MTS Help Center

ข่าวเกี่ยวกับทองคำ

• สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดลบเล็กน้อยในวันจันทร์ ขณะที่นักลงทุนจับตาผลการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ในวันพุธนี้ รวมทั้งการแสดงความเห็นของเจอโรม พาวเวล ประธานเฟด เพื่อหาสัญญาณบ่งชี้ทิศทางอัตราดอกเบี้ยในปีหน้า

• ราคาทองคำตลาดโลก ปรับตัวขึ้น 8.29 เหรียญ หรือ 0.31% อยู่ที่ระดับ 2,657.15 เหรียญ
• สัญญาทองคำตลาด COMEX ส่งมอบเดือนก.พ. ลดลง 5.80 เหรียญ หรือ 0.22% ปิดที่ 2,670.00 เหรียญ
• กองทุนทองคำ SPDR วันก่อนหน้าซื้อเข้า 0.29 ตัน ปัจจุบันถือครองที่ 864.19 ตันภาพรวมเดือนธันวาคม ขายสุทธิ 14.36 ตัน ขณะที่ปีนี้ ตั้งแต่ 1 ม.ค. - ปัจจุบัน ขายสุทธิ 14.92 ตัน

• นิเทช ชาห์ นักกลยุทธ์ด้านสินค้าโภคภัณฑ์จากบริษัท WisdomTree คาดการณ์ว่า ราคาทองคำจะยังคงได้รับปัจจัยหนุนจากสถานการณ์ตึงเครียดด้านภูมิรัฐศาสตร์ รวมทั้งการที่ธนาคารกลางจีนกลับเข้าซื้อทองคำเข้าสู่ระบบทุนสำรองอีกครั้ง นอกจากนี้ ความเป็นไปได้ที่รัฐบาลจีนจะออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม ก็จะเป็นปัจจัยบวกต่อราคาทองคำเช่นกัน

ข่าวเกี่ยวกับค่าเงิน และธนาคารกลาง

• ดัชนีดอลลาร์ ปรับตัวลดลง -0.18 จุด หรือ -0.17% มาอยู่ที่ระดับ 106.77 จุด
• อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี ปรับตัวขึ้น 0.0 % มาอยู่ที่ระดับ 4.393% ในขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 2 ปี ปรับตัวขึ้น 0.01 % มาอยู่ที่ระดับ 4.245% โดยที่ส่วนต่างอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ 10 ปี มากกว่า 2 ปี เท่ากับ0.15%

• นักลงทุนจับตาผลการประชุมเฟดในวันพุธที่ 18 ธ.ค.นี้ โดยล่าสุด FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนัก 95.4% ที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% สู่ระดับ 4.25-4.50% ในการประชุมครั้งนี้

• นอกจากนี้ นักลงทุนจับตาการแถลงข่าวของเจอโรม พาวเวล ประธานเฟด และรายงานคาดการณ์อัตราดอกเบี้ยนโยบาย (Dot Plot) ของเจ้าหน้าที่เฟด เพื่อหาสัญญาณบ่งชี้ทิศทางอัตราดอกเบี้ยในปี 2568 รวมทั้งรอดูตัวเลขคาดการณ์เศรษฐกิจที่เฟดจะเปิดเผยหลังการประชุม ซึ่งได้แก่ ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP), อัตราว่างงาน และอัตราเงินเฟ้อ

• ธนาคารเพื่อการลงทุน Goldman Sachs ได้คาดการณ์ว่า ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะออกมาส่งสัญญาณชะลอการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในอนาคตในการประชุมสัปดาห์นี้ และอาจไม่มีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนมกราคม แม้ว่าเฟดคาดว่าจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% ในครั้งนี้ก็ตาม

• นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดการณ์ว่า ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) จะคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายในการประชุมวันพฤหัสบดีนี้ (19 ธ.ค.) เนื่องจากคณะกรรมการ BOJ ต้องการอสัญญาณที่ชัดเจนมากขึ้นเกี่ยวกับแนวโน้มของค่าจ้างและการใช้จ่ายภาคในประเทศ นอกจากนี้ BOJ ยังจับตานโยบายต่าง ๆ ของสหรัฐฯ ที่อาจมีการเปลี่ยนแปลงในรัฐบาลชุดใหม่ภายใต้การนำของโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีของสหรัฐฯ

ข่าวเกี่ยวกับตลาดหุ้นและเศรษฐกิจ

• ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบในวันจันทร์ แต่ดัชนี S&P500 ยังคงปิดในแดนบวก และดัชนี Nasdaq ปิดทำนิวไฮอย่างต่อเนื่อง โดยได้แรงหนุนจากการพุ่งขึ้นของหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี ขณะที่นักลงทุนจับตาผลการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ในวันพุธนี้ 

• ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 43,717.48 จุด ลดลง 110.58 จุด หรือ -0.25%
• ดัชนี S&P500 ปิดที่ 6,074.08 จุด เพิ่มขึ้น 22.99 จุด หรือ +0.38% 
• ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 20,173.89 จุด เพิ่มขึ้น 247.17 จุด หรือ +1.24%

• MicroStrategy (MSTR) บริษัทมหาชนที่ถือครอง Bitcoin มากที่สุดในโลก  จะถูกบรรจุเข้าไปอยู่ในดัชนี Nasdaq-100 ภายในวันจันทร์ที่ 23 ธันวาคมนี้เป็นต้นไป 

• เศรษฐกิจจีนในเดือนพฤศจิกายนส่งสัญญาณชะลอตัว โดยยอดค้าปลีกเติบโตเพียง 3% ต่ำกว่าที่คาดการณ์และเป็นอัตราต่ำสุดในรอบ 3 เดือน แม้ภาคการผลิตจะยังขยายตัวที่ 5.4% แต่การบริโภคภายในประเทศยังอ่อนแอ

• สะท้อนให้เห็นความจำเป็นเร่งด่วนที่รัฐบาลจีนต้องออกมาตรการกระตุ้นการใช้จ่าย โดยเฉพาะหลังจากที่ทรัมป์ได้รับเลือกตั้งซึ่งอาจส่งผลต่อการส่งออก ขณะที่ตลาดอสังหาริมทรัพย์เริ่มฟื้นตัวเล็กน้อย แต่นักวิเคราะห์มองว่าจีนยัง ต้องการมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมเพื่อฟื้นความเชื่อมั่นของผู้บริโภคและภาคธุรกิจ

• รัฐบาลจีนส่งสัญญาณออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพื่อพยุงภาคอสังหาริมทรัพย์และตลาดหุ้น โดยจะควบคุมอุปทานที่ดินและส่งเสริมความต้องการซื้อบ้าน รวมถึงกำกับดูแลการซื้อขายในตลาดทุนให้เข้มงวดมากขึ้น เพื่อสร้างเสถียรภาพและความเชื่อมั่นให้กับตลาด หลังจากที่ก่อนหน้านี้ตลาดตอบสนองต่อมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของจีนในเชิงที่ไม่เป็นบวกนัก

• กิจกรรมทางธุรกิจในกลุ่มประเทศยูโรโซนมีอัตราการชะลอตัวที่ลดลงในเดือนธ.ค.นี้ โดยเฉพาะภาคบริการที่มีการเติบโตอีกครั้ง ซึ่งช่วยชดเชยสถานการณ์หดตัวยืดเยื้อในภาคการผลิต โดยดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) รวมภาคการผลิต-ภาคบริการขั้นต้นของยูโรโซนเพิ่มขึ้นเป็น 49.5 ในเดือนธ.ค. จาก 48.3 ในเดือนพ.ย. ซึ่งดีกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ว่าจะลดลงเหลือ 48.2

ข่าวเกี่ยวกับน้ำมัน

• สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดลบในวันจันทร์ โดยตลาดถูกกดดันจากการที่จีนเปิดเผยตัวเลขการใช้จ่ายผู้บริโภคที่อ่อนแอลง และจากการที่นักลงทุนชะลอคำสั่งซื้อก่อนที่จะรู้ผลการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด)

• สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนม.ค. ลดลง 58 เซนต์ หรือ 0.81% ปิดที่ 70.71 ดอลลาร์/บาร์เรล
• สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนก.พ. ลดลง 58 เซนต์ หรือ 0.78% ปิดที่ 73.91 ดอลลาร์/บาร์เรล

• สำนักงานสถิติแห่งชาติจีน (NBS) เปิดเผยว่า ยอดค้าปลีกเดือนพ.ย. เพิ่มขึ้นเพียง 3% ซึ่งชะลอตัวลงอย่างมากจากเดือนต.ค. ที่พุ่งขึ้น 4.8% และต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 4.6%

• ข้อมูลดังกล่าวสะท้อนให้เห็นว่าการใช้จ่ายของผู้บริโภคจีนอ่อนแอลงอย่างมาก และทำนักลงทุนกังวลว่าอุปสงค์น้ำมันในจีนจะชะลอตัวลงด้วย โดยจีนเป็นประเทศที่นำเข้าน้ำมันมากที่สุดในโลก

• โทนี ไซคามอร์ นักวิเคราะห์จากบริษัท IG กล่าวว่า นอกจากความกังวลเกี่ยวกับอุปสงค์ในประเทศจีนแล้ว ราคาน้ำมันยังถูกกดดันจากการที่นักลงทุนขายทำกำไรก่อนที่จะรู้ผลการประชุมเฟดในวันพุธนี้

• บริษัทวิเคราะห์ตลาด วอร์เทซา (Vortexa) รายงานว่า การส่งออกน้ำมันของอิหร่านไปยังจีนได้รับผลกระทบจากมาตรการคว่ำบาตรเรือบรรทุกน้ำมันที่เข้มงวดยิ่งขึ้นของสหรัฐฯ โดยมาตรการคว่ำบาตรดังกล่าวส่งผลให้การส่งมอบน้ำมันไปยังจีนซึ่งเป็นลูกค้ารายสำคัญที่สุดของอิหร่านเกิดความล่าช้า

ข่าวเกี่ยวกับการเมือง

• ยูเครนเปิดเผยว่า มีทหารเกาหลีเหนือเสียชีวิตหรือได้รับบาดเจ็บอย่างน้อย 30 นาย จากการสู้รบในหมู่บ้านหลายแห่งตามแนวรบในแคว้นคุสค์ของรัสเซียในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยความสูญเสียดังกล่าวเกิดขึ้น หลังจากที่ประธานาธิบดีโวโลดิเมียร์ เซเลนสกี ของยูเครน กล่าวว่า รัสเซียได้ใช้กำลังพลของเกาหลีเหนือจำนวนมากเป็นครั้งแรกเพื่อปฏิบัติการโจมตีในแคว้นคุสค์ของรัสเซีย ซึ่งถูกยูเครนเปิดฉากบุกโจมตีข้ามพรมแดนเมื่อเดือนส.ค.ที่ผ่านมา

• รัฐบาลของ 10 ประเทศและสหภาพยุโรปร่วมกันแสดงความกังวลต่อกรณีที่เกาหลีเหนือส่งทหารเข้าช่วยรัสเซียรบ กับยูเครน ในสถานการณ์ความขัดแย้งที่ดำเนินมาเกือบ 3 ปีนี้ โดยแถลงการณ์ร่วมที่สหรัฐฯ ระบุว่า การที่เกาหลีเหนือให้การสนับสนุนรัสเซียในการรุกรานยูเครนแสดงให้เห็นถึงการขยายตัวของภาวะขัดแย้ง “ที่แสนอันตราย” ซึ่งมาพร้อมกับผลลัพธ์ร้ายแรงต่อความมั่นคงของยุโรปและอินโด-แปซิฟิก

• กองทัพยูเครนเปลี่ยนตัวผู้บัญชาการหน่วยรบสำคัญในภูมิภาคโดเนตสก์ หลังกองกำลังรัสเซียยังเดินหน้ารุกประชิดเมืองโปครอสฟก์ได้อย่างต่อเนื่อง

• อิสราเอลเปิดเผยว่า ทางการอิสราเอลจะปิดสถานทูตอิสราเอลในกรุงดับลินของไอร์แลนด์ เพราะไอร์แลนด์มี “นโยบายต่อต้านอิสราเอลสุดโต่ง” ซึ่งรวมถึงการรับรองปาเลสไตน์เป็นรัฐและสนับสนุนให้มีการดำเนินการทางกฎหมายในระดับนานาชาติต่ออิสราเอลกรณีสงครามในฉนวนกาซา

ข่าวเกี่ยวกับเศรษฐกิจไทยและค่าเงินบาท

• ค่าเงินบาทเปิดเช้านี้ที่ระดับ  34.07 บาทต่อดอลลาร์ “อ่อนค่าลงเล็กน้อย แทบไม่เปลี่ยนแปลง”จากระดับปิดวันที่ผ่านมา ที่ระดับ  34.05 บาทต่อดอลลาร์ มองกรอบเงินบาทวันนี้ คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 34.00-34.20 บาท/ดอลลาร์

• นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่า คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ของไทย จะคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 2.25% ในการประชุมวันที่ 18 ธันวาคมนี้ โดยให้เหตุผลว่าเศรษฐกิจไทยยังไม่ได้อ่อนแอลง อย่างไรก็ตาม KKP ประเมินว่า กนง. มีแนวโน้มจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 3 ครั้งในปีหน้า เนื่องจากเริ่มเห็นสัญญาณว่าเศรษฐกิจไทยอาจจะต้องได้รับการผ่อนคลายทางการเงินมากขึ้น

• ประธานกรรมการสภาธุรกิจตลาดทุนไทย (FETCO) กล่าวว่า ทิศทางดัชนีตลาดหุ้นไทย (SET) ระยะยาวปรับตัวดีขึ้น หลังจากวันนี้หลุดแนวรับสำคัญที่ 1,420 จุด โดยมองว่าเป็นปัญหาระยะสั้น ขณะที่สมาคมนักวิเคราะห์การลงทุน (IAA) ประเมินดัชนี SET สิ้นปี 67 อยู่ที่ 1,494 จุด และทิศทางตลาดหุ้นไทยปี 68 คาดว่าจะขึ้นไปอยู่ที่ 1,614 จุด โดยมีปัจจัยหนุนจากโอกาสในการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกที่ดีขึ้น รวมทั้งการขยายตัวดีขึ้นของเศรษฐกิจไทยที่จะหนุนให้กำไรของบริษัทจดทะเบียนดีขึ้นตามไปด้วยเช่นเดียวกัน ขณะที่กระแสการลงทุนที่มีการโยกย้ายเข้ามาสู่ภูมิภาคอาเซียนจะเป็นอีกหนึ่งส่วนที่สนับสนุนการเติบโตของเศรษฐกิจไทย

 

ที่มาจาก : Reuters, Infoquest, BangkokBizNews

Tags : ข่าวทอง, ข่าวทอง , ทอง , ราคาทอง