• สรุปข่าวราคาทองคำ ประจำวันที่ 29 มกราคม 2568

    29 มกราคม 2568 | Gold News


สรุปตัวเลขเศรษฐกิจเมื่อคืน


  • ยอดคำสั่งซื้อสินค้าคงทน ออกมาที่ 0.3% ต่ำกว่าคาดการณ์เล็กน้อยที่ 0.4% แต่ยังคงสูงกว่าครั้งก่อนที่ -0.2% ออกมาที่ -2.2% 
  • คำสั่งซื้อสินค้าคงทน ออกมาที่ -2.2% ต่ำกว่าคาดการณ์ที่ 0.3% และครั้งก่อนที่ -1.2%
  • ด้านรายงานความเชื่อมั่นผู้บริโภค ออกมาที่ 104.1 ต่ำกว่าคาดการณ์ ที่105.7และครั้งก่อนที่ 109.5
  • ขณะที่ รายงานดัชนีภาคการผลิต รัฐริชมอนด์ ออกมาที่ -4 ปรับตัวสูงขึ้นจากคาดการณ์ที่ -13 และครั้งก่อนที่ -10
  • ภาพรวมตัวเลขเศรษฐกิจที่ออกมาผสมผสาน ทั้งต่ำและสูงกว่าคาดการณ์ ยังคงทำให้ดัชนีดอลลาร์ทรงตัวที่ระดับ 107.9 จุด แต่ด้านราคาทองคำยังคงได้แรงบวกขยับตัวขึ้น +$22 ปิดที่ $2,763.4 


ข่าวเกี่ยวกับทองคำ


  • สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกในวันอังคาร โดยได้แรงหนุนจากการที่นักลงทุนเข้าซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย ท่ามกลางความไม่แน่นอนเกี่ยวกับมาตรการภาษีศุลกากรของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ และนักลงทุนจับตาผลการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ในวันนี้ รวมทั้งจับตาถ้อยแถลงของเจอโรม พาวเวล ประธานเฟด เพื่อหาสัญญาณบ่งชี้ทิศทางอัตราดอกเบี้ยของเฟดในปีนี้


  • ราคาทองคำตลาดโลก ปรับตัวขึ้น 24.88 เหรียญ หรือ 0.91% อยู่ที่ระดับ 2,765.76 เหรียญ
  • สัญญาทองคำตลาด COMEX ส่งมอบเดือนก.พ. เพิ่มขึ้น 29.10 ดอลลาร์ หรือ 1.06% ปิดที่ 2,767.50 ดอลลาร์/ออนซ์
  • กองทุนทองคำ SPDR วันก่อนหน้าซื้อเข้า 4.02 ตัน ปัจจุบันถือครองที่ 861.04 ตันภาพรวมเดือนมกราคม ขายสุทธิ 11.48 ตัน ขณะที่ปีนี้ ตั้งแต่ 1 ม.ค. - ปัจจุบัน ขายสุทธิ 11.48 ตัน


  • ปธน.ทรัมป์ได้ขู่ว่าจะเรียกเก็บภาษีสินค้าจำพวกชิปคอมพิวเตอร์ ยา และเหล็กที่นำเข้าจากต่างประเทศ เพื่อกดดันให้ผู้ผลิตสินค้าเหล่านี้ทำการผลิตในสหรัฐฯ


  • ขณะเดียวกันทำเนียบขาวระบุว่า ปธน.ทรัมป์ยังคงมีแผนที่จะเรียกเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากแคนาดาและเม็กซิโกในอัตรา 25% ในวันเสาร์นี้ และกำลังพิจารณาเรียกเก็บภาษีเพิ่มเติมจากจีน


  • ดาเนียล พาวิโลนิส นักกลยุทธ์ด้านการตลาดจากบริษัท RJO Futures กล่าวว่า การแสดงความเห็นของทรัมป์เป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้นักลงทุนเข้าซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย ส่วนปัจจัยอื่น ๆ ได้แก่สถานการณ์ด้านภูมิรัฐศาสตร์ และการคาดการณ์เงินเฟ้อ

ข่าวเกี่ยวกับค่าเงิน และธนาคารกลาง


  • ดัชนีดอลลาร์ ปรับตัวขึ้น 0.2 จุด หรือ 0.19% มาอยู่ที่ระดับ 107.92 จุด
  • อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี  ปรับตัวลดลง -0.03 % มาอยู่ที่ระดับ 4.524% ในขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 2 ปี ปรับตัวลดลง -0.03 % มาอยู่ที่ระดับ 4.187% โดยที่ส่วนต่างอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ 10 ปี มากกว่า 2 ปี เท่ากับ0.34%


  • วินเซนต์ เรนฮาร์ต หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของ BNY Investments และอดีตนักเศรษฐศาสตร์ระดับสูงของเฟด มองว่า เจอโรม พาวเวลล์ ประธานเฟด จะไม่ปล่อยให้แรงกดดันทางการเมืองจากอดีตประธานาธิบดีทรัมป์มาแทรกแซงการตัดสินใจด้านนโยบายการเงิน"


  • นักเศรษฐศาสตร์ส่วนใหญ่คาดการณ์ว่าการขึ้นภาษีศุลกากรในวงกว้างจะผลักดันอัตราเงินเฟ้อให้สูงขึ้นอีกเล็กน้อย เพียงไม่กี่สิบเปอร์เซ็นต์ ซึ่งแม้จะเป็นตัวเลขที่ไม่มากนัก แต่ก็อาจเพียงพอที่จะทำให้ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ชะลอการลดอัตราดอกเบี้ยออกไป อย่างไรก็ตาม การประเมินผลกระทบที่แท้จริงของมาตรการนี้ต่อเศรษฐกิจอาจต้องใช้เวลาหลายเดือน เนื่องจากขั้นตอนการกำหนดภาษีศุลกากรอย่างเป็นทางการยังคงอยู่ระหว่างดำเนินการ นักเศรษฐศาสตร์บางส่วนคาดการณ์ว่าผลกระทบที่ชัดเจนอาจปรากฏให้เห็นในปีหน้า


ข่าวเกี่ยวกับตลาดหุ้นและเศรษฐกิจ


  • ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกในวันอังคาร ขณะที่ดัชนี Nasdaq และ S&P500 ปิดในแดนบวกเช่นกัน โดยได้แรงหนุนจากการที่นักลงทุนช้อนซื้อหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องกับปัญญาประดิษฐ์ (AI) ซึ่งรวมถึงหุ้นอินวิเดีย (Nvidia) หลังจากหุ้นดังกล่าวร่วงลงอย่างหนักในวันจันทร์


  • ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 44,850.35 จุด เพิ่มขึ้น 136.77 จุด หรือ +0.31%
  • ดัชนี S&P500 ปิดที่ 6,067.70 จุด เพิ่มขึ้น 55.42 จุด หรือ +0.92% 
  • ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 19,733.59 จุด เพิ่มขึ้น 391.75 จุด หรือ +2.03%


  • ดัชนี Nasdaq ดีดตัวขึ้นกว่า 2% ขณะที่หุ้นอินวิเดียซึ่งเป็นผู้ผลิตชิป AI รายใหญ่ของสหรัฐฯ ปรับตัวขึ้น 8.9% โดยราคาหุ้นฟื้นตัวหลังจากที่ดิ่งลงรุนแรงถึง 17% ในวันจันทร์และส่งผลให้มูลค่าตามราคาตลาด (มาร์เก็ตแคป) ของบริษัททรุดตัวลงเกือบ 6 แสนล้านดอลลาร์ ทำสถิติปรับตัวลงในวันเดียวที่รุนแรงที่สุดเป็นประวัติการณ์


  • หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีในดัชนี S&P500 พุ่งขึ้น 3.6% ซึ่งเป็นการปรับตัวขึ้นในวันเดียวที่แข็งแกร่งที่สุดนับตั้งแต่วันที่ 31 ก.ค. 2567 ขณะที่ดัชนีหุ้นกลุ่มเซมิคอนดักเตอร์ ดีดตัวขึ้น 1.1%

ข่าวเกี่ยวกับน้ำมัน


  • สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกในวันอังคาร โดยราคาน้ำมันฟื้นตัวหลังจากดิ่งลงแตะระดับต่ำสุดในรอบหลายสัปดาห์ ขณะที่นักลงทุนจับตาผลกระทบจากการที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ วางแผนจะใช้มาตรการภาษีศุลกากรต่อแคนาดาและเม็กซิโกในสัปดาห์นี้


  • สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนมี.ค. เพิ่มขึ้น 60 เซนต์ หรือ 0.82% ปิดที่ 73.77 ดอลลาร์/บาร์เรล
  • สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนมี.ค. เพิ่มขึ้น 41 เซนต์ หรือ 0.53% ปิดที่ 77.49 ดอลลาร์/บาร์เรล


  • ทำเนียบขาวระบุว่า ปธน.ทรัมป์ยังคงมีแผนที่จะเรียกเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากแคนาดาและเม็กซิโกในอัตรา 25% ในวันเสาร์นี้ และกำลังพิจารณาเรียกเก็บภาษีเพิ่มเติมจากจีน


  • นักวิเคราะห์จากบริษัท Price Futures Group กล่าวว่า นักลงทุนมีท่าทีระมัดระวังต่อการแสดงความเห็นของปธน.ทรัมป์ โดยมาตรการภาษีศุลกากรอาจส่งผลกระทบต่อการไหลเวียนของผลิตภัณฑ์พลังงานข้ามพรมแดนสหรัฐฯ ที่ติดกับแคนาดาและเม็กซิโก


  • ส่วนสถานการณ์ในลิเบียนั้น กลุ่มผู้ประท้วงได้ทำการขัดขวางการขนส่งน้ำมันดิบที่ท่าเรือเอสไซเดอร์และราสลานูฟของลิเบีย ซึ่งอาจมีผลกระทบต่อการส่งออกน้ำมันจำนวน 450,000 บาร์เรล/วัน อย่างไรก็ดี ความกังวลในเรื่องดังกล่าวได้คลี่คลายลงหลังจากบริษัทเนชันแนล ออยล์ คอร์ปอเรชัน (NOC) ซึ่งเป็นบริษัทน้ำมันแห่งชาติของลิเบีย ระบุว่า การส่งออกน้ำมันเริ่มกลับมาปกติอีกครั้ง หลังมีการเจรจากับกลุ่มผู้ประท้วง


  • สถาบันปิโตรเลียมอเมริกา (API) รายงานว่า สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น 2.86 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 24 ม.ค. ขณะที่นักลงทุนจับตาตัวเลขสต็อกน้ำมันดิบอย่างเป็นทางการจากสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐฯ (EIA) ในวันนี้


  • สำนักงานบริหารพลังงานแห่งชาติของจีน (NEA) เปิดเผยว่า ผลผลิตน้ำมันดิบและก๊าซธรรมชาติของประเทศทะลุ 400 ล้านตันเทียบเท่าน้ำมัน (TOE) เป็นครั้งแรกในปี 2567 โดNEA ระบุว่า ผลผลิตน้ำมันดิบและก๊าซธรรมชาติของจีนยังคงเติบโตขึ้นอย่างแข็งแกร่งที่มากกว่า 10 ล้านตันต่อปีอย่างต่อเนื่องเป็นปีที่แปด


ข่าวเกี่ยวกับการเมือง


  • ทีมเจรจาข้อตกลงหยุดยิงอิสราเอล-ฮามาส เตรียมผลักดันการหารือในเฟสสอง ขณะที่ชาวปาเลสไตน์ผู้พลัดถิ่นจากสงคราม เริ่มเดินทางกลับบ้านของตนในกาซ่า ซิตี้ ในสัปดาห์นี้ และต้องพบกับสภาพความเสียหายหลังการต่อสู้ที่กินเวลานาน 15 เดือน


ข่าวเกี่ยวกับเศรษฐกิจไทยและค่าเงินบาท


  • ค่าเงินบาทเช้านี้ เปิดตลาดที่ระดับ 33.83 บาทต่อดอลลาร์แข็งค่าขึ้นจากราคาปิดตลาดเมื่อวานที่ระดับ 33.90 บาทต่อดอลลาร์




ที่มาจาก : yahoo finance, Reuters, kitco news, investing, Infoquest

Tags : ข่าวทอง, ข่าวทอง , ทอง , ราคาทอง

บริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ จำกัด
40,42,44 ถนนทรัพย์สิน แขวงวังบูรพาภิรมย์เขตพระนคร กรุงเทพ 10200
โทรศัพท์ 0 2770 7777 โทรสาร 0 2623 9366 E-mail: support@mtsgoldgroup.com