• สรุปข่าวราคาทองคำ ประจำวันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2568

    3 กุมภาพันธ์ 2568 | Gold News


สรุปตัวเลขเศรษฐกิจเมื่อคืนวันศุกร์


  • ดัชนีราคาค่าใช้จ่ายการบริโภคส่วนบุคคลพื้นฐาน (Core PCE) ออกมาตามคาดการณ์ ที่ 0.2% โดยเพิ่มขึ้นจากครั้งก่อนที่ 0.1% 
  • รวมถึง ดัชนีอัตราค่าจ้างแรงงาน สหรัฐ ออกมาตามคาดการณ์ที่ 0.9% โดยเพิ่มขึ้นจากครั้งก่อนที่ 0.8%
  • ขณะที่ ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อเขตชิคาโก ออกมาลดน้อยลงที่ 39.5 คาดการณ์ที่ 40.3 ครั้งก่อนที่ 36.9


  • โดยภาพรวม ตัวชี้วัดเงินเฟ้อ Core PCE ที่เฟดให้ความสำคัญยังคงอยู่ในระดับต่ำในเดือนธันวาคม ซึ่งสนับสนุนการลดอัตราดอกเบี้ย


ข่าวเกี่ยวกับทองคำ


  • สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดลดลงในวันศุกร์ จากแรงขายทำกำไร หลังราคาพุ่งทะลุระดับสำคัญที่ 2,800 ดอลลาร์ต่อออนซ์เป็นครั้งแรก โดยได้รับแรงหนุนจากการแห่ซื้อสินทรัพย์ปลอดภัยหลังจากคำขู่เรื่องภาษีของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เพิ่มความกังวลเกี่ยวกับการเติบโตของเศรษฐกิจทั่วโลกและแรงกดดันด้านเงินเฟ้อ


  • ราคาทองคำตลาดโลก ปรับตัวลดลง -11.15 เหรียญ หรือ -0.4% อยู่ที่ระดับ 2,783.28 เหรียญ
  • สัญญาทองคำตลาด COMEX ส่งมอบเดือนเม.ย. ลดลง 10.20 เหรียญ หรือ -0.36% ปิดที่ 2,835.00 เหรียญ
  • กองทุนทองคำ SPDR วันก่อนหน้าซื้อเข้า 0.58 ตัน ปัจจุบันถือครองที่ 864.77 ตันภาพรวมเดือนมกราคม ขายสุทธิ 7.75 ตัน ขณะที่ปีนี้ ตั้งแต่ 1 ม.ค. - ปัจจุบัน ขายสุทธิ 7.75 ตัน


  • นักกลยุทธ์ตลาดของ SIA Wealth Management มองว่าทองคำมีแนวโน้มสดใสในสัปดาห์นี้ หลังจากผ่านช่วงปรับฐานและทะลุจุดสูงสุดทำ ath มาได้  ด้านการเคลื่อนไหวทางเทคนิคบ่งชี้ถึงแนวโน้ม uptrend ขาขึ้น และที่น่าสนใจคือ ทองคำยังคงแข็งแกร่งแม้ดอลลาร์จะแข็งค่าขึ้นก็ตาม


  • Adrian Day Asset Management มองว่า ราคาทองคำปรับตัวสูงขึ้นอย่างมากในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา  โดยได้รับแรงหนุนจากความกังวล เกี่ยวกับนโยบายภาษีของสหรัฐฯ แม้ว่าผลกระทบอาจไม่รุนแรงเท่าที่กังวล  แต่ปัจจัยพื้นฐานที่ผลักดันราคาทองคำในช่วง 2 ปีที่ผ่านมายังคงอยู่


  • นักวิเคราะห์ตลาดอาวุโสจาก Barchart.com  มองว่าราคาทองคำจะยังคงปรับตัวสูงขึ้น  โดยความไม่แน่นอนจากนโยบายของรัฐบาลสหรัฐฯ จะยังคงอยู่  และมีแนวโน้มจะทวีความรุนแรงมากขึ้น  ซึ่งอาจนำไปสู่ความโกลาหลในตลาด 


  • ผลสำรวจ Kitco News Gold Survey เผยว่า นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่ (69%) คาดการณ์ว่าราคาทองคำจะปรับตัวสูงขึ้นในสัปดาห์นี้ แม้ความเชื่อมั่นจะลดลงเล็กน้อยเมื่อเทียบกับสัปดาห์ที่แล้ว มีเพียง (31%) ที่คาดการณ์ว่าราคาจะลดลง และไม่มีใครคาดการณ์ว่าราคาจะทรงตัว


ข่าวเกี่ยวกับค่าเงิน และธนาคารกลาง


  • ดัชนีดอลลาร์ ปรับตัวขึ้น 1.41 จุด หรือ 1.3% มาอยู่ที่ระดับ 109.57 จุด
  • อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี ปรับตัวขึ้น 0.01 % มาอยู่ที่ระดับ 4.531% ในขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 2 ปี ปรับตัวขึ้น 0.04 % มาอยู่ที่ระดับ 4.251% โดยที่ส่วนต่างอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ 10 ปี มากกว่า 2 ปี เท่ากับ0.28%


  • คาซูโอะ อุเอดะ ผู้ว่าการธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) แถลงต่อรัฐสภาว่า BOJ จำเป็นต้องคงนโยบายการเงินแบบผ่อนคลายเอาไว้ เพื่อผลักดันให้อัตราเงินเฟ้อพื้นฐานค่อย ๆ ปรับตัวขึ้นไปสู่เป้าหมายที่ระดับ 2%


ข่าวเกี่ยวกับตลาดหุ้นและเศรษฐกิจ


  • ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลดลงในวันศุกร์ หลังทำเนียบขาวเปิดเผยว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐฯ จะเรียกเก็บภาษีนำเข้า 25% สำหรับสินค้าจากแคนาดาและเม็กซิโก และ 10% สำหรับสินค้าจากจีนตั้งแต่วันเสาร์นี้ (1 ก.พ.)


  • ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 44,544.66 จุด ลดลง 337.47 จุด หรือ -0.75%
  • ดัชนี S&P500 ปิดที่ 6,040.53 จุด ลดลง 30.64 จุด หรือ -0.50% 
  • ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 19,627.44 จุด ลดลง 54.31 จุด หรือ -0.28%


  • รัฐบาลอินเดียได้ประกาศมาตรการลดหย่อนภาษีรายได้มูลค่า 1 ล้านล้านรูปี (ประมาณ 11.5 พันล้านดอลลาร์) เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจที่กำลังชะลอตัว โดยเปิดเผยว่า ผู้มีรายได้ต่อปีไม่เกิน 1.2 ล้านรูปี จะได้รับการยกเว้นภาษีรายได้ เพิ่มขึ้นจากเกณฑ์เดิมที่ 700,000 รูปี การปรับลดภาษีครั้งนี้ จะทำให้จำนวนผู้ที่ไม่ต้องเสียภาษีรายได้เพิ่มขึ้นเป็น 60 ล้านคน หรือประมาณ 74% ของผู้เสียภาษีทั้งหมด มาตรการนี้จะช่วยลดภาระภาษีของชนชั้นกลาง ทำให้มีเงินเหลือใช้มากขึ้น ซึ่งจะส่งผลดีต่อการบริโภคภายในประเทศ การออม และการลงทุน


  • บริษัทสินเชื่อที่อยู่อาศัย รายงานว่า ราคาบ้านในสหราชอาณาจักร (UK) เริ่มชะลอตัวลง โดยในเดือนม.ค.ปรับตัวขึ้นเพียง 0.1% จากเดือนธ.ค. แต่ภาพรวมตลาดยังแข็งแกร่ง แม้ผู้ซื้อจะเผชิญแรงกดดันทางการเงินก็ตาม


ข่าวเกี่ยวกับน้ำมัน


  • สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดลดลงในวันศุกร์ เนื่องจากนักลงทุนกังวลเกี่ยวกับการที่สหรัฐฯ จะเก็บภาษีจากสินค้านำเข้าของเม็กซิโกและแคนาดาในวันเสาร์นี้ (1 ก.พ.) โดยทั้ง 2 ประเทศเป็นผู้ส่งออกน้ำมันดิบรายใหญ่ที่สุดให้แก่สหรัฐฯ


  • สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนมี.ค. ลดลง 20 เซนต์ หรือ 0.27% ปิดที่ 72.53 ดอลลาร์/บาร์เรล
  • สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนมี.ค. ลดลง 11 เซนต์ หรือ 0.14% ปิดที่ 76.76 ดอลลาร์/บาร์เรล


  • ในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา ราคาน้ำมันดิบ WTI และน้ำมันดิบเบรนท์ปรับตัวลง 2.9% และ 2.1% ตามลำดับ ซึ่งเป็นการปรับตัวลงเป็นสัปดาห์ที่ 2 ติดต่อกัน เนื่องจากตลาดคาดว่า การเก็บภาษีนำเข้าจะทำให้ราคาน้ำมันแพงขึ้นสำหรับชาวอเมริกัน และจะส่งผลกระทบต่อการเติบโตของเศรษฐกิจโลกและความต้องการพลังงาน


  • แต่ราคาน้ำมันดิบฟื้นตัวขึ้นในการซื้อขายหลังปิดตลาดในวันศุกร์ หลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์คาดว่า รัฐบาลของเขาจะลดภาษีนำเข้าน้ำมันจากแคนาดาจาก 25% เป็น 10% และจะเรียกเก็บภาษีนำเข้าน้ำมันและก๊าซประมาณวันที่ 18 ก.พ. ซึ่งช้ากว่าที่คาดกันไว้ในตอนแรก


  • ซึ่งก่อนหน้านี้ ทรัมป์เคยขู่ว่าจะเรียกเก็บภาษี 25% สำหรับการนำเข้าสินค้าจากแคนาดาและเม็กซิโกมายังสหรัฐฯ ในวันที่ 1 ก.พ. แต่ยังไม่ได้ชี้แจงว่า น้ำมันและก๊าซจะได้รับการยกเว้นหรือไม่


  • นักวิเคราะห์จาก Energy Aspects กล่าวว่า การเก็บภาษีนำเข้าอาจส่งผลให้การผลิตในโรงกลั่นของสหรัฐฯ ลดลงอย่างมาก


  • นายกรัฐมนตรีจัสติน ทรูโด ของแคนาดากล่าวว่า แคนาดาจะตอบโต้ทันทีและอย่างแข็งกร้าว หากสหรัฐฯ เรียกเก็บภาษี และเตือนชาวแคนาดาว่า พวกเขาอาจต้องเผชิญกับช่วงเวลาที่ยากลำบาก


  • ตลาดจับตาการประชุมของกลุ่มโอเปกพลัสในวันนี้ ซึ่งคาดว่า โอเปกพลัสไม่น่าที่จะปรับเปลี่ยนแผนการที่จะเพิ่มการผลิตอย่างค่อยเป็นค่อยไปในการประชุมดังกล่าว แม้ว่าทรัมป์ได้เรียกร้องให้โอเปกและซาอุดีอาระเบียในฐานะผู้นำที่ไม่เป็นทางการของกลุ่มดำเนินการปรับลดราคาน้ำมันลงก็ตาม


ข่าวเกี่ยวกับการเมือง


  • ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ออกโรงเตือนไปยังประเทศสมาชิกกลุ่ม BRICS อีกครั้งว่า อย่าคิดเปลี่ยนไปใช้สกุลเงินอื่นแทนดอลลาร์สหรัฐ ถ้าไม่อยากถูกเก็บภาษีนำเข้า 100% รวมถึงไม่มีทางที่ BRICS จะมาแทนที่ดอลลาร์สหรัฐในการค้าระหว่างประเทศได้


  • ประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์ ได้ลงนามขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจากเม็กซิโกและแคนาดา 25% และขึ้นภาษีสินค้าจากจีน 10%


  • จีนออกมาประณามความเคลื่อนไหวของประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ ที่สั่งรีดภาษีสินค้านำเข้าจากแดนมังกรในอัตรา 10% โดยกระทรวงการคลังและกระทรวงพาณิชย์จีนประกาศจะยื่นฟ้องต่อองค์การการค้าโลก (WTO) และจะมี "มาตรการตอบโต้" นโยบายของสหรัฐฯ 


  • ประธานาธิบดีคลอเดีย เชนบาม ผู้นำเม็กซิโก สั่งการรัฐมนตรีกระทรวงเศรษฐกิจให้ดำเนินมาตรการ เพื่อปกป้องผลประโยชน์ของประเทศ หลังจากสหรัฐฯ ประกาศขึ้นภาษีสินค้านำเข้าจากเม็กซิโก โดยปัญหาไม่สามารถแก้ไขได้ด้วยการขึ้นภาษี แต่ต้องใช้การพูดคุยและเจรจา 


  • แคนาดาประกาศว่า แคนาดาจะตอบโต้การขึ้นภาษีสินค้านำเข้าของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ ด้วยการเก็บภาษีนำเข้าสินค้าสหรัฐฯ 25% 


  • สำนักงานด้านการรับมือเหตุฉุกเฉินของยูเครนระบุว่า กองกำลังรัสเซียโจมตีเมืองโปลตาวาทางภาคกลางของประเทศด้วยขีปนาวุธและโดรนเมื่อวันเสาร์ที่ 1 กุมภาพันธ์ เจ้าหน้าที่ระบุว่า การโจมตีดังกล่าวสร้างความเสียหายให้กับอาคารที่พักอาศัยแห่งหนึ่ง ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 9 คน และบาดเจ็บอีก 17 คน ซึ่งรวมถึงเด็ก 4 คน


  • นายกรัฐมนตรีอิสราเอล เบนจามิน เนทันยาฮู เปิดเผยในวันอาทิตย์ว่า ตนเตรียมหารือกับประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์ ระหว่างการเยือนทำเนียบขาวในสัปดาห์นี้ ทั้งในประเด็นที่เกี่ยวกับ "ชัยชนะเหนือฮามาส" การต่อต้านอิหร่าน และการสานสัมพันธ์กับชาติต่าง ๆ ในตะวันออกกลาง


ข่าวเกี่ยวกับเศรษฐกิจไทยและค่าเงินบาท


  • ค่าเงินบาทเปิดเช้านี้ที่ระดับ 34.03 บาทต่อดอลลาร์อ่อนค่าลงหนักจากระดับปิดสัปดาห์ก่อนหน้า ที่ระดับ  33.67 บาทต่อดอลลาร์ โดยค่าเงินบาทเสี่ยงที่จะกลับมาทยอยอ่อนค่าลง หรือ อย่างน้อยแกว่งตัว Sideways หากทะลุโซน 34.10-34.20 บาทต่อดอลลาร์ ส่วนเงินดอลลาร์มีแนวโน้มจะแข็งค่าขึ้นหนุนโดยภาวะปิดรับความเสี่ยง-ความกังวลนโยบายกีดกันทางการค้าสหรัฐ


  • ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ระบุว่า เศรษฐกิจไทยในเดือนธ.ค. 67 ชะลอลงจากเดือนก่อน ตามการส่งออกสินค้าและการผลิตภาคอุตสาหกรรมที่ลดลง ส่งผลให้กิจกรรมในภาคบริการที่เกี่ยวข้อง อาทิ การขนส่งสินค้า ปรับลดลง ขณะที่การลงทุนภาคเอกชนทรงตัว

 


ที่มาจาก : yahoo finance, Reuters, kitco news, investing, Infoquest

Tags : ข่าวทอง, ข่าวทอง , ทอง , ราคาทอง

บริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ จำกัด
40,42,44 ถนนทรัพย์สิน แขวงวังบูรพาภิรมย์เขตพระนคร กรุงเทพ 10200
โทรศัพท์ 0 2770 7777 โทรสาร 0 2623 9366 E-mail: support@mtsgoldgroup.com