• สรุปข่าวราคาทองคำ ประจำวันที่ 30 ธันวาคม 2567

    30 ธันวาคม 2567 | Gold News


ข่าวเกี่ยวกับทองคำ


  • สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดลบในวันศุกร์ เนื่องจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ที่เพิ่มขึ้นได้ลดความน่าสนใจของทองคำซึ่งไม่มีผลตอบแทนในรูปอัตราดอกเบี้ย ขณะที่ตลาดมุ่งความสนใจไปที่การกลับเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีของโดนัลด์ ทรัมป์ และผลกระทบที่นโยบายก่อเงินเฟ้อของเขาจะมีต่อแนวโน้มการดำเนินนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ในปี 2568


  • ราคาทองคำตลาดโลก ปรับตัวลดลง -7.22 เหรียญ หรือ -0.27% อยู่ที่ระดับ 2,626.08 เหรียญ
  • สัญญาทองคำตลาด COMEX ส่งมอบเดือนก.พ. ลดลง 22.00 ดอลลาร์ หรือ 0.8% ปิดที่ 2,631.90 ดอลลาร์/ออนซ์
  • กองทุนทองคำ SPDR วันก่อนหน้าขายออก 0.28 ตัน ปัจจุบันถือครองที่ 872.52 ตันภาพรวมเดือนธันวาคม ขายสุทธิ 6.03 ตัน ขณะที่ปีนี้ ตั้งแต่ 1 ม.ค. - ปัจจุบัน ขายสุทธิ 6.59 ตัน


  • ในรอบปีนี้ ราคาทองคำพุ่งขึ้นแล้ว 28% และทำสถิติสูงสุดที่ 2,790.15 ดอลลาร์เมื่อวันที่ 31 ต.ค. โดยได้แรงหนุนจากการลดอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) และความตึงเครียดที่เพิ่มขึ้นทั่วโลก


  • นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่ยังคงมีมุมมองเชิงบวกสำหรับปี 2568 แม้ว่าเฟดคาดการณ์ถึงการปรับลดอัตราดอกเบี้ยที่น้อยลง แต่พวกเขามองว่า ความตึงเครียดทางการเมืองในหลายพื้นที่ทั่วโลกจะยังคงเพิ่มขึ้น ธนาคารกลางต่าง ๆ จะยังคงซื้อทองคำอย่างต่อเนื่อง และจะเกิดความไม่แน่นอนทางการเมืองเมื่อโดนัลด์ ทรัมป์กลับเข้าสู่ทำเนียบขาวในเดือนมกราคม


  • นโยบายภาษีและการปกป้องการค้าของทรัมป์นั้นคาดว่าจะกระตุ้นให้เกิดสงครามการค้า ซึ่งจะเพิ่มความน่าสนใจของทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย


  • นักวิเคราะห์กล่าวว่า ในปีหน้า หากธนาคารกลางยังคงซื้อทองคำต่อไป ก็คาดว่าราคาทองคำอาจแตะระดับ 3,000 ดอลลาร์ภายในช่วงฤดูร้อน หากทองคำยังคงปรับตัวขึ้นในอัตรานี้

ข่าวเกี่ยวกับค่าเงิน และธนาคารกลาง


  • ดัชนีดอลลาร์ ปรับตัวลดลง -0.13 จุด หรือ -0.12% มาอยู่ที่ระดับ 107.96 จุด
  • อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี ปรับตัวขึ้น 0.03 % มาอยู่ที่ระดับ 4.621% ในขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 2 ปี ปรับตัวลดลง -0.01 % มาอยู่ที่ระดับ 4.322% โดยที่ส่วนต่างอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ 10 ปี มากกว่า 2 ปี เท่ากับ0.3%


  • ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) เปิดเผยรายงานสรุปความคิดเห็นของกรรมการ BOJ โดยระบุว่า กรรมการบางส่วนมีมุมมองเชิงบวกเกี่ยวกับการเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในอนาคตอันใกล้นี้ แม้ว่าท้ายที่สุดแล้ว BOJ ได้ตัดสินใจคงอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเมื่อวันที่ 18-19 ธ.ค. ที่ผ่านมาก็ตาม


  • ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) พื้นฐานในกรุงโตเกียว เมืองหลวงของญี่ปุ่น ปรับตัวสูงขึ้นในเดือนธ.ค. ส่งผลให้ตลาดยังคงคาดการณ์ว่าธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) อาจปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วๆ นี้ ทั้งนี้ ดัชนี CPI พื้นฐานในกรุงโตเกียว ซึ่งไม่นับรวมราคาอาหารสด ปรับตัวสูงขึ้น 2.4% ในเดือนธ.ค. เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว ต่ำกว่าที่นักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ไว้ว่าจะเพิ่มขึ้น 2.5% และสูงกว่าตัวเลข 2.2% ในเดือนพ.ย.

ข่าวเกี่ยวกับตลาดหุ้นและเศรษฐกิจ


  • ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบในวันศุกร์ ขณะที่ดัชนี S&P500 และ Nasdaq ปรับตัวลงด้วย เนื่องจากมีแรงเทขายทำกำไรอย่างมากในหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีและหุ้นเติบโตที่หนุนตลาดขึ้นในช่วงที่ผ่านมา


  • ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 42,992.21 จุด ลดลง 333.59 จุด หรือ -0.77%
  • ดัชนี S&P500 ปิดที่ 5,970.84 จุด ลดลง 66.75 จุด หรือ -1.11% 
  • ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 19,722.03 จุด ลดลง 298.33 หรือ -1.49%


  • ดัชนีดาวโจนส์ปรับตัวลงหลังบวกต่อเนื่อง 5 วัน และก่อนหน้านั้น ดัชนีดาวโจนส์ติดลบต่อเนื่อง 10 วัน ยาวนานที่สุดนับตั้งแต่ปี 2517


  • การเทขายหุ้นในวันศุกร์ได้ขัดขวางการปรับขึ้นของตลาดตามปรากฏการณ์ที่เรียกว่า ซานตาคลอส แรลลี (Santa Claus Rally) ซึ่งตลาดหุ้นมักจะปรับตัวสูงขึ้นในช่วง 5 วันสุดท้ายของเดือนธันวาคมและ 2 วันแรกของเดือนมกราคม โดยข้อมูลจาก Stock Trader’s Almanac บ่งชี้ว่า นับตั้งแต่ปี 2512 ดัชนี S&P500 ปรับตัวขึ้นเฉลี่ย 1.3% จากปรากฏการณ์ดังกล่าว


  • เจเน็ต เยลเลน รัฐมนตรีกระทรวงการคลังสหรัฐฯ ระบุว่า กระทรวงการคลังสหรัฐอาจต้องใช้มาตรการพิเศษอย่างเร็วที่สุดในวันที่ 14 มกราคม 2568 เพื่อป้องกันไม่ให้สหรัฐฯ เริ่มผิดนัดชำระหนี้


  • มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย กล่าวว่า การดำเนินการมาตรการผ่อนคลายทางการเงินและการคลังอย่างต่อเนื่อง เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจของจีน จะทำให้จีนหลุดพ้นจากภาวะซบเซา และเงินฝืดได้ แต่ต้องใช้เวลาในการฟื้นตัว เนื่องจากมีกำลังการผลิตส่วนเกิน และภาวะอุปทานส่วนเกินจำนวนมากในระบบเศรษฐกิจ การเร่งรัดการส่งออก และระบายสินค้าออกสู่ตลาดโลกในราคาถูก อาจเจอกับอุปสรรคจากการตั้งกำแพงภาษีในระยะต่อไป


  • ประธานาธิบดีสี จิ้นผิงของจีนกล่าวว่า ประเทศจีนจะเผชิญกับภารกิจในการปฏิรูป การพัฒนา และการรักษาเสถียรภาพที่ยากลำบากอย่างมากในปีหน้า หลังจากที่บรรลุเป้าหมายทางเศรษฐกิจและสังคมสำหรับปี 2567 ได้อย่างราบรื่น


  • เจ้าหน้าที่จากสำนักงานสถิติแห่งชาติจีน (NBS) เปิดเผยว่า การปรับทบทวนข้อมูลผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ปี 2566 จะไม่ส่งผลกระทบต่อตัวเลขการเติบโตทางเศรษฐกิจของจีนในปี 2567 โดย NBS ได้ปรับทบทวนมูลค่า GDP ของจีนในปี 2566 เป็น 129.4 ล้านล้านหยวน (ประมาณ 18 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ) เพิ่มขึ้น 3.4 ล้านล้านหยวนจากการคำนวณเบื้องต้น


  • รัฐบาลจีนเปิดเผยว่า จีนจะลดภาษีนำเข้าก๊าซอีเทน และวัตถุดิบทองแดงและอะลูมิเนียมรีไซเคิลตั้งแต่ปีหน้า โดยจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. 2568 โดยมีเป้าหมายเพื่อเพิ่มการนำเข้าผลิตภัณฑ์คุณภาพสูง ขยายความต้องการภายในประเทศ และส่งเสริมการเปิดประเทศในระดับสูง


ข่าวเกี่ยวกับน้ำมัน


  • สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดเพิ่มขึ้นมากกว่า 1% ในวันศุกร์ และปิดบวกในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา แม้ปริมาณการซื้อขายเบาบางในช่วงใกล้สิ้นปี โดยตลาดได้แรงหนุนจากปริมาณสต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐฯ ที่ลดลงมากกว่าที่คาดไว้ในสัปดาห์ที่ผ่านมา


  • สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.พ. เพิ่มขึ้น 98 เซนต์ หรือ 1.4% ปิดที่ระดับ 70.60 ดอลลาร์/บาร์เรล
  • สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนก.พ. เพิ่มขึ้น 91 เซนต์ หรือ 1.2% ปิดที่ 74.17 ดอลลาร์/บาร์เรล


  • ในรอบสัปดาห์นี้ ทั้งสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์และน้ำมันดิบ WTI ต่างปรับตัวขึ้นประมาณ 1.4%


  • สำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบสหรัฐลดลง 4.2 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าอาจลดลงเพียง 700,000 บาร์เรล


  • ความเชื่อมั่นเกี่ยวกับการเติบโตทางเศรษฐกิจของจีนได้เพิ่มความหวังเกี่ยวกับความต้องการใช้น้ำมันที่สูงขึ้นในปีหน้าจากจีนซึ่งเป็นประเทศผู้นำเข้าน้ำมันรายใหญ่ที่สุดของโลก


  • TACenergy ผู้จัดจำหน่ายเชื้อเพลิงเปิดเผยว่า สงครามระหว่างรัสเซียและยูเครน ซึ่งก่อนหน้านี้ถูกมองว่าเป็นประเด็นรองในตลาดพลังงานเนื่องจากความต้องการน้ำมันโลกซบเซานั้น กำลังกลับมาเป็นประเด็นหลักอีกครั้ง หลังเกิดเหตุการณ์หลายอย่างที่อาจส่งผลกระทบต่ออุปทานน้ำมันในปีหน้า


  • นาโต (NATO) ประกาศ ว่าจะเพิ่มกำลังทหารในทะเลบอลติก หนึ่งวันหลังจากที่ฟินแลนด์ยึดเรือที่ขนส่งน้ำมันจากรัสเซีย เนื่องจากสงสัยว่าเกี่ยวข้องกับภาวะขัดข้องของสายเคเบิลอินเทอร์เน็ตและไฟฟ้า ขณะเดียวกัน ราคาก๊าซธรรมชาติในตลาดค้าส่งของเนเธอร์แลนด์และอังกฤษปรับตัวขึ้น เนื่องจากมีความหวังน้อยลงเกี่ยวกับการทำข้อตกลงใหม่ในการขนส่งก๊าซของรัสเซียผ่านยูเครน


  • นักวิเคราะห์จากสโตนเอ็กซ์ (StoneX) กล่าวว่า ความตึงเครียดในตะวันออกกลางเพิ่มขึ้น หลังจากอิสราเอลบุกโรงพยาบาลในภาคเหนือของกาซาเมื่อวันศุกร์ และโจมตีเป้าหมายที่เกี่ยวข้องกับขบวนการฮูตีในเยเมนเมื่อวันพฤหัสบดี อย่างไรก็ตาม เหตุการณ์เหล่านี้ไม่น่าจะส่งผลกระทบต่อราคาน้ำมันมากนักในปีหน้า


  • เขากล่าวว่า ความเสี่ยงใหญ่ที่สุดในตะวันออกกลางจะมาจากการบังคับใช้มาตรการคว่ำบาตรที่น่าจะเกิดขึ้นเมื่อรัฐบาลของโดนัลด์ ทรัมป์ เข้ามาบริหารงานในสหรัฐฯ

ข่าวเกี่ยวกับการเมือง


  • โดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ออกโรงเข้าข้าง อีลอน มัสก์ ด้วยการกล่าวสนับสนุนโครงการ H-1B ซึ่งเป็นวีซ่าที่ออกให้กับแรงงานชาวต่างชาติที่มีทักษะสูงให้เข้ามาทำงานและอาศัยในสหรัฐฯ ได้ ซึ่งเรื่องนี้กำลังเป็นประเด็นความความขัดแย้งอย่างดุเดือดระหว่างกลุ่มผู้สนับสนุนทรัมป์ที่แตกออกเป็นสองฝ่าย ทั้งนี้ ถือเป็นครั้งแรกที่ทรัมป์แสดงความเห็นดังกล่าวต่อสาธารณะนับตั้งแต่ความขัดแย้งระหว่างมัสก์กับผู้สนับสนุนทรัมป์ที่ต่อต้านแรงงานอพยพได้ปะทุขึ้นอย่างรุนแรง


  • คิม จองอึน ผู้นำสูงสุดของเกาหลีเหนือ ประกาศว่า สหรัฐฯเป็นรัฐขวาจัดที่มองว่าการต่อต้านคอมมิวนิสต์เป็นนโยบายถาวรของรัฐพร้อมประกาศกร้าวว่า เกาหลีเหนือจะใช้จุดยืนที่แข็งกร้าวเพื่อปกป้องผลประโยชน์และความมั่นคงของชาติ


  • หน่วยงานความมั่นคงกลางรัสเซีย (FSB) เปิดเผยว่า ได้ขัดขวางแผนการของยูเครนในการลอบสังหารเจ้าหน้าที่ระดับสูงของรัสเซียและบล็อกเกอร์สนับสนุนสงครามรายหนึ่ง โดยใช้ระเบิดที่ซุกซ่อนไว้ในลำโพงแบบพกพา


  • ผู้ดูแลด้านการควบคุมอาวุธของรัสเซียออกมาเตือนคณะบริหารของโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ว่า รัสเซียกำลังพิจารณามาตรการต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการทดสอบนิวเคลียร์ เนื่องจากจุดยืนที่แข็งกร้าวของทรัมป์ในประเด็นนี้


  • ชาวอิสราเอลเดินหน้าประท้วงรัฐบาลต่อเนื่องทุกสัปดาห์ เรียกร้องให้ยุติสงครามในกาซา และปล่อยตัวประกันทั้งหมด ล่าสุดยอดผู้เสียชีวิตในกาซาเพิ่มขึ้นเป็น 45,484 คน

ข่าวเกี่ยวกับเศรษฐกิจไทยและค่าเงินบาท


  • ธนาคารกสิกรไทย [KBANK] ภาพรวมระหว่างวันที่ 2 ม.ค. – 27 ธ.ค. 2567 นั้น เงินบาทปิดตลาดที่ระดับ 34.04 บาท/ดอลลาร์ (ณ 27 ธ.ค. 67) แข็งค่าขึ้น 0.3% จากระดับ 34.14 บาท/ดอลลาร์ ณ สิ้นปี 2566


  • สำหรับค่าเงินบาทเปิดเช้านี้ ที่ระดับ 34.03 บาทต่อดอลลาร์อ่อนค่าลงเล็กน้อย แทบไม่เปลี่ยนแปลงจากระดับปิดสัปดาห์ก่อนหน้า ที่ระดับ  33.99 บาทต่อดอลลาร์ มองกรอบค่าเงินบาทสัปดาห์นี้ ที่ระดับ 33.85-34.30 บาทต่อดอลลาร์ ส่วนกรอบเงินบาทในวันนี้ คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 33.95-34.15 บาทต่อดอลลาร์                                                  


  • การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เผยนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้าประเทศไทยทะลุเป้าหมายที่ตั้งไว้ที่ 35 ล้านคนในปี 2567 คาดสร้างรายได้ทางการท่องเที่ยวกว่า 1.8 ล้านล้านบาท


  • ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า เศรษฐกิจไทยในเดือนพ.ย.67 ชะลอลงจากเดือนก่อน โดยการบริโภคภาคเอกชนลดลง หลังจากที่เร่งไปในเดือนก่อน (ต.ค.) จากมาตรการเงินโอนภาครัฐ สอดคล้องกับกิจกรรมในภาคการค้า ด้านการลงทุนภาคเอกชน ปรับลดลงจากทั้งหมวดเครื่องจักรและอุปกรณ์ และหมวดก่อสร้าง อย่างไรก็ดี ภาคบริการที่เกี่ยวเนื่องกับการท่องเที่ยวยังขยายตัวได้ และการส่งออกสินค้าเพิ่มขึ้นจากหมวดยานยนต์ และสินค้าเกษตรแปรรูป





ที่มาจาก : Reuters, Infoquest, BangkokBizNews

Tags : ข่าวทอง, ข่าวทอง , ทอง , ราคาทอง

บริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ จำกัด
40,42,44 ถนนทรัพย์สิน แขวงวังบูรพาภิรมย์เขตพระนคร กรุงเทพ 10200
โทรศัพท์ 0 2770 7777 โทรสาร 0 2623 9366 E-mail: support@mtsgoldgroup.com