• สรุปข่าวราคาทองคำ ประจำวันที่ 6 ธันวาคม 2567

    6 ธันวาคม 2567 | Gold News


ข่าวเกี่ยวกับทองคำ


  • สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดลบในวันพฤหัสบดี ขณะที่นักลงทุนจับตาตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐฯ ในวันนี้ เพื่อหาสัญญาณที่ชัดเจนเกี่ยวกับแนวโน้มตลาดแรงงานและทิศทางอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด)


  • ราคาทองคำตลาดโลก ปรับตัวลดลง -31.28 เหรียญ หรือ -1.18% อยู่ที่ระดับ 2,618.08 เหรียญ
  • สัญญาทองคำตลาด COMEX ส่งมอบเดือนก.พ. ลดลง 27.80 เหรียญ หรือ 1.03% ปิดที่ 2,648.40 เหรียญ
  • กองทุนทองคำ SPDR วันก่อนหน้าขายออก 1.72 ตัน ปัจจุบันถือครองที่ 871.94 ตันภาพรวมเดือนธันวาคม ขายสุทธิ 6.61 ตัน ขณะที่ปีนี้ ตั้งแต่ 1 ม.ค. - ปัจจุบัน ขายสุทธิ 7.17 ตัน


ข่าวเกี่ยวกับค่าเงิน และธนาคารกลาง


  • ดัชนีดอลลาร์ ปรับตัวลดลง -0.51 จุด หรือ -0.48% มาอยู่ที่ระดับ 105.83 จุด
  • อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี  ปรับตัวลดลง -0.01 % มาอยู่ที่ระดับ 4.176% ในขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 2 ปี ปรับตัวขึ้น 0.02 % มาอยู่ที่ระดับ 4.15% โดยที่ส่วนต่างอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ 10 ปี มากกว่า 2 ปี เท่ากับ0.03%


  • อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ดีดตัวขึ้น 0.3% เมื่อคืนนี้ ซึ่งสร้างแรงกดดันต่อตลาดทองคำ เนื่องจากการปรับตัวขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรจะเพิ่มต้นทุนค่าเสียโอกาสในการถือครองทองคำ เนื่องจากทองคำเป็นสินทรัพย์ที่ไม่มีผลตอบแทนในรูปดอกเบี้ย


  • เจอโรม พาวเวล ประธานเฟดได้กล่าวสุนทรพจน์ในงานเสวนา New York Times DealBook Summit ว่า เศรษฐกิจของสหรัฐฯ ในขณะนี้มีความแข็งแกร่งมากกว่าที่เฟดคาดการณ์ไว้ในเดือนก.ย.ซึ่งเป็นเดือนที่เฟดเริ่มปรับลดอัตราดอกเบี้ย และความเสี่ยงด้านลบที่มีต่อตลาดแรงงานก็ดูเหมือนว่าจะลดน้อยลง ขณะที่เงินเฟ้อก็สูงขึ้นเพียงเล็กน้อย พร้อมกับส่งสัญญาณถึงการปรับลดอัตราดอกเบี้ยอย่างค่อยเป็นค่อยไปในอนาคต


  • FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนัก 70% ที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% ในการประชุมวันที่ 17-18 ธ.ค.นี้


  • โฆษกกระทรวงการต่างประเทศของจีนแถลงว่า จีนจะยังคงขยายความร่วมมือกับประเทศสมาชิกในกลุ่มบริกส์ (BRICS) ต่อไป แม้ว่าโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ จะขู่ขึ้นภาษีนำเข้าก็ตาม


ข่าวเกี่ยวกับตลาดหุ้นและเศรษฐกิจ


  • ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบในวันพฤหัสบดี โดยถูกกดดันจากการร่วงลงของหุ้นยูไนเต็ดเฮลธ์ กรุ๊ป (UnitedHealth Group) ซึ่งเป็นบริษัทประกันสุขภาพรายใหญ่ที่สุดของสหรัฐฯ รวมทั้งการปรับตัวลงของหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี ขณะที่นักลงทุนจับตาตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐฯ อย่างใกล้ชิด เพื่อประเมินแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ก่อนการประชุมในเดือนนี้


  • ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 44,765.71 จุด ลดลง 248.33 จุด หรือ -0.55%
  • ดัชนี S&P500 ปิดที่ 6,075.11 จุด ลดลง 11.38 จุด หรือ -0.19% 
  • ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 19,700.26 จุด ลดลง 34.86 จุด หรือ -0.18%


  • กระทรวงแรงงานสหรัฐฯ เปิดเผยว่า จำนวนผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกเพิ่มขึ้น 9,000 ราย แตะระดับ 224,000 รายในสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 30 พ.ย. ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ระดับ 215,000 ราย


  • ผลสำรวจล่าสุดชี้ว่า กิจกรรมทางธุรกิจทั่วยูโรโซนดิ่งลงอย่างรุนแรงในเดือนพ.ย.ที่ผ่านมา โดยภาคบริการซึ่งเป็นกำลังหลักทางเศรษฐกิจเริ่มหดตัวตามภาคการผลิต สะท้อนภาพการถดถอยที่แผ่วงกว้าง ทั้งนี้ ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) รวมภาคการผลิต-ภาคบริการขั้นสุดท้ายของยูโรโซน ซึ่งจัดทำโดยเอสแอนด์พี โกลบอล และเป็นเครื่องชี้วัดสุขภาพเศรษฐกิจ ทรุดลงมาอยู่ที่ 48.3 ในเดือนพ.ย. จากระดับ 50.0 ในเดือนต.ค. แต่สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์เบื้องต้นที่ 48.1 เล็กน้อย


ข่าวเกี่ยวกับน้ำมัน


  • สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดลบในวันพฤหัสบดี หลังจากนักลงทุนประเมินว่าแนวโน้มอุปทานน้ำมันในปีหน้าอาจมีปริมาณมาก แม้ว่ากลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และชาติพันธมิตร หรือโอเปกพลัส มีมติเลื่อนการเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมันออกไปอีก 3 เดือนจนถึงเม.ย. 2568
 
  • สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนม.ค. ลดลง 24 เซนต์ หรือ 0.35% ปิดที่ 68.3 ดอลลาร์/บาร์เรล
  • สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนม.ค. ลดลง 22 เซนต์ หรือ 0.3% ปิดที่ 72.09 ดอลลาร์/บาร์เรล


  • ที่ประชุมโอเปกพลัสมีมติเลื่อนการเพิ่มกำลังผลิตน้ำมันออกไปอีก 3 เดือนจนถึงเม.ย. 2568 และขยายเวลายกเลิกมาตรการลดกำลังผลิตออกไปอีก 1 ปีจนถึงสิ้นปี 2569 โดยมีสาเหตุมาจากอุปสงค์ที่ซบเซา และการผลิตน้ำมันของประเทศนอกกลุ่มโอเปกพลัสปรับตัวสูงขึ้น


  • ปัจจุบัน สมาชิกโอเปกพลัสลดกำลังการผลิตรวม 5.86 ล้านบาร์เรล/วัน คิดเป็นสัดส่วนราว 5.7% ของอุปสงค์น้ำมันทั่วโลก ทั้งนี้ เป็นไปตามมาตรการที่ตกลงกันตั้งแต่ปี 2565 เพื่อพยุงตลาด


  • สำนักข่าวรอยเตอร์ประเมินว่า การทยอยยกเลิกการลดกำลังการผลิต 2.2 ล้านบาร์เรล/วันของโอเปกพลัสจะเริ่มขึ้นในเดือนเม.ย. 2568 โดยจะเพิ่มขึ้นเดือนละ 138,000 บาร์เรล/วัน และจะใช้เวลา 18 เดือนจนถึงเดือนก.ย. 2569


  • นักวิเคราะห์ด้านพลังงานจากบริษัท Mizuho กล่าวว่า ตลาดกำลังเผชิญกับภาวะอุปทานน้ำมันล้นตลาด ไม่ใช่ภาวะขาดแคลนน้ำมัน และขณะนี้ยังไม่มีสัญญาณที่ชัดเจนถึงปัจจัยที่จะช่วยหนุนราคาน้ำมันให้พุ่งขึ้นในอนาคต


ข่าวเกี่ยวกับการเมือง


  • โฆษกสภาความมั่นคงแห่งชาติของสหรัฐฯ (NSC) เปิดเผยว่า รัฐบาลสหรัฐฯ คลายความกังวลที่เกาหลีใต้ยกเลิกประกาศกฎอัยการศึก หลังจากที่ก่อนหน้านี้สหรัฐฯ มีความกังวลและจับตาสถานการณ์การเมืองในเกาหลีใต้อย่างใกล้ชิด 


  • ผู้นำเยอรมนียืนยัน ไม่ส่งทหารช่วยยูเครน หวั่นสงครามขยายวงเป็นรัสเซียปะทะนาโต ฝั่งรัสเซียชี้ชาติตะวันตกส่งทหารรักษาสันติภาพ เป็นการซื้อเวลาเสริมเขี้ยวเล็บยูเครน


  • เดอะการ์เดียนของอังกฤษรายงานว่า มีรายงานถึงการพบปะระหว่างคณะผู้แทนประธานาธิบดียูเครน โวโลดิมีร์ เซเลนสกีในวันพุธ (4) ที่กรุงวอชิงตัน ดี.ซี. และทีมของว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ คนใหม่ โดนัลด์ ทรัมป์


  • รัฐมนตรีต่างประเทศจากประเทศสมาชิกองค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ หรือนาโต ยืนยันว่า จะเร่งจัดหาระบบป้องกันทางอากาศและกระสุนให้ยูเครนขณะที่รัสเซียกำลังเดินหน้าบุกมากขึ้น


ข่าวเกี่ยวกับเศรษฐกิจไทยและค่าเงินบาท


  • ค่าเงินบาทวันนี้เปิดตลาดแข็งค่าที่ 34.08 บาทต่อดอลลาร์ แข็งค่าเมื่อเทียบจากราคาปิดตลาดเมื่อวันพุธที่ระดับ 34.35 บาทต่อดอลลาร์ โดยกรอบแนวรับที่ 33.90 บาทต่อดอลลาร์ และ แนวต้านที่ 34.50 บาทต่อดอลลาร์


  • ประธานสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) ประเมินว่า เศรษฐกิจไทยในปี 67 จะขยายตัวได้ 2.8% โดยมีปัจจัยสนับสนุนจากการส่งออกที่ดีกว่าที่คาด โดยคาดว่าทั้งปีจะโตได้ 4%, มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ และการเร่งเบิกจ่ายงบประมาณของภาครัฐ

 

 

 

ที่มาจาก : Reuters, Infoquest, BangkokBizNews

Tags : ข่าวทอง, ข่าวทอง , ทอง , ราคาทอง

บริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ จำกัด
40,42,44 ถนนทรัพย์สิน แขวงวังบูรพาภิรมย์เขตพระนคร กรุงเทพ 10200
โทรศัพท์ 0 2770 7777 โทรสาร 0 2623 9366 E-mail: support@mtsgoldgroup.com