• สรุปข่าวราคาทองคำ ประจำวันที่ 12 ธันวาคม 2567

    12 ธันวาคม 2567 | Gold News


ข่าวเกี่ยวกับทองคำ


  • สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นในวันพุธ หลังสหรัฐฯ เปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ที่สอดคล้องกับการคาดการณ์ ซึ่งทำให้นักลงทุนมีความหวังว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมสัปดาห์หน้า ขณะที่นักลงทุนจับตาการเปิดเผยดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ในวันนี้ เพื่อหาสัญญาณที่ชัดเจนเกี่ยวกับทิศทางนโยบายการเงินของเฟด


  • ราคาทองคำตลาดโลก ปรับตัวขึ้น 18.76 เหรียญ หรือ 0.7% อยู่ที่ระดับ 2,713.9 เหรียญ
  • สัญญาทองคำตลาด COMEX ส่งมอบเดือนก.พ. เพิ่มขึ้น 38.30 ดอลลาร์ หรือ 1.41% ปิดที่ 2,756.70 ดอลลาร์/ออนซ์
  • กองทุนทองคำ SPDR วันก่อนหน้าซื้อเข้า 2.59 ตัน ปัจจุบันถือครองที่ 873.38 ตันภาพรวมเดือนธันวาคม ขายสุทธิ 5.17 ตัน ขณะที่ปีนี้ ตั้งแต่ 1 ม.ค. - ปัจจุบัน ขายสุทธิ 5.73 ตัน


  • นักวิเคราะห์จากบริษัท WisdomTree คาดการณ์ว่า ราคาทองคำจะพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 3,000 ดอลลาร์/ออนซ์ภายในปี 2568 โดยได้แรงหนุนจากการชะลอตัวลงของอัตราผลตอบแทนพันธบัตร และความเสี่ยงด้านภูมิรัฐศาสตร์ซึ่งจะทำให้นักลงทุนเข้าซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย


  • นักวิเคราะห์จาก Heraeus Precious Metals มองว่าราคาเงินมีแนวโน้มที่จะทำผลงานได้ดีกว่าทองคำในปี 2025 โดยชี้ให้เห็นว่าอัตราส่วนทองคำต่อเงินที่สูงขึ้น บ่งชี้ว่าเงินยังคงถูกประเมินค่าต่ำเกินไปเมื่อเทียบกับทองคำ และยังได้รับแรงหนุน จากความต้องการในภาคอุตสาหกรรมจะเติบโตขึ้นในปี 2025 รวมถึงเฟดมีแนวโน้มที่จะลดอัตราดอกเบี้ยลงอย่างต่อเนื่อง ซึ่งอาจทำให้ดอลลาร์อ่อนค่าลง ซึ่งน่าจะช่วยหนุนราคาเงินควบคู่ไปกับทองคำ


ข่าวเกี่ยวกับค่าเงิน และธนาคารกลาง


  • ดัชนีดอลลาร์ ปรับตัวขึ้น 0.14 จุด หรือ 0.13% มาอยู่ที่ระดับ 106.51 จุด
  • อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี ปรับตัวขึ้น 0.04 % มาอยู่ที่ระดับ 4.273% ในขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 2 ปี ปรับตัวขึ้น 0.01 % มาอยู่ที่ระดับ 4.157% โดยที่ส่วนต่างอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ 10 ปี มากกว่า 2 ปี เท่ากับ0.12%


  • เดวิด เมเกอร์ นักวิเคราะห์จากบริษัท High Ridge Futures กล่าวว่า ดัชนี CPI ที่ออกมาสอดคล้องกับการคาดการณ์ทำให้นักลงทุนมีความหวังมากขึ้นว่า เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมสัปดาห์หน้า


  • ล่าสุด FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนัก 96% ที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% สู่ระดับ 4.25-4.50% ในการประชุมวันที่ 17-18 ธ.ค. หลังจากที่ให้น้ำหนัก 86% ก่อนการเปิดเผยดัชนี CPI


  • ธนาคารกลางแคนาดา (BoC) ประกาศปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.50% สู่ระดับ 3.25% ในการประชุมนโยบายการเงิน การดำเนินการดังกล่าวนับเป็นการปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.50% จำนวน 2 ครั้งติดต่อกันเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่การแพร่ระบาดของโควิด-19

  • ธนาคารกลางออสเตรเลีย (RBA) ตัดสินใจคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 4.35% ในการประชุม ซึ่งเป็นการประชุมครั้งสุดท้ายของปีนี้


  • ผู้กำหนดนโยบายของจีนกำลังพิจารณาเปิดโอกาสให้เงินหยวนอ่อนค่าลงในปี 2568 เพื่อรับมือกับการขึ้นภาษีศุลกากรจากการหวนคืนสู่ตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ สมัยที่ 2 ของโดนัลด์ ทรัมป์ โดยการตัดสินใจครั้งนี้สะท้อนว่า จีนรับรู้ถึงความจำเป็นที่จะต้องกระตุ้นเศรษฐกิจมากขึ้น เพื่อรับมือกับการขึ้นภาษีศุลกากรที่ทรัมป์ขู่ไว้


  • รัฐบาลญี่ปุ่นเตรียมตัดสินใจเกี่ยวกับช่วงเวลาที่จะปรับขึ้นอัตราภาษีเงินได้นิติบุคคลและภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา เพื่อหารายได้เพิ่มเติมสำหรับนำไปใช้อุดหนุนงบประมาณด้านกลาโหมของประเทศเกือบสองเท่าเป็น 2% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP)


ข่าวเกี่ยวกับตลาดหุ้นและเศรษฐกิจ


  • ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบในวันพุธ โดยถูกกดดันจากการร่วงลงของหุ้นกลุ่มเฮลธ์แคร์ แต่ดัชนี S&P500 ปิดในแดนบวก และดัชนี Nasdaq ปิดพุ่งขึ้นทะลุระดับ 20,000 จุดเป็นครั้งครั้งแรก หลังสหรัฐฯ เปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ที่สอดคล้องกับการคาดการณ์ ซึ่งทำให้นักลงทุนมีความหวังว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมสัปดาห์หน้า


  • ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 44,148.56 จุด ลดลง 99.27 จุด หรือ -0.22%
  • ดัชนี S&P500 ปิดที่ 6,084.19 จุด เพิ่มขึ้น 49.28 จุด หรือ +0.82% 
  • ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 20,034.89 จุด เพิ่มขึ้น 347.65 จุด หรือ +1.77%


  • ธนาคารพัฒนาเอเชีย (ADB) เปิดเผยรายงานแนวโน้มเศรษฐกิจ โดยระบุว่า เศรษฐกิจของกลุ่มประเทศกำลังพัฒนาในเอเชีย (Developing Asia) จะเติบโตชะลอตัวกว่าที่คาดการณ์ไว้ก่อนหน้าทั้งในปีนี้และปีหน้า ซึ่งอาจแย่ลง หากโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีของสหรัฐฯ เร่งปรับเปลี่ยนนโยบายการค้า


  • นักเศรษฐศาสตร์ของกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ระบุว่า เศรษฐกิจในเอเชียมีความแข็งแกร่งเพียงพอที่จะรับมือกับความปั่นป่วนได้ โดยเน้นย้ำถึงความสำคัญของการจัดการกับสถานการณ์วุ่นวายในช่วงเวลาที่ภูมิภาคนี้กำลังเผชิญกับความเสี่ยงภายในหลายด้าน รวมถึงการกลับสู่ทำเนียบขาวของโดนัลด์ ทรัมป์


ข่าวเกี่ยวกับน้ำมัน


  • สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกในวันพุธ หลังจากมีรายงานว่าสหภาพยุโรป (EU) ประกาศคว่ำบาตรน้ำมันของรัสเซียรอบใหม่ ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อการส่งออกน้ำมันของรัสเซียและอาจทำให้อุปทานน้ำมันดิบทั่วโลกอยู่ในภาวะตึงตัว


  • สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนม.ค. เพิ่มขึ้น 1.70 ดอลลาร์ หรือ 2.48% ปิดที่ 70.29 ดอลลาร์/บาร์เรล
  • สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนก.พ. เพิ่มขึ้น 1.33 ดอลลาร์ หรือ 1.84% ปิดที่ 73.52 ดอลลาร์/บาร์เรล


  • ราคาน้ำมันพุ่งขึ้น หลังจากคณะเอกอัครราชทูตของ EU มีมติเห็นชอบต่อมาตรการคว่ำบาตรรัสเซียครั้งที่ 15 เมื่อวานนี้ อันเนื่องมาจากที่รัสเซียรุกรานยูเครนและก่อให้เกิดการทำสงคราม

  • เออร์ซูลา ฟอน เดอร์ เลเยน ประธานคณะกรรมาธิการยุโรป (EC) ได้โพสต์ข้อความบนแพลตฟอร์ม X เพื่อสนับสนุนการอนุมัติมาตรการคว่ำบาตรครั้งที่ 15 ซึ่งพุ่งเป้าไปที่กองเรือที่ลักลอบขนส่งน้ำมันของรัสเซีย โดยระบุว่ากองเรือเหล่านี้ช่วยให้รัสเซียหลีกเลี่ยงการกำหนดเพดานราคาน้ำมันที่ 60 ดอลลาร์/บาร์เรลซึ่งกลุ่ม G7 ได้บังคับใช้เพดานดังกล่าวกับการขนส่งน้ำมันดิบทางทะเลของรัสเซียในปี 2565 และระบุว่าการกระทำดังกล่าวของรัสเซียส่งผลให้น้ำมันของรัสเซียยังคงไหลเวียนในตลาด


  • ราคาน้ำมันยังได้แรงหนุนจากรายงานของสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) ซึ่งระบุว่า สต็อกน้ำมันดิบรายสัปดาห์ลดลง 1.4 ล้านบาร์เรล ซึ่งมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลง 1 ล้านบาร์เรล


  • อย่างไรก็ดี ราคาน้ำมันลดช่วงบวก หลังจากรายงานของ EIA ระบุว่า สต็อกน้ำมันเบนซินพุ่งขึ้น 5.0 ล้านบาร์เรล สวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลง 200,000 บาร์เรล และสต็อกน้ำมันกลั่นซึ่งรวมถึงฮีตติ้งออยล์และน้ำมันดีเซล พุ่งขึ้น 3.2 ล้านบาร์เรล มากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเพียง 900,000 บาร์เรล


ข่าวเกี่ยวกับการเมือง


  • เซอร์เก รีอาบคอฟ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงต่างประเทศรัสเซีย เปิดเผยว่า รัสเซียได้นำตัวบาชาร์ อัล-อัสซาด ซึ่งถูกขับออกจากตำแหน่งประธานาธิบดีซีเรีย จากการบุกสายฟ้าแลบของกลุ่มกบฏ มาถึงยังรัสเซียอย่างปลอดภัยแล้ว


  • รัสเซียประกาศเมื่อวานนี้ว่าจะแก้แค้นยูเครนอย่างสาสม หลังกล่าวหาเคียฟยิงขีปนาวุธที่ตะวันตกจัดหาให้เข้าใส่สนามบินทหารในแคว้นรอสคอฟ ทางภาคใต้ของประเทศ


  • อยาตอลเลาะห์ อาลี คาเมเนอี ผู้นำสูงสุดของอิหร่านได้กล่าวว่า การโค่นล้มประธานาธิบดีบาชาร์ อัล-อัสซาดของซีเรียเป็นผลมาจากแผนของสหรัฐอเมริกาและอิสราเอล รวมถึงประเทศเพื่อนบ้านของซีเรียก็มีบทบาทในเรื่องนี้เช่นกัน แม้คาเมเนอีจะไม่ได้ระบุชื่อประเทศ แต่คาดการณ์ว่าประเทศที่ผู้นำอิหร่านหมายถึงคือตุรกี ซึ่งหนุนหลังกลุ่มกบฏต่อต้านประธานาธิบดีอัล-อัสซาด


ข่าวเกี่ยวกับเศรษฐกิจไทยและค่าเงินบาท

 

  • ค่าเงินบาทวันนี้เปิดตลาดแข็งค่าที่ 33.83 บาทต่อดอลลาร์ แข็งค่าจากราคาปิดตลาดเมื่อวานที่ระดับ 33.92 บาทต่อดอลลาร์ โดยกรอบแนวรับที่ 33.70 บาท แนวต้าน 33.90 บาท


  • น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เปิดเผยถึงความชัดเจนการขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ 400 บาทจะเป็นของขวัญปีใหม่ให้กับคนไทยได้หรือไม่ว่า นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รมว.แรงงาน จะมีการประชุมในวันนี้ แต่เมื่อสักครู่ได้สอบถามมาแล้วว่าเราน่าจะได้ข่าวดีในปีหน้าแน่นอน โดยในรายละเอียดเพิ่มเติมให้สอบถามกับ รมว.แรงงาน


  • ธนาคารพัฒนาเอเชีย (ADB) ได้เผยแพร่รายงานประเมินแนวโน้มเศรษฐกิจเอเชีย โดยได้ปรับเพิ่มตัวเลขคาดการณ์ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ของไทยในปีนี้ จากเดิมที่คาดว่าจะขยายตัว 2.3% เพิ่มขึ้นเป็น 2.6%

 

 

ที่มาจาก : Reuters, Infoquest, BangkokBizNews

Tags : ข่าวทอง, ข่าวทอง , ทอง , ราคาทอง

บริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ จำกัด
40,42,44 ถนนทรัพย์สิน แขวงวังบูรพาภิรมย์เขตพระนคร กรุงเทพ 10200
โทรศัพท์ 0 2770 7777 โทรสาร 0 2623 9366 E-mail: support@mtsgoldgroup.com