• สรุปข่าวราคาทองคำ ประจำวันที่ 6 มกราคม 2568

    6 มกราคม 2568 | Gold News


ข่าวเกี่ยวกับทองคำ


  • สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดลบในวันศุกร์ และปรับตัวลงจากระดับสูงสุดในรอบ 3 สัปดาห์ โดยถูกกดดันจากดอลลาร์สหรัฐที่แข็งค่าขึ้น ขณะที่ตลาดเตรียมตัวรับการเปลี่ยนแปลงทางด้านเศรษฐกิจและการค้าภายใต้รัฐบาลสหรัฐฯ ชุดใหม่


  • ราคาทองคำตลาดโลก ปรับตัวลดลง -12.55 เหรียญ หรือ -0.47% อยู่ที่ระดับ 2,645.27 เหรียญ
  • สัญญาทองคำตลาด COMEX ส่งมอบเดือนก.พ. ลดลง 14.30 เหรียญ หรือ 0.54% ปิดที่ 2,654.70 เหรียญ
  • กองทุนทองคำ SPDR วันก่อนหน้าขายออก 1.44 ตัน ปัจจุบันถือครองที่ 871.08 ตันภาพรวมเดือนมกราคม ขายสุทธิ 1.44 ตัน ขณะที่ปีนี้ ตั้งแต่ 1 ม.ค. - ปัจจุบัน ขายสุทธิ 1.44 ตัน
  • นักวิเคราะห์กล่าวว่า แรงกดดันจากดอลลาร์ที่แข็งค่ามีแนวโน้มที่จะยังคงส่งผลกระทบต่อราคาทองคำต่อไป แต่ปัญหาทางการเมืองระหว่างประเทศก็ไม่น่าจะจบลงในเร็ว ๆ นี้ ดังนั้น ทองคำจึงยังน่าจะยังคงได้รับแรงหนุน


  • ผลสำรวจทองคำประจำปี 2567 ของ Kitco News พบว่า นักลงทุนรายย่อยมีความเชื่อมั่นเป็นอย่างสูง ต่อแนวโน้มราคาทองคำที่พุ่งสูงขึ้น โดยคาดการณ์ว่าราคาทองคำจะทำลายสถิติเดิมและทะลุ 3,000 ดอลลาร์ต่อออนซ์ภายในปี 2568 อย่างไรก็ตาม มุมมองของสถาบันการเงินและผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมกลับมีความเห็นที่แตกต่างออกไป โดยส่วนใหญ่คาดการณ์ว่าราคาทองคำ จะปรับตัวขึ้นในช่วงครึ่งหลังของปีหลังจากการปรับฐานในช่วงต้น


ข่าวเกี่ยวกับค่าเงิน และธนาคารกลาง


  • ดัชนีดอลลาร์ ปรับตัวลดลง -0.25 จุด หรือ -0.23% มาอยู่ที่ระดับ 108.95 จุด
  • อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี ปรับตัวขึ้น 0.08 % มาอยู่ที่ระดับ 4.626% ในขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 2 ปี ปรับตัวขึ้น 0.06 % มาอยู่ที่ระดับ 4.293% โดยที่ส่วนต่างอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ 10 ปี มากกว่า 2 ปี เท่ากับ0.33%


  • หลังจากการปรับลดอัตราดอกเบี้ย 3 ครั้งในปี 2567 เฟดคาดว่าจะลดอัตราดอกเบี้ยลงเพียง 2 ครั้งในปี 2568 อันเนื่องมาจากปัญหาด้านเงินเฟ้อที่ยังคงมีอยู่


  • โธมัส บาร์กิน ประธานเฟดสาขาริชมอนด์กล่าวว่า ภาพรวมเศรษฐกิจสหรัฐฯ ในปี 2568 ยังคงเป็นไปในเชิงบวก แม้มีความไม่แน่นอนเกี่ยวกับผลกระทบจากนโยบายการค้าและนโยบายอื่น ๆ ที่อาจถูกนำมาใช้โดยรัฐบาลชุดใหม่ภายใต้การบริหารของโดนัลด์ ทรัมป์ โดยทรัมป์ 


  • เอเดรียนา คูเกลอร์ ผู้ว่าการธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) กล่าวว่า เฟดไม่แน่ใจเกี่ยวกับสิ่งที่จะเกิดขึ้นกับเศรษฐกิจในปี 2568 และจะปล่อยให้ข้อมูลเศรษฐกิจเป็นตัวกำหนดทิศทางของนโยบายการเงิน โดยกล่าวหลังจากการคาดการณ์ของเฟดเมื่อเดือนที่แล้วว่าจะมีการลดอัตราดอกเบี้ยน้อยลงในปี 2568 นั้น เราสามารถที่จะรอเวลา ชะลอการดำเนินนโยบายอย่างค่อยเป็นค่อยไปมากขึ้น ขณะเดียวกันก็จับตาข้อมูลเพื่อดูว่าแรงกดดันจากเงินเฟ้อจะเริ่มลดลงอีกครั้งหรือไม่


  • ธนาคารกลางจีน (PBOC) เปิดเผยว่า PBOC อาจจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยจากปัจจุบันที่ระดับ 1.5% “ในเวลาที่เหมาะสมในปีนี้


ข่าวเกี่ยวกับตลาดหุ้นและเศรษฐกิจ


  • ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดดีดตัวขึ้นจากแรงซื้อในวันศุกร์ ขณะที่นักลงทุนมีความหวังว่า ในปีใหม่นี้ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงอีก และรัฐบาลใหม่ของสหรัฐฯ จะผ่อนคลายนโยบายด้านกฎระเบียบมากขึ้น


  • ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 42,732.13 จุด เพิ่มขึ้น 339.86 จุด หรือ +0.80%, 
  • ดัชนี S&P500 ปิดที่ 5,942.47 จุด เพิ่มขึ้น 73.92 จุด หรือ +1.26% 
  • และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 19,621.68 จุด เพิ่มขึ้น 340.88 จุด หรือ +1.77%


  • แรงซื้อหุ้นเติบโตขนาดใหญ่ (Megacap Growth) อย่าง เทสลา (Tesla) และอินวิเดีย (Nvidia) หนุนตลาดขึ้นอย่างมาก และทำให้ดัชนี Nasdaq ปรับตัวขึ้นนำหน้าดัชนีอื่น ๆ


  • อย่างไรก็ตาม ดัชนีหุ้นหลักทั้ง 3 ตัวยังคงปรับตัวลงเล็กน้อยในรอบสัปดาห์นี้ โดยดัชนี S&P500 ปรับตัวลงเป็นสัปดาห์ที่ 3 ในรอบ 4 สัปดาห์


  • ประธานาธิบดีโจ ไบเดนได้สั่งระงับข้อเสนอการขายบริษัทยูเอส สตีล (U.S. Steel) ให้กับบริษัทนิปปอน สตีล (Nippon Steel) ของญี่ปุ่นด้วยมูลค่า 1.49 หมื่นล้านดอลลาร์ โดยให้เหตุผลด้านความมั่นคงแห่งชาติ ส่งผลให้หุ้นของยูเอส สตีลร่วงลง 6.5%


  • รองเลขาธิการคณะกรรมการเพื่อการพัฒนาและปฏิรูปแห่งชาติจีน (NDRC) เปิดเผยว่า จีนเตรียมระดมทุนผ่านการออกพันธบัตรรัฐบาลระยะยาวพิเศษในปริมาณมหาศาลในปี 2568 เพื่อกระตุ้นการลงทุนภาคธุรกิจและการบริโภค สะท้อนความมุ่งมั่นของรัฐบาลจีนในการฟื้นฟูเศรษฐกิจที่กำลังชะลอตัว


  • สำนักข่าวเกียวโดเปิดเผยผลว่า เกือบ 80% ของบริษัทขนาดใหญ่ในญี่ปุ่นคาดการณ์ว่าเศรษฐกิจภายในประเทศจะขยายตัวต่อเนื่องในปี 2568 และยังคงมีมุมมองเชิงบวกต่อความคืบหน้าของการปรับขึ้นค่าจ้างและการฟื้นตัวด้านการใช้จ่ายของผู้บริโภค


ข่าวเกี่ยวกับน้ำมัน


  • สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกในวันศุกร์ และปิดบวกในรอบสัปดาห์นี้ โดยได้รับแรงหนุนจากสภาพอากาศที่หนาวเย็นในยุโรปและสหรัฐฯ รวมถึงการที่จีนส่งสัญญาณกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม


  • สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.พ. เพิ่มขึ้น 83 เซนต์ หรือ 1.13% ปิดที่ 73.96 ดอลลาร์/บาร์เรล ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 11 ต.ค.
  • สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนมี.ค. เพิ่มขึ้น 58 เซนต์ หรือ 0.76% ปิดที่ 76.51 ดอลลาร์/บาร์เรล ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 14 ต.ค.


  • ในรอบสัปดาห์นี้ ราคาน้ำมันดิบ WTI เพิ่มขึ้น 5% และราคาน้ำมันดิบเบรนท์ปรับตัวขึ้น 3.3%


  • นักลงทุนมีความหวังว่า จีนจะออกมาตรการเพื่อกระตุ้นการเติบโตของเศรษฐกิจ โดยจีนเป็นประเทศผู้นำเข้าน้ำมันรายใหญ่ที่สุดของโลก


  • จีนประกาศมาตรการใหม่ในสัปดาห์ที่ผ่านมา เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ ซึ่งรวมถึงการปรับขึ้นค่าแรงสำหรับข้าราชการอย่างไม่คาดคิด และการประกาศเพิ่มการระดมทุนอย่างมากจากการออกพันธบัตรรัฐบาลระยะยาว เพื่อนำไปใช้ในการกระตุ้นการลงทุนของภาคธุรกิจและส่งเสริมการใช้จ่ายของผู้บริโภค


  • ราคาน้ำมันมีแนวโน้มได้แรงหนุนจากความต้องการน้ำมันสำหรับทำความร้อนเพิ่มขึ้น หลังจากมีการพยากรณ์อากาศที่หนาวเย็นในบางภูมิภาค


  • นอกจากนี้ อีกปัจจัยหนึ่งที่ช่วยหนุนราคาน้ำมันคือข้อมูลจากสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐฯ (EIA) ที่บ่งชี้ว่า สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐฯ ลดลง 1.2 ล้านบาร์เรล สู่ระดับ 415.6 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่ผ่านมา


ข่าวเกี่ยวกับการเมือง


  • ประธานาธิบดีโวโลดิเมียร์ เซเลนสกี ของยูเครน เปิดเผยว่า รัสเซียสูญเสียทหารเกาหลีเหนือไปแล้วหนึ่งกองพันในช่วงสองวันที่ผ่านมา ในเขตชายแดนภูมิภาคเคิร์สก์ทางตะวันตก


  • กระทรวงกลาโหมรัสเซีย ให้คำมั่นว่า จะดำเนินการตอบโต้ยูเครน กรณีที่ยิงขีปนาวุธทางยุทธวิธี (ATACMS missiles) ของสหรัฐฯ โจมตีเข้าไปในแคว้นเบลโกรอด ทางตอนใต้ของประเทศ ซึ่งมีพรมแดนติดกับยูเครนเมื่อวันที่ 3 มกราคม ที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม กระทรวงกลาโหมรัสเซีย อ้างว่า กองทัพรัสเซียสามารถทำลายขีปนาวุธเหล่านี้ได้สำเร็จ


  • กองทัพอากาศอิสราเอลเปิดเผยว่าได้โจมตี เป้าหมายก่อการร้ายมากกว่า 100 แห่งในฉนวนกาซาเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ชิน เบต-เจ้าหน้าที่หน่วยข่าวกรองภายในประเทศของอิสราเอลประกาศเมื่อเช้าวันอาทิตย์ ผู้ก่อการร้ายหลายสิบคนจากกลุ่มฮามาสถูกกำจัดและนี่คือการตอบโต้ของทหารต่อการโจมตีของกลุ่มฮามาส


  • สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานอ้างการเปิดเผยของเจ้าหน้าที่สหรัฐฯ 2 รายว่า คณะบริหารของประธานาธิบดีโจ ไบเดน ได้แจ้งต่อสภาคองเกรสถึงข้อเสนอขายอาวุธมูลค่า 8 พันล้านดอลลาร์ให้แก่อิสราเอล


  • กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ เปิดเผยว่า แอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ จะเดินทางไปเยือนเกาหลีใต้ ญี่ปุ่น และฝรั่งเศสระหว่างวันที่ 4-9 ม.ค.นี้ ท่ามกลางวิกฤตทางการเมืองในเกาหลีใต้


ข่าวเกี่ยวกับเศรษฐกิจไทยและค่าเงินบาท


  • นักบริหารการเงิน เปิดเผยว่า ค่าเงินบาทเปิดเช้านี้ ที่ระดับ 34.49 บาทต่อดอลลาร์อ่อนค่าลงเล็กน้อย แทบไม่เปลี่ยนแปลงจากระดับปิดสัปดาห์ก่อนหน้า ที่ระดับ  34.46 บาทต่อดอลลาร์ มองกรอบค่าเงินบาทสัปดาห์นี้ ที่ระดับ 34.00 - 35.00 บาทต่อดอลลาร์ ส่วนกรอบเงินบาทในวันนี้ คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 34.40-34.60 บาทต่อดอลลาร์


  • มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยว่า คาดสงครามการค้ารุนแรงครึ่งปีหลัง หากมีการใช้กำแพงภาษีนำเข้าตอบโต้กันในวงกว้าง โดยเริ่มจากภาษีนำเข้าของรัฐบาลทรัมป์และจีนตอบโต้ในระดับเดียวกันระบบการผลิตห่วงโซ่อุปทานและระบบการค้าโลกจะแยกส่วนออกจากกันมากยิ่งขึ้น




ที่มาจาก : Reuters, Infoquest, BangkokBizNews

Tags : ข่าวทอง, ข่าวทอง , ทอง , ราคาทอง

บริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ จำกัด
40,42,44 ถนนทรัพย์สิน แขวงวังบูรพาภิรมย์เขตพระนคร กรุงเทพ 10200
โทรศัพท์ 0 2770 7777 โทรสาร 0 2623 9366 E-mail: support@mtsgoldgroup.com