MTS Help Center

ข่าวเกี่ยวกับทองคำ

• สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดลบในวันจันทร์ เนื่องจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์และการพุ่งขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯ เป็นปัจจัยกดดันตลาด ขณะที่นักลงทุนยังคงจับตาสัญญาณบ่งชี้ทิศทางนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ในปีหน้า

• ราคาทองคำตลาดโลก ปรับตัวลดลง -5.08 เหรียญ หรือ -0.19% อยู่ที่ระดับ 2,617.13 เหรียญ
• สัญญาทองคำตลาด COMEX ส่งมอบเดือนก.พ. ลดลง 16.90 ดอลลาร์ หรือ 0.64% ปิดที่ 2,628.20 ดอลลาร์/ออนซ์
• กองทุนทองคำ SPDR วันก่อนหน้าขายออก 3.45 ตัน ปัจจุบันถือครองที่ 873.95 ตันภาพรวมเดือนธันวาคม ขายสุทธิ 4.6 ตัน ขณะที่ปีนี้ ตั้งแต่ 1 ม.ค. - ปัจจุบัน ขายสุทธิ 5.16 ตัน

• "James Hyerczyk นักวิเคราะห์จาก FX Empire ระบุว่า ราคาทองคำในระยะสั้นนี้ขึ้นอยู่กับระดับ 2,607 ดอลลาร์ ถ้าราคาทองคำหลุดต่ำกว่าระดับนี้ อาจร่วงลงไปที่ระดับ 2,583 ดอลลาร์ ในทางกลับกัน หากราคาทองคำดีดตัวขึ้นไปเหนือ  2,629 ดอลลาร์ ก็มีโอกาสที่จะขึ้นไปอีก แต่อย่างไรก็ตาม การที่ราคาทองคำจะขึ้นไปได้สูงกว่านี้อาจต้องรอให้ผ่านช่วงวันหยุด chistmas ไปก่อน"

ข่าวเกี่ยวกับค่าเงิน และธนาคารกลาง

• ดัชนีดอลลาร์ ปรับตัวขึ้น 0.31 จุด หรือ 0.29% มาอยู่ที่ระดับ 108.12 จุด
• อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี ปรับตัวขึ้น 0.06 % มาอยู่ที่ระดับ 4.585% ในขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 2 ปี ปรับตัวขึ้น 0.02 % มาอยู่ที่ระดับ 4.334% โดยที่ส่วนต่างอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ 10 ปี มากกว่า 2 ปี เท่ากับ0.25%

ข่าวเกี่ยวกับตลาดหุ้นและเศรษฐกิจ

• ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกในวันจันทร์ โดยได้ปัจจัยหนุนจากการพุ่งขึ้นของหุ้นบริษัทเทคโนโลยีที่มีมาร์เก็ตแคปสูง หรือ “Magnificent Seven” ท่ามกลางปริมาณการซื้อขายในตลาดที่เบาบาง เนื่องจากใกล้ถึงวันหยุดในเทศกาลคริสต์มาส

• ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 42,906.95 จุด เพิ่มขึ้น 66.69 จุด หรือ +0.16%, 
• ดัชนี S&P500 ปิดที่ 5,974.07 จุด เพิ่มขึ้น 43.22 จุด หรือ +0.73% 
• และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 19,764.89 จุด เพิ่มขึ้น 192.29 จุด หรือ +0.98%

• ในช่วงแรก ดัชนีดาวโจนส์ร่วงลงกว่า 300 จุด หลังจาก Conference Board ซึ่งเป็นสถาบันวิจัยเศรษฐกิจเปิดเผยผลสำรวจระบุว่า ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคสหรัฐฯ ร่วงลงสู่ระดับ 104.7 ในเดือนธ.ค. ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 113.8 จากระดับ 112.8 ในเดือนพ.ย.

• สำนักงานสถิติแห่งชาติอังกฤษ (ONS) รายงานว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ของอังกฤษไม่ขยายตัวในไตรมาส 3/2567 ซึ่งเป็นการปรับลดการประเมินจากที่ประมาณการในเบื้องต้นว่า GDP ไตรมาส 3 ขยายตัว 0.1%

ข่าวเกี่ยวกับน้ำมัน

• สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดลบในวันจันทร์ โดยตลาดถูกกดดันจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์ รวมทั้งความกังวลเกี่ยวกับภาวะอุปทานน้ำมันล้นตลาดในปีหน้า

• สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.พ. ลดลง 22 เซนต์ หรือ 0.32% ปิดที่ 69.24 ดอลลาร์/บาร์เรล
• สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนก.พ. ลดลง 31 เซนต์ หรือ 0.43% ปิดที่ 72.63 ดอลลาร์/บาร์เรล
• ราคาน้ำมันยังถูกกดดันจากความกังวลเกี่ยวกับภาวะน้ำมันล้นตลาด โดยนักวิเคราะห์จากบริษัทแมคควอรี (Macquarie) คาดการณ์ว่าภาวะอุปทานน้ำมันล้นตลาดจะปรับตัวสูงขึ้นในปีหน้า ซึ่งจะทำให้ราคาน้ำมันดิบเบรนท์อยู่ที่ระดับเฉลี่ย 70.50 ดอลลาร์/บาร์เรล ลดลงจากราคาเฉลี่ยของปีนี้ที่ 79.64 ดอลลาร์/บาร์เรล

• ขณะนี้บรรดาผู้ซื้อก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG) รวมถึง EU และเวียดนาม ได้มีการพูดคุยกันเกี่ยวกับการซื้อเชื้อเพลิงเพิ่มเติมจากสหรัฐฯ แล้ว ซึ่งส่วนหนึ่งเพื่อป้องกันภัยคุกคามจากการเก็บภาษีนำเข้า

• ทั้งนี้ ทรัมป์ได้ขู่ว่าจะเรียกเก็บภาษีนำเข้ากับประเทศต่าง ๆ ตั้งแต่จีนไปจนถึงแคนาดา และให้ความสนใจเป็นพิเศษกับประเทศที่มีการขาดดุลการค้ากับสหรัฐฯ ส่วนยุโรปนั้นถือเป็นจุดหมายปลายทางอันดับหนึ่งสำหรับการส่งออกก๊าซ LNG ของสหรัฐฯ

ข่าวเกี่ยวกับการเมือง

• เกาหลีเหนือกำลังเตรียมส่งทหารและอุปกรณ์การทหารเพิ่มเติมให้กับรัสเซีย รวมถึงโดรนพุ่งชน (suicide drone) เพื่อสนับสนุนสงครามระหว่างรัสเซียกับยูเครน

• โดนัลด์ ทรัมป์ ออกมาขู่จะยึดคืนคลองปานามา โดยอ้างว่าปานามาเก็บค่าผ่านทางแพงเกินไป และแสดงความกังวลเรื่องอิทธิพลของจีน ด้านประธานาธิบดีปานามา ตอบโต้ว่าเอกราชของปานามาไม่ใช่สิ่งที่ต่อรองได้ ทั้งนี้สหรัฐได้ส่งมอบการควบคุมคลองให้ปานามาตั้งแต่ปี 1999 ตามข้อตกลงที่ลงนามในปี 1977

• โดนัลด์ ทรัมป์ เตรียมดึงสหรัฐฯ ถอนตัวออกจาก องค์การอนามัยโลก (WHO) ตั้งแต่วันแรกที่รัฐบาลชุดใหม่เริ่มบริหารประเทศ ในวันที่ 20 ม.ค. ซึ่งเป็นวันที่ทรัมป์จะสาบานตน โดยการถอนตัวของสหรัฐฯ จะทำให้ WHO สูญเสียแหล่งเงินทุนรายใหญ่ที่สุด ซึ่งจะส่งผลกระทบโดยตรงต่อความสามารถในการรับมือกับวิกฤตสาธารณสุข เนื่องจากสหรัฐฯ เป็นผู้สนับสนุนหลักขององค์การอนามัยโลก โดยให้เงินทุนคิดเป็นสัดส่วนถึง 16%

• อิสราเอลกำลังร่วมมือกับอีกหลายประเทศ รวมถึงสหรัฐฯ เพื่อจัดการกับกลุ่มติดอาวุธฮูตีในประเทศเยเมน ซึ่งไม่เพียงแต่เป็นภัยคุกคามต่อเส้นทางการขนส่่งสินค้าเท่านั้น แต่ยังเป็นอันรายต่อความสงบสุขของโลกด้วย หลังเมื่อช่วงปลายสัปดาห์ที่ผ่านมากลุ่มดังกล่าวยิงขีปนาวุธโจมตีกรุงเทลอาวีฟ

ข่าวเกี่ยวกับเศรษฐกิจไทยและค่าเงินบาท

• นักบริหารการเงิน เปิดเผยว่า ค่าเงินบาทเปิดเช้านี้ ที่ระดับ 34.29 บาทต่อดอลลาร์ “อ่อนค่าลง” จากระดับปิดวันที่ผ่านมา ที่ระดับ  34.19 บาทต่อดอลลาร์ มองกรอบเงินบาทในช่วง 24 ชั่วโมง คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 34.20-34.35 บาทต่อดอลลาร์

• รัฐบาลเตรียมเสนอมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจใหม่ Easy e-Receipt ให้ ครม. พิจารณา ซึ่งเป็นมาตรการลดหย่อนภาษีจากการซื้อสินค้าและบริการ โดยผู้เสียภาษีสามารถนำค่าใช้จ่ายมาลดหย่อนภาษีได้สูงสุด 50,000 บาท ซึ่งคาดว่าจะเริ่มใช้ในเดือนมกราคม 2568

• มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ประเมินว่า เศรษฐกิจไทยในปี 2568 จะมีการเติบโตได้ในกรอบ 2.8-3.2% หรือมีค่าเฉลี่ยที่ 3% โดยต้องจับตาช่วงที่เป็นจุดเปลี่ยนสำคัญว่าจะทำให้เศรษฐกิจไทยปีหน้าโตได้ถึงระดับ 3% หรือไม่นั้น จะอยู่ในช่วงไตรมาส 2 ปีหน้า ซึ่งจะเป็นช่วงที่เห็นประสิทธิผลจากมาตรการต่าง ๆ ของรัฐบาลที่ทยอยออกมาตั้งแต่ปลายปีนี้ ไปจนถึงช่วงไตรมาส 1 ปี 68 ไม่ว่าจะเป็นมาตรการ “คุณสู้ เราช่วย”, โครงการ Easy e-receipt และเงิน 1 หมื่นบาทให้แก่ผู้สูงอายุ

 

 

ที่มาจาก : Reuters, Infoquest, BangkokBizNews

Tags : ข่าวทอง, ข่าวทอง , ทอง , ราคาทอง