• สรุปข่าวราคาทองคำ ประจำวันที่ 18 ธันวาคม 2567

    18 ธันวาคม 2567 | Gold News


ข่าวเกี่ยวกับทองคำ


  • สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดลบในวันอังคาร โดยตลาดถูกกดดันจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์และการพุ่งขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯ ขณะที่นักลงทุนจับตาผลการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ในวันนี้ ท่ามกลางกระแสคาดการณ์ที่ว่าเฟดอาจจะชะลอการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในปีหน้า


  • ราคาทองคำตลาดโลก ปรับตัวลดลง -1.24 เหรียญ หรือ -0.05% อยู่ที่ระดับ 2,651.02 เหรียญ
  • สัญญาทองคำตลาด COMEX ส่งมอบเดือนก.พ. ลดลง 8 ดอลลาร์ หรือ 0.30% ปิดที่ 2,662.00 ดอลลาร์/ออนซ์
  • กองทุนทองคำ SPDR วันก่อนหน้าไม่เปลี่ยนแปลง ปัจจุบันถือครองที่ 864.19 ตันภาพรวมเดือนธันวาคม ขายสุทธิ 14.36 ตัน ขณะที่ปีนี้ ตั้งแต่ 1 ม.ค. - ปัจจุบัน ขายสุทธิ 14.92 ตัน


  • ดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ดีดตัวขึ้นแตะระดับ106.956 ส่งผลให้สัญญาทองคำซึ่งกำหนดราคาเป็นดอลลาร์นั้น มีราคาแพงขึ้นและไม่น่าดึงดูดใจสำหรับนักลงทุนที่ถือครองสกุลเงินอื่น ๆ


  • ฟาว้าด ราซัคซาดา นักวิเคราะห์จากบริษัท Forex.com กล่าวว่า นักลงทุนต่างก็จับตาการส่งสัญญาณของเจ้าหน้าที่เฟดในการประชุมครั้งนี้อย่างใกล้ชิด ท่ามกลางความกังวลว่านโยบายเศรษฐกิจของโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ อาจส่งผลให้เงินเฟ้อปรับตัวสูงขึ้น และอาจทำให้เฟดต้องใช้ความระมัดระวังมากขึ้นในการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในปีหน้า


  • แม็กซ์ เลย์ตัน หัวหน้าฝ่ายวิจัยสินค้าโภคภัณฑ์ระดับโลกของ Citigroup ระบุว่า ราคาทองคำกำลังเผชิญกับความผันผวนสูง โดยปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อราคาทองคำ ได้แก่ ภาวะเศรษฐกิจสหรัฐฯ และนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯ ซึ่งไม่ว่าอัตราเงินเฟ้อจะสูงหรือต่ำกว่าคาดการณ์ ก็มีโอกาสที่ทองคำจะได้รับประโยชน์จากทั้งภาวะเศรษฐกิจถดถอยและการปรับลดอัตราดอกเบี้ย


ข่าวเกี่ยวกับค่าเงิน และธนาคารกลาง


  • ดัชนีดอลลาร์ ปรับตัวขึ้น 0.13 จุด หรือ 0.12% มาอยู่ที่ระดับ 106.94 จุด
  • อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี  ปรับตัวลดลง -0.01 % มาอยู่ที่ระดับ 4.391% ในขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 2 ปี ปรับตัวลดลง -0.01 % มาอยู่ที่ระดับ 4.236% โดยที่ส่วนต่างอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ 10 ปี มากกว่า 2 ปี เท่ากับ0.16%


  • ลอเร็ตตา เมสเตอร์ อดีตประธานเฟดสาขาคลีฟแลนด์ ระบุว่า การคาดการณ์เดิมที่ว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยถึง 4 ครั้งในปีหน้า อาจต้องมีการทบทวนใหม่ เนื่องจากเศรษฐกิจโลกมีแนวโน้มชะลอตัวลง โดยเมสเตอร์คาดการณ์ว่า เฟดอาจปรับลดอัตราดอกเบี้ยเพียง 2-3 ครั้งในปี 2568 


  • Luke Tilley หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของ Wilmington Trust กล่าวว่า คาดการณ์ว่าธนาคารกลางจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยประมาณ 4 ครั้งในปี 2025 ซึ่งสอดคล้องกับแนวโน้มการลดลงของอัตราเงินเฟ้อ


  • China Foreign Exchange Trading System (CFETS) รายงานว่า อัตราค่ากลางสกุลเงินหยวนอ่อนค่าลง 0.0009 หยวน แตะที่ 7.1891 หยวนต่อดอลลาร์สหรัฐ โดยในตลาดปริวรรตเงินตราต่างประเทศของจีน ระบุว่า เงินหยวนได้รับอนุญาตให้ปรับตัวขึ้นหรือลงไม่เกิน 2% จากอัตราค่ากลางของการซื้อขายแต่ละวัน


ข่าวเกี่ยวกับตลาดหุ้นและเศรษฐกิจ


  • ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดร่วงลงในวันอังคาร ขณะที่นักลงทุนซื้อขายอย่างระมัดระวังก่อนที่จะรู้ผลการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ในวันนี้ หลังจากมีข้อมูลบ่งชี้ว่าการใช้จ่ายของผู้บริโภคยังคงแข็งแกร่ง


  • ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 43,449.90 จุด ลดลง 267.58 จุด หรือ -0.61%
  • ดัชนี S&P500 ปิดที่ 6,050.61 จุด ลดลง 23.47 จุด หรือ -0.39% 
  • ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 20,109.06 จุด ลดลง 64.83 จุด หรือ -0.32%


  • ดัชนีดาวโจนส์ปิดในแดนลบติดต่อกัน 9 วันทำการ ซึ่งเป็นสถิติการปิดลบที่ยาวนานที่สุดนับตั้งแต่เดือนก.พ.2521 โดยเดวิด รัสเซลล์ หัวหน้านักกลยุทธ์การตลาดจากบริษัท TradeStation แสดงความเห็นว่า สาเหตุส่วนหนึ่งมาจากการที่นักลงทุนหมุนเวียนการลงทุนเข้าสู่หุ้นกลุ่มเทคโนโลยี จากก่อนหน้านี้ที่เคยลงทุนในหุ้นกลุ่มที่ได้ประโยชน์จากชัยชนะของโดนัลด์ ทรัมป์ ซึ่งรวมถึงหุ้นกลุ่มการเงินและกลุ่มอุตสาหกรรม โดยนักลงทุนมองว่าหุ้นเหล่านี้อาจเผชิญกับความไม่แน่นอนของสงครามการค้า


  • ยอดค้าปลีกในสหรัฐฯ เดือนพฤศจิกายน 2024 เพิ่มขึ้น 0.7% เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้า ซึ่งสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ 0.5%


  • แม้ยอดค้าปลีกเดือนพฤศจิกายนจะเพิ่มขึ้นมากกว่าคาด แต่ตลาดระมัดระวังก่อนการประชุม Fed ในคืนนี้ โดยตลาดมองความน่าจะเป็นที่ 95% ว่าเฟดจะลดดอกเบี้ย 25 bps แต่ให้ติดตามตัวเลขประมาณการทางเศรษฐกิจและถ้อยแถลงของประธานเฟดที่อาจชะลอการลดดอกเบี้ยเนื่องจากเศรษฐกิจยังแข็งแกร่งและเงินเฟ้อยังสูง อีกทั้งนโยบายของรัฐบาลทรัมป์อาจกระตุ้นการเติบโตทางเศรษฐกิจและหนุนเงินเฟ้อ


  • จีนคงเป้า GDP ที่ 5% และเพิ่มการขาดดุลงบประมาณเป็น 4% ของ GDP ในปี 2568 ซึ่งสูงสุดเป็นประวัติการณ์ เพิ่มขึ้นจาก 3% ในปี 2567 สะท้อนนโยบายการคลังเชิงรุก โดยจะเพิ่มการใช้จ่ายราว 1.3 ล้านล้านหยวนผ่านพันธบัตรพิเศษ เพื่อรับมือผลกระทบจากการขึ้นภาษีนำเข้าของสหรัฐฯ เมื่อทรัมป์เข้ารับตำแหน่ง ทั้งนี้ตัวเลขอย่างเป็นทางการจะประกาศในการประชุมรัฐสภาเดือนมีนาคม 2568


  • ค่าแรงในสหราชอาณาจักร (UK) พุ่งสูงเกินคาด ในรอบไตรมาสสิ้นสุดเดือนต.ค. ส่งผลให้นักลงทุนชะลอการคาดการณ์ว่า ธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) จะลดดอกเบี้ยในปีหน้า แม้เศรษฐกิจจะส่งสัญญาณชะลอตัวก็ตาม 


ข่าวเกี่ยวกับน้ำมัน


  • สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดลบติดต่อกันเป็นวันที่ 2 ในวันอังคาร เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับการชะลอตัวของอุปสงค์น้ำมัน หลังมีรายงานว่าดัชนีความเชื่อมั่นของภาคธุรกิจเยอรมนีอ่อนแอลงและการใช้จ่ายของผู้บริโภคจีนซบเซาลง นอกจากนี้ นักลงทุนยังชะลอการซื้อขายก่อนที่จะรู้ผลการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ในวันนี้


  • สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนม.ค. ลดลง 63 เซนต์ หรือ 0.89% ปิดที่ 70.08 ดอลลาร์/บาร์เรล
  • สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนก.พ. ลดลง 72 เซนต์ หรือ 0.97% ปิดที่ 73.19 ดอลลาร์/บาร์เรล


ข่าวเกี่ยวกับการเมือง


  • รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมรัสเซีย กล่าวว่า การปะทะกันโดยตรงระหว่างรัสเซียกับนาโตอาจเกิดขึ้นภายในสิบปีข้างหน้า และรัสเซียจำเป็นต้องเตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์ดังกล่าว


  • ผู้บัญชาการทหารระดับสูงของรัสเซียผู้ที่ยูเครนกล่าวหาว่าเป็นคนสั่งการใช้อาวุธเคมีต่อทหารยูเครน ถูกลอบสังหารในวันอังคารที่กรุงมอสโก โดยเชื่อว่าเป็นฝีมือของหน่วยข่าวกรองเอสบียูของยูเครน


  • สหรัฐอเมริกาประกาศมาตรการคว่ำบาตรรอบใหม่ โดยมุ่งเป้าไปยังองค์กรและบุคคลในเกาหลีเหนือที่ให้การสนับสนุนทางการเงินและทางทหารแก่รัสเซีย รวมถึงโครงการขีปนาวุธของรัสเซีย


  • แคตซ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมอิสราเอล ยืนยันว่า อิสราเอลจะเข้าควบคุมด้านความมั่นคงปลอดภัยในฉนวนกาซ่าหลังสงครามกับกลุ่มฮามาสสิ้นสุดลง


ข่าวเกี่ยวกับเศรษฐกิจไทยและค่าเงินบาท


  • ค่าเงินบาทวันนี้ เปิดตลาดอ่อนค่าที่ 34.22 บาทต่อดอลลาร์ อ่อนค่าเล็กน้อยเทียบกับราคาปิดตลาดเมื่อวานที่ระดับ 34.16 บาทต่อดอลลาร์ โดยกรอบแนวรับที่ 34.00 บาท แนวต้าน 34.30 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ


  • ประธานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เปิดเผยถึงแนวโน้มเศรษฐกิจไทยปี 68 คาดว่า จะขยายตัวราว 3% ขณะที่กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) คาดการณ์ว่า GDP จะขยายตัว 2.9% โดยในช่วงครึ่งปีแรกของปี 68 ยังมีแรงส่งจากปัจจัยต่าง ๆ จากไตรมาส 4/67 


  • ศูนย์วิจัยกสิกรไทยคาดการณ์ คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ในการประชุมวันนี้ คาดว่ามีมติคงอัตราดอกเบี้ยอ้างอิงไว้ที่ 2.25% ซึ่งเป็นระดับเดิม หลังจากในการประชุมครั้งก่อนหน้า กนง. ได้มีมติปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.25% ไปแล้ว

 

 

ที่มาจาก : Reuters, Infoquest, BangkokBizNews

Tags : ข่าวทอง, ข่าวทอง , ทอง , ราคาทอง

บริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ จำกัด
40,42,44 ถนนทรัพย์สิน แขวงวังบูรพาภิรมย์เขตพระนคร กรุงเทพ 10200
โทรศัพท์ 0 2770 7777 โทรสาร 0 2623 9366 E-mail: support@mtsgoldgroup.com