• สรุปข่าวราคาทองคำ ประจำวันที่ 20 มกราคม 2568

    20 มกราคม 2568 | Gold News

ข่าวเกี่ยวกับทองคำ

  • สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดลดลงในวันศุกร์ โดยถูกกดดันจากการแข็งค่าขึ้นของดอลลาร์สหรัฐ แต่ราคาทองคำยังคงปรับตัวขึ้นได้ในรอบสัปดาห์นี้ เนื่องจากความไม่แน่นอนเกี่ยวกับนโยบายของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ 
  • ทั้งนี้ สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนก.พ. ลดลง 2.2 ดอลลาร์ หรือ 0.1% ปิดที่ 2,748.70 ดอลลาร์/ออนซ์
  • ราคาทองคำตลาดโลก ปรับตัวลดลง -10.0 เหรียญ หรือ -0.37% อยู่ที่ระดับ 2,693.0 เหรียญ
  • กองทุนทองคำ SPDR วันก่อนหน้าซื้อเข้า 10.34 ตัน ปัจจุบันถือครองที่ 879.12 ตันภาพรวมเดือนมกราคม ซื้อสุทธิ 6.6 ตัน ขณะที่ปีนี้ ตั้งแต่ 1 ม.ค. - ปัจจุบัน ซื้อสุทธิ 6.6 ตัน
  • บรรดานักลงทุนคาดการณ์ว่าจะมีการลดอัตราดอกเบี้ยสองครั้งภายในสิ้นปีนี้ โดยคริสโตเฟอร์ วอลเลอร์ ผู้ว่าการเฟดได้บ่งชี้ถึงความเป็นไปได้ที่เฟดจะลดดอกเบี้ยลงมากขึ้น หากข้อมูลเศรษฐกิจอ่อนแอลงอีก
  • ตลาดกำลังรอคอยการสาบานตนของทรัมป์ในวันนี้ และคาดว่าภาษีการค้าของทรัมป์จะกระตุ้นให้เงินเฟ้อเพิ่มขึ้นและทำให้เกิดสงครามการค้า ซึ่งอาจทำให้ทองคำมีความน่าสนใจในฐานะเป็นแหล่งลงทุนที่ปลอดภัย
  • นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดการณ์ราคาทองคำพุ่ง จากการสำรวจของ Kitco News Gold Survey พบว่า นักวิเคราะห์ (64%) มองว่าราคาทองคำจะปรับตัวสูงขึ้นในสัปดาห์นี้ ขณะที่มีเพียง 18% เท่านั้นที่คาดการณ์ว่าราคาจะลดลง
  • ขณะที่ด้านนักลงทุนรายย่อย ก็มีความเห็นไปในทางเดียวกัน ผลสำรวจของ Kitco  News ชี้ว่า นักลงทุนรายย่อยกว่า 64%  คาดการณ์ราคาทองคำปรับตัวสูงขึ้นเช่นกัน  โดยมีเพียง 22% ที่มองว่าราคาจะลดลง
  • ผู้เชี่ยวชาญคาดการณ์ราคาทองคำจะทรงตัวในสัปดาห์หน้า โดย ริช เช็คแกน จาก Asset Strategies International  กล่าวว่า ตลาดกำลังรอดูท่าทีและนโยบายของประธานาธิบดีทรัมป์ ซึ่งต้องใช้เวลามากกว่าหนึ่งสัปดาห์ในการประเมินผลกระทบต่อเศรษฐกิจ
  • อย่างไรก็ตาม ทางด้าน Bart Melek จาก TD Securities ให้ความเห็น มีความเป็นไปได้ที่ราคาทองคำอาจปรับตัวลดลงเล็กน้อย หากทรัมป์เน้นนโยบายภาษี ซึ่งอาจนำไปสู่เงินเฟ้อที่สูงขึ้น และธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ตอบสนองด้วยการขึ้นอัตราดอกเบี้ย  
  • James Stanley จาก Forex.com ชี้ว่า แม้ราคาอาจลดลง แต่แนวโน้มระยะยาวยังคงเป็นบวก ราคาทองคำเพิ่งทะลุแนวต้านสำคัญ และแม้จะทดสอบแนวต้านที่ 2,721 ดอลลาร์ต่อออนซ์ถึงสามครั้งแล้ว แต่การย่อตัวลงอาจเป็นโอกาสในการเข้าซื้อ

ข่าวเกี่ยวกับค่าเงิน และธนาคารกลาง

  • ดัชนีดอลลาร์ ปรับตัวขึ้น 0.34 จุด หรือ 0.31% มาอยู่ที่ระดับ 109.29 จุด
  • อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี ปรับตัวขึ้น 0.01 % มาอยู่ที่ระดับ 4.623% ในขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 2 ปี ปรับตัวขึ้น 0.05 % มาอยู่ที่ระดับ 4.283% โดยที่ส่วนต่างอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ 10 ปี มากกว่า 2 ปี เท่ากับ0.34%

ข่าวเกี่ยวกับตลาดหุ้นและเศรษฐกิจ

  • ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกในวันศุกร์ และปิดตลาดได้อย่างแข็งแกร่งในสัปดาห์นี้ ท่ามกลางความเชื่อมั่นเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจและทิศทางอัตราดอกเบี้ย ขณะที่นักลงทุนเตรียมตัวรับการเปลี่ยนแปลงนโยบายภายใต้รัฐบาลชุดใหม่ของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์
  • ทั้งนี้ ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 43,487.83 จุด เพิ่มขึ้น 334.70 จุด หรือ +0.78%, 
  • ดัชนี S&P500 ปิดที่ 5,996.66 จุด เพิ่มขึ้น 59.32 จุด หรือ +1.00% 
  • ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 19,630.20 จุด เพิ่มขึ้น 291.91 จุด หรือ +1.51%
  • ดัชนีดาวโจนส์และ S&P500 ทำสถิติการเพิ่มขึ้นรายสัปดาห์เป็นเปอร์เซ็นต์สูงสุดนับตั้งแต่ต้นเดือนพ.ย. และดัชนี Nasdaq ทำสถิติสูงสุดนับตั้งแต่ต้นเดือนธ.ค. เนื่องจากการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจในสัปดาห์นี้ช่วยลดความกังวลเกี่ยวกับเงินเฟ้อ ขณะเดียวกัน นักลงทุนมีความคาดหวังเพิ่มขึ้นว่า ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) อาจเพิ่มเวลาและขนาดของการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในปีนี้
  • โดนัลด์ ทรัมป์ จะเข้าพิธีสาบานตนเพื่อรับตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ในวันจันทร์นี้ ซึ่งตรงกับวันหยุดของตลาดสหรัฐฯ เนื่องในวันมาร์ติน ลูเธอร์ คิง จูเนียร์

 

ข่าวเกี่ยวกับน้ำมัน



  • สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดลดลงในวันศุกร์ แต่ยังคงปรับตัวขึ้นติดต่อกันเป็นสัปดาห์ที่ 4 เนื่องจากมาตรการคว่ำบาตรล่าสุดของสหรัฐฯ ต่อการค้าพลังงานของรัสเซียได้เพิ่มความวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะชะงักงันของอุปทานน้ำมัน
  • ทั้งนี้ สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.พ. ลดลง 80 เซนต์ หรือ 1% ปิดที่ 77.88 ดอลลาร์/บาร์เรล
  • ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนมี.ค. ลดลง 50 เซนต์ หรือ 0.6% ปิดที่ 80.79 ดอลลาร์/บาร์เรล
  • บรรดานักลงทุนกำลังประเมินผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นจากการกลับมาดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ อีกสมัยของโดนัลด์ ทรัมป์ โดยผู้ที่ถูกเลือกให้เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังของทรัมป์กล่าวว่า เขาพร้อมที่จะกำหนดมาตรการคว่ำบาตรที่เข้มงวดขึ้นต่อการค้าขายน้ำมันของรัสเซีย
  • อย่างไรก็ตาม การคาดการณ์ที่ว่าจะมีการหยุดการโจมตีของกลุ่มฮูตีในเยเมนต่อเรือในทะเลแดง หลังจากมีการทำข้อตกลงหยุดยิงในกาซานั้น ได้ถ่วงราคาน้ำมันลง
  • การโจมตีของกลุ่มฮูตีได้ขัดขวางการเดินเรือทั่วโลก ทำให้เรือต้องเดินทางไกลและมีค่าใช้จ่ายสูงขึ้นโดยต้องอ้อมไปรอบๆ ทวีปแอฟริกาใต้มาเป็นเวลากว่า 1 ปี
  • บรรดานักลงทุนกำลังประเมินข้อมูลใหม่จากจีนซึ่งเป็นผู้นำเข้าน้ำมันรายใหญ่ที่สุดในโลก โดยเศรษฐกิจของจีนสามารถบรรลุเป้าหมายการเติบโตที่ 5% ที่รัฐบาลตั้งเป้าไว้ในปีที่ผ่านมา
  • อย่างไรก็ตาม การกลั่นน้ำมันของจีนในปี 2567 ลดลงเป็นครั้งแรกในรอบมากกว่า 20 ปี โดยรัฐบาลจีนเปิดเผยเมื่อวันศุกร์ว่า โรงกลั่นน้ำมันได้ปรับลดการดำเนินงานเพื่อรับมือกับความต้องการเชื้อเพลิงที่ซบเซาและค่าการกลั่นที่ลดลง

 

ข่าวเกี่ยวกับการเมือง

  • การบังคับใช้ข้อตกลงหยุดยิงในฉนวนกาซาที่มีกำหนดเกิดขึ้นเมื่อวานนี้วันที่ 19 ม.ค.ต้องล่าช้าออกไป เนื่องจากอิสราเอลกล่าวหากลุ่มฮามาสว่าไม่ปฏิบัติตามเงื่อนไขที่กำหนดไว้อย่างเคร่งครัด โดยเฉพาะการส่งรายชื่อตัวประกันที่จะได้รับการปล่อยตัวชุดแรกให้อิสราเอล ด้านกลุ่มฮามาสอ้าง เลื่อนบังคับใช้ข้อตกลงหยุดยิงเนื่องจากเหตุขัดข้องทางเทคนิคภาคสนาม แต่ล่าสุด เปิดเผยรายชื่อตัวประกันชุดแรกที่ได้รับการปล่อยตัวแล้ว

ข่าวเกี่ยวกับเศรษฐกิจไทยและค่าเงินบาท

  • นักกลยุทธ์ตลาดเงินตลาดทุน Krungthai GLOBAL MARKETS ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่า ค่าเงินบาทเปิดเช้านี้ ที่ระดับ  34.48 บาทต่อดอลลาร์อ่อนค่าลงเล็กน้อย แทบไม่เปลี่ยนแปลงจากระดับปิดสัปดาห์ก่อนหน้า ที่ระดับ  34.46 บาทต่อดอลลาร์  มองกรอบค่าเงินบาทสัปดาห์นี้ ที่ระดับ 34.15- 35.00 บาทต่อดอลลาร์ ส่วนกรอบเงินบาทวันนี้ คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 34.35-34.55 บาทต่อดอลลาร์ 

 

  • หรือสภาพัฒน์ กล่าวในงานสัมมนา “CIO Forum 2025” หัวข้อ “Thai Economic Outlook 2025” โดยระบุว่า สภาพัฒน์ประเมินว่าในปี 2568 เศรษฐกิจไทยจะเติบโตได้ในกรอบ 2.3-3.3% หรือค่ากลางที่ 2.8% โดยมีแรงขับเคลื่อนจาก 4 ปัจจัยหลัก ได้แก่ 1.การลงทุนของภาครัฐ 2.การบริโภคภาคเอกชน 3.การท่องเที่ยว และ 4. การส่งออก

 

 

ที่มาจาก : yahoo finance, Reuters, kitco news, investing, Infoquest

Tags : ข่าวทอง, ข่าวทอง , ทอง , ราคาทอง

 

บริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ จำกัด
40,42,44 ถนนทรัพย์สิน แขวงวังบูรพาภิรมย์เขตพระนคร กรุงเทพ 10200
โทรศัพท์ 0 2770 7777 โทรสาร 0 2623 9366 E-mail: support@mtsgoldgroup.com