว่า มีประชาชนในไต้หวันจำนวนมากขึ้นที่ตระหนักว่า สหรัฐฯ กำลังทำร้ายไต้หวันมากกว่าที่จะช่วยปกป้อง

ข่าวเกี่ยวกับเศรษฐกิจไทยและค่าเงินบาท

• ค่าเงินบาทวันนี้เปิดตลาดทรงตัวที่ 34.59 บาทต่อดอลลาร์ ใกล้เคียงราคาปิดตลาดเมื่อวานที่ระดับ 34.58 บาทต่อดอลลาร์ โดยกรอบแนวรับที่ 34.30 บาท แนวต้าน 34.90 บาท

• ผู้อำนวยการสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ (สบน.) กล่าวถึงกรณีการลดเงินนำส่งเข้ากองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน (FIDF) จาก 0.46% เหลือ 0.23% เพื่อดำเนินมาตรการแก้ไขปัญหาหนี้ครัวเรือน ว่า มาตรการดังกล่าว ถือเป็นนโยบายของรัฐบาล ที่ต้องได้รับความร่วมมือจากธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) รวมถึงสถาบันการเงิน ซึ่งการลดเงินนำส่งดังกล่าว จะไม่มีผลกระทบต่อสัดส่วนหนี้สาธารณะของประเทศอย่างแน่นอน

• สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม (สศอ.) เผยดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม (MPI) ต.ค.67 หดตัว 0.91% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ส่งผลให้ช่วง 10 เดือนแรกของปีนี้ (ม.ค.-ต.ค. 67) หดตัวเฉลี่ย 1.63% พร้อมปรับประมาณการดัชนี MPI ปีนี้ หดตัว 1.6% และ GDP ภาคอุตสาหกรรม หดตัว 1% ส่วนปี 68 คาดดัชนี MPI และ GDP ภาคอุตสาหกรรมจะกลับมาขยายตัว 1.5-2.5% หลังการส่งออก การท่องเที่ยว และการลงทุนภาคเอกชนขยายตัวต่อเนื่อง

 

 

ที่มาจาก : Reuters, Infoquest, BangkokBizNews

Tags : ข่าวทอง, ข่าวทอง , ทอง , ราคาทอง