MTS Help Center

ข่าวเกี่ยวกับทองคำ

• สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกในวันอังคาร โดยได้ปัจจัยหนุนจากรายงานที่ว่าธนาคารกลางจีนได้เข้าซื้อทองคำติดต่อกันเป็นเดือนที่ 2 อย่างไรก็ดี การแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์และการพุ่งขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรส่งผลให้ราคาทองคำลดช่วงบวก

• ราคาทองคำตลาดโลก ปรับตัวขึ้น 12.72 เหรียญ หรือ 0.48% อยู่ที่ระดับ 2,648.69 เหรียญ
• สัญญาทองคำตลาด COMEX ส่งมอบเดือนก.พ. เพิ่มขึ้น 18.00 เหรียญ หรือ 0.68% ปิดที่ 2,665.40 เหรียญ
• กองทุนทองคำ SPDR วันก่อนหน้าไม่เปลี่ยนแปลง ปัจจุบันถือครองที่ 871.08 ตันภาพรวมเดือนมกราคม ขายสุทธิ 1.44 ตัน ขณะที่ปีนี้ ตั้งแต่ 1 ม.ค. - ปัจจุบัน ขายสุทธิ 1.44 ตัน

• ธนาคารกลางจีน (PBOC) ได้เข้าซื้อทองคำเป็นเดือนที่ 2 ติดต่อกัน ส่งผลให้จีนมีปริมาณทองคำสำรองเพิ่มขึ้นแตะระดับ 73.29 ล้านออนซ์ในเดือนธ.ค. 2567 จากระดับ 72.96 ล้านออนซ์ในเดือนพ.ย. โดย PBOC เริ่มกลับมาซื้อทองคำเข้าทุนสำรองอีกครั้งในเดือนพ.ย. หลังจากหยุดพักไปเป็นเวลา 6 เดือน

• อย่างไรก็ดี ราคาทองคำถูกกดดันจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์และการพุ่งขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตร โดยดัชนีดอลลาร์ ปรับตัวขึ้นแตะระดับ 108.549 และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ อายุ 10 ปี พุ่งขึ้นแตะระดับ 4.699% ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 26 เม.ย. 2567

ข่าวเกี่ยวกับค่าเงิน และธนาคารกลาง

• ดัชนีดอลลาร์ ปรับตัวขึ้น 0.31 จุด หรือ 0.29% มาอยู่ที่ระดับ 108.65 จุด
• อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี ปรับตัวขึ้น 0.05 % มาอยู่ที่ระดับ 4.677% ในขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 2 ปี ปรับตัวขึ้น 0.0 % มาอยู่ที่ระดับ 4.283% โดยที่ส่วนต่างอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ 10 ปี มากกว่า 2 ปี เท่ากับ0.39%

• รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังญี่ปุ่นออกมาเตือนนักเก็งกำไรที่เทขายเงินเยนอีกครั้ง หลังเงินเยนอ่อนค่าใกล้ระดับ 160 เยนต่อดอลลาร์ ซึ่งเป็นระดับที่เคยทำให้ทางการต้องเข้าแทรกแซงตลาดด้วยการซื้อเงินเยนเมื่อครึ่งปีก่อน

ข่าวเกี่ยวกับตลาดหุ้นและเศรษฐกิจ

• ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบในวันอังคาร เนื่องจากข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐฯ ทำให้นักลงทุนวิตกกังวลว่าเงินเฟ้อจะปรับตัวสูงขึ้นและอาจทำให้ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ชะลอการปรับลดอัตราดอกเบี้ย

• ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 42,528.36 จุด ลดลง 178.20 จุด หรือ -0.42%
• ดัชนี S&P500 ปิดที่ 5,909.03 จุด ลดลง 66.35 จุด หรือ -1.11% 
• ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 19,489.68 จุด ลดลง 375.30 จุด หรือ -1.89%

• ในช่วงแรก ดัชนีดาวโจนส์เคลื่อนไหวในแดนบวก ก่อนที่จะปิดตลาดปรับตัวลง หลังจากกระทรวงแรงงานสหรัฐฯ เปิดผยผลสำรวจการเปิดรับสมัครงานและอัตราการหมุนเวียนของแรงงาน (JOLTS) พบว่า ตัวเลขการเปิดรับสมัครงานซึ่งเป็นมาตรวัดอุปสงค์ในตลาดแรงงาน เพิ่มขึ้น 259,000 ตำแหน่ง สู่ระดับ 8.098 ล้านตำแหน่งในเดือนพ.ย. จากระดับ 7.839 ล้านตำแหน่งในเดือนต.ค. และสูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 7.70 ล้านตำแหน่ง

• ทางด้านสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) เปิดเผยว่า ดัชนีภาคบริการของสหรัฐปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 54.1 ในเดือนธ.ค. จากระดับ 52.1 ในเดือนพ.ย. และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 53.3

• สัญญาณที่บ่งชี้ว่าเศรษฐกิจยังคงแข็งแกร่งได้ส่งผลให้การคาดการณ์เกี่ยวกับช่วงเวลาที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยครั้งแรกในปีนี้ถูกเลื่อนออกไป โดยเครื่องมือ FedWatch ของ CME Group ระบุว่า นักลงทุนคาดการณ์ว่าการปรับลดอัตราดอกเบี้ยครั้งต่อไปมีแนวโน้มจะเกิดขึ้นในเดือนมิ.ย. และจากนั้นเฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยไว้จนถึงสิ้นปี 2568

• หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของ Comerica Bank กล่าวว่า บรรยากาศการซื้อขายในตลาดยังได้รับแรงกดดันจากความกังวลที่ว่า มาตรการเรียกเก็บภาษีนำเข้าของโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ จะส่งผลให้เงินเฟ้อปรับตัวขึ้นอีก โดยเศรษฐกิจที่เติบโตอย่างแข็งแกร่งและแรงกดดันด้านเงินเฟ้อครั้งใหม่ที่เกิดจากมาตรการภาษีนำเข้านั้น อาจจะส่งผลให้เฟดเปลี่ยนใจจากการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมทุกครั้ง เป็นการหยุดพักการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในปีนี้”

• ผลสำรวจจากภาคเอกชนชี้ว่า จำนวนบ้านที่ถูกยึดในจีนเพิ่มสูงขึ้นในปี 2567 เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า ตอกย้ำความกังวลเกี่ยวกับปัญหาการผิดนัดชำระหนี้บ้าน ท่ามกลางภาวะตลาดอสังหาริมทรัพย์ที่ซบเซาและการเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างไม่สมดุล

• ฮาลิแฟกซ์ (Halifax) ผู้ให้กู้จำนองรายใหญ่ของสหราชอาณาจักร (UK) เปิดเผยว่า ราคาบ้านใน UK ปรับตัวลดลงในเดือนธ.ค. 2567 ซึ่งเป็นการลดลงครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนมี.ค. แต่ปรับตัวสูงขึ้นเมื่อเทียบกับเดือนธ.ค. 2566

ข่าวเกี่ยวกับน้ำมัน

• สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกในวันอังคาร โดยได้แรงหนุนจากการคาดการณ์ที่ว่าอุปทานน้ำมันในตลาดจะอยู่ในภาวะตึงตัว เนื่องจากชาติตะวันตกมีแนวโน้มที่จะใช้มาตรการคว่ำบาตรน้ำมันจากอิหร่านและรัสเซีย นอกจากนี้ ราคาน้ำมันยังได้ปัจจัยบวกจากความหวังที่ว่าอุปสงค์น้ำมันในจีนจะปรับตัวสูงขึ้น

• สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.พ. เพิ่มขึ้น 69 เซนต์ หรือ 0.94% ปิดที่ 74.25 ดอลลาร์/บาร์เรล
• สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนมี.ค. เพิ่มขึ้น 75 เซนต์ หรือ 0.98% ปิดที่ 77.05 ดอลลาร์/บาร์เรล

• นักลงทุนมองว่ามาตรการคว่ำบาตรที่ทำให้อุปทานน้ำมันอยู่ในภาวะตึงตัวนั้น ส่งผลความต้องการน้ำมันจากตะวันออกกลางปรับตัวสูงขึ้น ซึ่งสะท้อนให้เห็นจากการที่ซาอุดีอาระเบียปรับขึ้นราคาน้ำมันเดือนก.พ.สำหรับลูกค้าในเอเชีย ซึ่งเป็นการปรับขึ้นครั้งแรกในรอบสามเดือน

• นอกจากนี้มีรายงานว่า บริษัทชานตง พอร์ท กรุ๊ป (Shandong Port Group) ของจีน ประกาศห้ามเรือขนส่งน้ำมันที่ถูกสหรัฐฯ คว่ำบาตรเข้าเทียบท่าเรือที่อยู่ในเครือข่ายของบริษัท ส่งผลให้เรือน้ำมันที่ถูกขึ้นบัญชีดำไม่สามารถขนส่งน้ำมันทางชายฝั่งตะวันออกของจีน

• สถาบันปิโตรเลียมอเมริกา (API) เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐฯ ปรับตัวลง 4.02 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 31 ธ.ค. ขณะที่นักลงทุนจับตาตัวเลขสต็อกน้ำมันดิบอย่างเป็นทางการจากสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) ในวันนี้

ข่าวเกี่ยวกับการเมือง

• การตัดสินใจของประธานาธิบดีโจ ไบเดนแห่งสหรัฐฯ ที่จะระงับข้อเสนอซื้อกิจการยูเอส สตีล (U.S. Steel) มูลค่า 1.49 หมื่นล้านดอลลาร์ของบริษัทนิปปอน สตีล (Nippon Steel) ได้สร้างความอึมครึมในการเยือนญี่ปุ่นของรัฐมนตรีต่างประเทศ แอนโทนี บลิงเคน ในเมื่อวานนี้ ซึ่งเป็นการพบปะเพื่ออำลาประเทศพันธมิตรที่สำคัญที่สุดของสหรัฐฯ ในเอเชีย

• รัฐมนตรีต่างประเทศของไต้หวันให้คำมั่นว่าจะตอบสนองต่อคำเรียกร้องของโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ให้เพิ่มงบประมาณด้านการทหาร พร้อมเน้นย้ำถึงความจำเป็นของห่วงโซ่อุปทานประชาธิปไตย (democratic supply chain)

• โดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ มีกำหนดจะประชุมกับวุฒิสมาชิกพรรครีพับลิกันในวันนี้ ขณะที่ทรัมป์เรียกร้องให้มีการรวบรวมเป้าหมายสำคัญต่าง ๆ ของเขาไว้ในร่างกฎหมายขนาดใหญ่ฉบับเดียวจะช่วยลดภาษี เสริมสร้างความมั่นคงที่ชายแดน และเพิ่มการผลิตพลังงานภายในประเทศ เขากล่าวว่าสมาชิกพรรครีพับลิกันสามารถครอบคลุมต้นทุนซึ่งอาจสูงถึงหลายล้านล้านดอลลาร์ได้ด้วยการขึ้นภาษีนำเข้าสินค้า

• กลุ่มฮามาสออกแถลงการณ์ในวันนี้ระบุว่า การปล่อยตัวประกันจะเกิดขึ้นก็ต่อเมื่ออิสราเอลยุติการทำสงครามโดยสิ้นเชิง และถอนกำลังทหารทั้งหมดออกจากฉนวนกาซา อย่างไรก็ดี อิสราเอลยืนยันว่าจะไม่ยุติสงครามจนกว่าฮามาสจะถูกกำจัด และตัวประกันทั้งหมดได้รับการปล่อยตัว ทั้งนี้ อิสราเอลและฮามาสต่างกล่าวหาแต่ละฝ่ายว่าเป็นอุปสรรคต่อการทำข้อตกลงหยุดยิง

ข่าวเกี่ยวกับเศรษฐกิจไทยและค่าเงินบาท

• นักบริหารการเงิน เปิดเผยว่า ค่าเงินบาทเปิดเช้านี้ ที่ระดับ  34.57 บาทต่อดอลลาร์ “อ่อนค่าลงเล็กน้อย” จากระดับปิดวันที่ผ่านมา ที่ระดับ  34.48 บาทต่อดอลลาร์ มองกรอบเงินบาทในวันนี้ คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 34.45-34.70 บาทต่อดอลลาร์

• รมช.คลัง กล่าวว่า พ.ร.ก.เก็บภาษีส่วนเพิ่ม พ.ศ. 2567 แก่นิติบุคคลข้ามชาติ (Multinational Enterprises : MNEs) ซึ่งมีผลบังคับใช้แล้ว โดยเป็นการจัดเก็บภาษีขั้นต่ำจากบริษัทข้ามชาติ (Global Minimum Tax) ในอัตราที่กำหนด 15% ตามหลักการของ pillar 2 ซึ่งเป็นกติกากลางที่องค์การเพื่อความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการพัฒนา (OECD) ออกมานั้น คาดว่าจะช่วยให้รัฐบาลสามารถจัดเก็บภาษีได้อย่างน้อย 12,000 ล้านบาท โดยยืนยันว่า มาตรการภาษีดังกล่าว ไม่ได้ส่งผลกระทบกับการลงทุนในตลาดหุ้นไทย

• รมช.คลัง กล่าวถึงกรณีอัตราเงินเฟ้อทั้งปี 2567 อยู่ที่ 0.40% ว่า มีความกังวล เพราะเป็นตัวเลขที่ไม่น่าพึงพอใจ เนื่องจากยังต่ำกว่ากรอบเป้าหมายที่ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กำหนดไว้ที่ 1-3% ค่อนข้างมาก พร้อมเห็นว่า กระทรวงการคลัง และ ธปท. จำเป็นจะต้องทำงานร่วมกันให้มากขึ้น

• สภาผู้ส่งออก คาดส่งออกของไทยในเดือน ธ.ค.67 ขยายตัวได้กว่า 4.5% ซึ่งเป็นผลจากความร่วมมือของทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องในการผลักดันการส่งออกในช่วงโค้งสุดท้าย ส่งผลให้การส่งออกทั้งปี 67 ขยายตัวได้ 4.5-5% เกินกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ก่อนหน้านี้

• รมช.คลัง ยืนยันว่า โครงการแจกเงิน 10,000 บาท เฟส 2 สามารถจ่ายเงินได้ในช่วงตรุษจีนปีนี้ หรือภายในไม่เกินวันที่ 29 ม.ค.68

 

 

ที่มาจาก : Reuters, Infoquest, BangkokBizNews

Tags : ข่าวทอง, ข่าวทอง , ทอง , ราคาทอง