• สรุปข่าวราคาทองคำ ประจำวันที่ 25 ธันวาคม 2567

    25 ธันวาคม 2567 | Gold News


ข่าวเกี่ยวกับทองคำ


  • สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกเล็กน้อยในวันอังคาร ท่ามกลางปริมาณการซื้อขายที่เบาบาง ก่อนวันหยุดในเทศกาลคริสต์มาสวันนี้ ขณะที่นักลงทุนยังคงจับตาสัญญาณบ่งชี้ทิศทางนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ซึ่งคาดว่าจะเป็นปัจจัยบ่งชี้แนวโน้มราคาทองคำในปีหน้า


  • สัญญาทองคำตลาด COMEX ส่งมอบเดือนก.พ. เพิ่มขึ้น 7.30 ดอลลาร์ หรือ 0.28% ปิดที่ 2,635.50 ดอลลาร์/ออนซ์
  • โดยราคาทองคำตลาดโลก Gold spot  วันนี้ ปิดตลาดที่ระดับ 2,616.87 เหรียญ
  • กองทุนทองคำ SPDR วันก่อนหน้าไม่เปลี่ยนแปลง ปัจจุบันถือครองที่ 873.95 ตันภาพรวมเดือนธันวาคม ขายสุทธิ 4.6 ตัน ขณะที่ปีนี้ ตั้งแต่ 1 ม.ค. - ปัจจุบัน ขายสุทธิ 5.16 ตัน


  • นักวิเคราะห์หลายราย ซึ่งรวมถึงแฟรงค์ วัตสัน จากบริษัท Kinesis Money คาดการณ์ว่า ราคาทองคำมีแนวโน้มสดใสในปีหน้า โดยคาดว่าราคาอาจจะดีดตัวขึ้นแตะระดับ 2,800 ดอลลาร์/ออนซ์ โดยได้ปัจจัยหนุนจากการที่นักลงทุนเข้าซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย ท่ามกลางความวิตกกังวลเกี่ยวกับความเสี่ยงด้านภูมิรัฐศาสตร์


  • อย่างไรก็ดี นักวิเคราะห์มองว่าการที่ทรัมป์กลับเข้าสู่ทำเนียบขาวในเดือนม.ค.ปีหน้า จะเปิดทางให้เขาใช้มาตรการต่าง ๆ ที่จะส่งผลให้อัตราเงินเฟ้อปรับตัวสูงขึ้น ซึ่งจะบดบังโอกาสที่เฟดจะเดินหน้าปรับลดอัตราดอกเบี้ยในปีหน้า


ข่าวเกี่ยวกับค่าเงิน และธนาคารกลาง


  • ดัชนีดอลลาร์ วันนี้ปิดตลาดที่ระดับ 108.12 จุด


  • กระทรวงการคลังจีนยืนยัน จีนพร้อมขาดดุลการคลังเพิ่ม โดยจะเพิ่มการใช้จ่ายภาครัฐในปี 2025 เน้นกระตุ้นการบริโภค โดยมีแผนออกพันธบัตรพิเศษมูลค่าสูงถึง 3 ล้านล้านหยวน ซึ่งเป็นระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ เพื่อใช้สนับสนุนเงินอุดหนุนการบริโภค การปรับปรุงอุปกรณ์ธุรกิจ การลงทุนด้านเทคโนโลยี และการผลิตขั้นสูง รวมถึงเพิ่มทุนให้ธนาคารของรัฐ มาตรการนี้มีขึ้นท่ามกลางความกังวลเรื่องการชะลอตัวของภาคอสังหาริมทรัพย์และแรงกดดันจากภาษีนำเข้าของสหรัฐฯ ที่กำลังจะมาถึง


  • ธนาคารขนาดใหญ่หลายแห่งในสหรัฐได้รวมตัวกันฟ้องธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เมื่อวานนี้ (24 ธ.ค.) โดยกล่าวหาว่ากระบวนการทดสอบภาวะวิกฤต (Stress Test) ของเฟด มีความไม่โปร่งใสและขัดต่อกฎหมาย


  • ทั้งนี้ (Stress Test) ของเฟด คือการจัดการทดสอบภาวะวิกฤตประจำปีเพื่อตรวจสอบความแข็งแกร่งของภาคธนาคาร และเพื่อเป็นปัจจัยกำหนดฐานเงินทุนที่ธนาคารต้องกันสำรองไว้ 


  • รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังญี่ปุ่น กล่าวย้ำถึงความกังวลของญี่ปุ่นเกี่ยวกับความผันผวนที่มากเกินไปของอัตราแลกเปลี่ยน และเตือนนักเก็งกำไรว่า ทางการพร้อมดำเนินมาตรการเพื่อรักษาเสถียรภาพของเงินเยนที่อ่อนค่าลง


ข่าวเกี่ยวกับตลาดหุ้นและเศรษฐกิจ


  • ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นในวันอังคาร ขณะที่ดัชนี Nasdaq และ S&P500 ปิดในแดนบวกเช่นกัน โดยตลาดยังคงได้ปัจจัยหนุนจากการพุ่งขึ้นของหุ้นบริษัทเทคโนโลยีที่มีมาร์เก็ตแคปสูง และหุ้นเติบโต (Growth Stocks)


  • ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 43,297.03 จุด เพิ่มขึ้น 390.08 จุด หรือ +0.91%
  • ดัชนี S&P500 ปิดที่ 6,040.04 จุด เพิ่มขึ้น 65.97 จุด หรือ +1.10% 
  • ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 20,031.13 จุด เพิ่มขึ้น 266.24 จุด หรือ +1.35%


  • ดัชนีดาวโจนส์ และ Nasdaq ปิดบวกติดต่อกันเป็นวันที่ 4 ขณะที่ดัชนี S&P500 ปิดบวกติดต่อกันเป็นวันที่ 3 ในวันอังคาร ซึ่งถือเป็นวันแรกของปรากฏการณ์ซานตาคลอส แรลลี่ (Santa Claus Rally)” โดยข้อมูลเชิงสถิติบ่งชี้ว่าซานตาคลอส แรลลี่จะเกิดขึ้นเป็นเวลา 7 วันทำการ โดยเกิดขึ้นในช่วง 5 วันทำการสุดท้ายของปีปัจจุบัน รวมถึง 2 วันแรกของปีใหม่


ข่าวเกี่ยวกับน้ำมัน


  • สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกในวันอังคาร โดยได้ปัจจัยบวกจากการคาดการณ์ที่ว่าอุปสงค์น้ำมันยังคงมีแนวโน้มสดใสในปีหน้า และคาดว่าอุปทานน้ำมันจะอยู่ในภาวะตึงตัวเล็กน้อย


  • สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.พ. เพิ่มขึ้น 86 เซนต์ หรือ 1.24% ปิดที่ 70.10 ดอลลาร์/บาร์เรล
  • สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนก.พ. เพิ่มขึ้น 95 เซนต์ หรือ 1.31% ปิดที่ 73.58 ดอลลาร์/บาร์เรล


  • โดยตลาดน้ำมันนิวยอร์กจะปิดทำการซื้อขายในวันนี้ (25 ธ.ค.) เนื่องในวันคริสต์มาส


  • นักวิเคราะห์หลายรายมองว่า อุปสงค์น้ำมันมีแนวโน้มแข็งแกร่งขึ้นในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า ในขณะที่สำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐฯ (EIA) ได้เปิดเผยรายงานแนวโน้มด้านพลังงานระยะสั้น (Short-term Energy Outlook) เมื่อไม่นานมานี้ ซึ่งบ่งชี้ว่าอุปทานน้ำมันมีแนวโน้มปรับตัวลงในปี 2568


  • เคลวิน หว่อง นักวิเคราะห์จากบริษัท OANDA กล่าวว่า ราคาน้ำมันยังได้แรงหนุนจากการที่จีนซึ่งเป็นผู้นำเข้าน้ำมันรายใหญ่ของโลก ออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ล่าสุดมีรายงานว่าจีนจะออกพันธบัตรพิเศษวงเงิน 3 ล้านล้านหยวน (4.11 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ) เพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจ


  • สถาบันปิโตรเลียมอเมริกา (API) รายงานว่า สต็อกน้ำมันดิบและน้ำมันกลั่นรายสัปดาห์ของสหรัฐฯ ลดลง 3.2 ล้านบาร์เรลและ 2.5 ล้านบาร์เรล ตามลำดับ ส่วนสต็อกน้ำมันเบนซินเพิ่มขึ้น 3.9 ล้านบาร์เรล


  • ทั้งนี้ API เปิดเผยข้อมูลดังกล่าวก่อนที่ EIA จะเปิดเผยตัวเลขสต็อกน้ำมันอย่างเป็นทางการในวันพฤหัสบดี 


ข่าวเกี่ยวกับการเมือง


  • รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมของประเทศเดนมาร์ก ประกาศเมื่อวานนี้ว่า รัฐบาลมีแผนจะจัดสรรงบประมาณด้านการกลาโหมมูลค่าหลักหมื่นล้าน เพื่อยกระดับการการป้องกันเกาะกรีนแลนด์ หลัง โดนัลด์ ทรัมป์ กลับมาแสดงความสนใจในการซื้อเกาะกรีนแลนด์จากเดนมาร์กอีกครั้ง หลังจากที่เขาขู่ว่าจะยึดคลองปานามา หากไม่สามารถรับประกันความปลอดภัยและค่าธรรมเนียมที่เป็นธรรมได้ การเคลื่อนไหวนี้สร้างความกังวลถึงความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ และความไม่แน่นอนทางการเมืองในอนาคต


  • กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) เปิดเผยการคาดการณ์ล่าสุดว่าด้วยเศรษฐกิจยูเครนกับการทำสงครามกับรัสเซีย โดยแบ่งออกเป็นสองกรณี ได้แก่ สถานการณ์พื้นฐาน และสถานการณ์เลวร้าย ในสถานการณ์พื้นฐาน คาดว่าสงครามจะสิ้นสุดภายในปลายปี 2568 ส่วนในสถานการณ์เลวร้าย คาดว่าสงครามจะดำเนินต่อไปจนถึงกลางปี 2569 ซึ่งจะส่งผลกระทบอย่างมากต่อเสถียรภาพทางเศรษฐกิจของยูเครน


ข่าวเกี่ยวกับเศรษฐกิจไทยและค่าเงินบาท


  • ค่าเงินบาทวันนี้เปิดตลาดอ่อนค่าที่ 34.19 บาทต่อดอลลาร์ อ่อนค่าจากราคาปิดตลาดเมื่อวานที่ระดับ 34.14 บาทต่อดอลลาร์ โดยกรอบแนวรับที่ 34.00 บาทต่อดอลลาร์ แนวต้าน 34.30 บาทต่อดอลลาร์


  • ดัชนีตลาดหุ้นไทยปิดที่ 1,394.67 จุด เพิ่มขึ้น 8 จุด ทำผลงานดีกว่าตลาดในภูมิภาค โดย 24 กลุ่มอุตสาหกรรมปรับตัวขึ้น นำโดยกลุ่มค้าปลีกพลังงาน อสังหาริมทรัพย์ ขนส่ง โรงพยาบาล และวัสดุก่อสร้าง ขณะที่อิเล็กทรอนิกส์และสื่อสารกดดันตลาด ได้แรงหนุนจากมาตรการ Easy e-Receipt และจีนที่เตรียมออกพันธบัตรพิเศษ 3 ล้านล้านหยวน โดยนักลงทุนสถาบันซื้อสุทธิ 1,612 ล้านบาท คาดจากกองทุนลดหย่อนภาษีปลายปี


  • รมช.คลัง เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบกรอบเป้าหมายเงินเฟ้อ ปี 2568 ที่ระดับ 1-3% ซึ่งเป็นระดับเดิม แต่ได้มีการเพิ่มรายละเอียดในการดำเนินงาน ระหว่างกระทรวงการคลัง และธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) โดยทั้ง 2 หน่วยงานจะต้องร่วมมือประคับประคองเศรษฐกิจ เพื่อให้อัตราเงินเฟ้อมุ่งสู่ค่ากลางที่ระดับ 2%

 

 

ที่มาจาก : Reuters, Infoquest, BangkokBizNews

Tags : ข่าวทอง, ข่าวทอง , ทอง , ราคาทอง

บริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ จำกัด
40,42,44 ถนนทรัพย์สิน แขวงวังบูรพาภิรมย์เขตพระนคร กรุงเทพ 10200
โทรศัพท์ 0 2770 7777 โทรสาร 0 2623 9366 E-mail: support@mtsgoldgroup.com