• สรุปข่าวราคาทองคำ ประจำวันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2568

    10 กุมภาพันธ์ 2568 | Gold News


สรุปตัวเลขเศรษฐกิจสัปดาห์ที่ผ่านมา


  • Average Hourly Earnings ออกมาเพิ่มขึ้นที่ 0.5% สูงกว่าคาดการณ์และครั้งก่อนที่ 0.3%
  • Unemployment Rate ออกมาลดลงที่ 4.0% ต่ำกว่าคาดการณ์และครั้งก่อนที่ 4.1%
  • ขณะที่ Non-Farm ออกมาที่ 143K ต่ำกว่าคาดการณ์ที่ 169K และครั้งก่อนที่ 307K
  • ภาพรวมตัวเลขศก.สหรัฐช่วงวันศุกร์ที่ผ่านมาสะท้อนให้เห็นถึงตัวเลขตลาดแรงงาน ลดความร้อนแรงลงจากตัวเลข Non farm ที่ลดลงต่ำกว่าคาดการณ์


ข่าวเกี่ยวกับทองคำ


  • สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดเพิ่มขึ้นในวันศุกร์ และปรับตัวขึ้นต่อเนื่องเป็นสัปดาห์ที่ 6 เนื่องจากความตึงเครียดทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีนที่เพิ่มขึ้น ทำให้นักลงทุนหันไปลงทุนในทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ปลอดภัย


  • ราคาทองคำตลาดโลก ปรับตัวขึ้น 11.91 เหรียญ หรือ 0.42% อยู่ที่ระดับ 2,867.92 เหรียญ
  • สัญญาทองคำตลาด COMEX ส่งมอบเดือนเม.ย. เพิ่มขึ้น 10.90 ดอลลาร์ หรือ 0.38% ปิดที่ 2,887.60 ดอลลาร์/ออนซ์
  • กองทุนทองคำ SPDR วันก่อนหน้าซื้อเข้า 4.31 ตัน ปัจจุบันถือครองที่ 868.5 ตันภาพรวมเดือนกุมภาพันธ์ ซื้อสุทธิ 3.73 ตัน ขณะที่ปีนี้ ตั้งแต่ 1 ม.ค. - ปัจจุบัน ขายสุทธิ 4.02 ตัน


  • เดวิด เมเกอร์ ผู้อำนวยการฝ่ายซื้อขายโลหะมีค่าที่ไฮ ริดจ์ ฟิวเจอร์ส (High Ridge Futures) กล่าว ปัจจัยหลักที่ตลาดทองคำให้ความสนใจยังคงเป็นความไม่แน่นอนเกี่ยวกับนโยบายภาษีของทรัมป์ ทองคำมักถูกใช้เป็นสินทรัพย์การลงทุนที่ปลอดภัยในช่วงที่มีความไม่แน่นอนทางการเมืองและการเงิน


  • ปีเตอร์ แกรนท์ รองประธานและนักกลยุทธ์อาวุโสด้านโลหะมีค่า ที่ซาเนอร์ เมทัลส์ (Zaner Metals) กล่าวว่า ตลาดทองคำยังได้รับแรงหนุนจากการที่ธนาคารกลางจีนเพิ่มปริมาณทองคำสำรองอย่างต่อเนื่อง และโครงการใหม่ของจีนที่อนุญาตให้กองทุนประกันภัยสามารถลงทุนในทองคำได้


  • สัปดาห์นี้ นักวิเคราะห์ 17 รายที่เข้าร่วมการสำรวจ Kitco News Gold Survey ส่วนใหญ่คาดการณ์ว่าราคาทองคำมีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้น โดยผู้เชี่ยวชาญ (88%) คาดว่าจะทำลายสถิติสูงสุดใหม่ในสัปดาห์นี้ ขณะที่ (12%) คาดว่าจะทรงตัวหรือปรับตัวขึ้นเล็กน้อย ไม่มีใครคาดการณ์ว่าราคาจะลดลง


  • ธนาคารกลางจีน (PBOC) เพิ่มปริมาณทองคำสำรองเป็นเดือนที่ 3 ติดต่อกันในเดือนม.ค. แม้ราคาทองคำจะพุ่งขึ้นทุบสถิติใหม่นับตั้งแต่ต้นปีก็ตาม


  • สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า ปริมาณทองคำแท่งที่ PBOC ถือครองอยู่เพิ่มขึ้น 0.16 ล้านทรอยออนซ์เมื่อเดือนที่แล้ว โดย PBOC เริ่มกลับมาเพิ่มทองคำเข้าทุนสำรองอีกครั้งในเดือนพ.ย. หลังจากหยุดพักไปเป็นเวลา 6 เดือน หลังจากที่เข้าซื้ออย่างต่อเนื่อง 18 เดือนติดต่อกัน ความเคลื่อนไหวดังกล่าวแสดงให้เห็นว่า PBOC มีความมุ่งมั่นที่จะกระจายความเสี่ยงของทุนสำรอง แม้ราคาทองจะอยู่ในระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ซึ่งการเข้าซื้อของ PBOC สะท้อนให้เห็นว่าจีนมีมุมมองเชิงบวกต่อทองคำ


ข่าวเกี่ยวกับค่าเงิน และธนาคารกลาง


  • ดัชนีดอลลาร์ ปรับตัวขึ้น 0.69 จุด หรือ 0.64% มาอยู่ที่ระดับ 108.39 จุด
  • อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี ปรับตัวขึ้น 0.05 % มาอยู่ที่ระดับ 4.489% ในขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 2 ปี ปรับตัวขึ้น 0.07 % มาอยู่ที่ระดับ 4.289% โดยที่ส่วนต่างอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ 10 ปี มากกว่า 2 ปี เท่ากับ0.2%


  • ออสตัน กูลส์บี ประธานเฟดสาขาชิคาโกกล่าวว่า เศรษฐกิจที่แข็งแกร่งซึ่งมีการจ้างงานเต็มที่และอัตราเงินเฟ้อที่ชะลอตัวนั้นจะเอื้อให้เฟดสามารถปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงได้ แต่ความไม่แน่นอนจากมาตรการภาษีทำให้ต้องใช้ความระมัดระวัง


  • ผู้ว่าการธนาคารกลางสหรัฐ เอเดรียนา คูเกลอร์ กล่าวว่า เหมาะสมแล้วที่จะคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ในระดับปัจจุบัน เนื่องจากตลาดแรงงานยังคงแข็งแกร่ง อัตราเงินเฟ้อปรับตัวดีขึ้นเล็กน้อยในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา และยังมีความไม่แน่นอนเกี่ยวกับนโยบายการคลังและการค้า


  • ประธานเฟด สาขามินนิอาโปลิส นีล คาชการี กล่าวเมื่อวันศุกร์ว่า ข้อมูลใหม่ชี้ให้เห็นถึงตลาดแรงงานที่แข็งแกร่ง และหากอัตราเงินเฟ้อยังคงลดลงอย่างต่อเนื่อง เฟดอาจปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง "เล็กน้อย" ภายในสิ้นปีนี้ได้


  • ธนาคารกลางอินเดีย (RBI) มีมติปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.25% มาอยู่ที่ระดับ 6.25% และยังเป็นการลดดอกเบี้ยครั้งแรกในรอบเกือบ 5 ปี หลังจากที่สถานการณ์เงินเฟ้อบรรเทาลง เปิดทางให้แบงก์ชาติสามารถผ่อนคลายทางการเงินเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจที่คาดว่าจะโตต่ำสุดในรอบ 4 ปี


ข่าวเกี่ยวกับตลาดหุ้นและเศรษฐกิจ


  • ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบในวันศุกร์ หลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์กล่าวว่า เขาวางแผนที่จะประกาศมาตรการภาษีตอบโต้กับหลายประเทศในสัปดาห์หน้า ซึ่งเกิดขึ้นหลังจากที่มีการเปิดเผยข้อมูลการจ้างงานและความเชื่อมั่นของผู้บริโภคสหรัฐฯ ที่อ่อนแอ


  • ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 44,303.40 จุด ลดลง 444.23 จุด หรือ -0.99%, 
  • ดัชนี S&P500 ปิดที่ 6,025.99 จุด ลดลง 57.58 จุด หรือ -0.95% 
  • ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 19,523.40 จุด ลดลง 268.59 จุด หรือ -1.36%


  • ดัชนีหุ้นทั้ง 3 ตัวปรับตัวลงในรอบสัปดาห์นี้ โดยดัชนีดาวโจนส์ยุติการปรับตัวขึ้นต่อเนื่อง 3 สัปดาห์และปิดลดลง 0.54%, ดัชนี S&P500 ลดลง 0.24% ขณะที่ดัชนี Nasdaq ปรับตัวลง 0.53%


  • เมื่อต้นสัปดาห์นี้ตลาดหุ้นเปิดทำการได้อย่างย่ำแย่ หลังจากที่ทรัมป์ประกาศมาตรการภาษีการค้าในช่วงสุดสัปดาห์ ก่อนที่เขาจะสั่งเลื่อนการเก็บภาษีสินค้าจากเม็กซิโกและแคนาดาเป็นเวลา 1 เดือนเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม การเปิดเผยผลประกอบการที่แข็งแกร่งของหลายบริษัทในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมาได้ช่วยพยุงตลาด


  • ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ของจีนในเดือนม.ค.เพิ่มขึ้นสูงสุดในรอบ 5 เดือน ขณะที่ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ยังคงเผชิญภาวะเงินฝืด โดยการใช้จ่ายช่วงเทศกาลมีสัญญาณที่ดีขึ้น หลังรัฐบาลทยอยออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยดัชนี CPI ปรับตัวขึ้น 0.5% ในเดือนม.ค. เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน เร่งตัวขึ้นจากเดือนธ.ค.ที่เพิ่มขึ้น 0.1% และสูงกว่าที่นักเศรษฐศาสตร์ในโพลของสำนักข่าวรอยเตอร์คาดการณ์ไว้ที่ 0.4%


ข่าวเกี่ยวกับน้ำมัน


  • สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกในวันศุกร์ หลังจากมีการออกมาตรการคว่ำบาตรครั้งใหม่กับการส่งออกน้ำมันดิบของอิหร่าน อย่างไรก็ตาม ราคาน้ำมันลดลงในรอบสัปดาห์นี้ เนื่องจากนักลงทุนกังวลเกี่ยวกับสงครามการค้ารอบใหม่ของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์กับจีน และการขู่เรียกเก็บภาษีกับประเทศอื่นๆ


  • สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนมี.ค. เพิ่มขึ้น 39 เซนต์ หรือ 0.55% ปิดที่ 71.00 ดอลลาร์/บาร์เรล
  • สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนเม.ย. เพิ่มขึ้น 37 เซนต์ หรือ 0.50% ปิดที่ 74.66 ดอลลาร์/บาร์เรล


  • หุ้นส่วนจากอะเกน แคปิทัล แอลแอลซี (Again Capital LLC) กล่าวว่า รายงานข่าวเกี่ยวกับมาตรการภาษีที่วางแผนโดยรัฐบาลของทรัมป์ได้จำกัดการปรับตัวขึ้นของราคาน้ำมัน หลังได้แรงหนุนจากการประกาศมาตรการคว่ำบาตรการส่งออกน้ำมันของอิหร่านเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา


  • กระทรวงการคลังสหรัฐฯ เปิดเผยว่า กำลังออกมาตรการคว่ำบาตรครั้งใหม่ต่อบุคคลบางรายและเรือบรรทุกน้ำมันที่ช่วยขนส่งน้ำมันดิบของอิหร่านหลายล้านบาร์เรลต่อปีไปยังจีน ซึ่งเป็นการเพิ่มแรงกดดันต่ออิหร่าน


ข่าวเกี่ยวกับการเมือง


  • ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ กล่าวเมื่อวันอาทิตย์ (9 ก.พ.) ว่า เขาจะประกาศเรียกเก็บภาษีนำเข้าเหล็กและอลูมิเนียมในอัตรา 25% จากทุกประเทศในวันจันทร์นี้ (10 ก.พ.) แต่ยังไม่ได้ระบุวันที่จะมีผลบังคับใช้


  • นอกจากนี้ ทรัมป์ยังกล่าวว่า เขาจะประกาศภาษีตอบโต้ต่อประเทศที่เก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากสหรัฐฯ โดยมาตรการนี้จะไม่ถูกบังคับใช้ในวันเดียวกับที่มีการประกาศ ซึ่งอาจจะมีผลในเร็วๆ นี้ 


  • นักเศรษฐศาสตร์จากเวสต์แพค แบงกิง คอร์ป เตือนว่า สงครามการค้าที่นำโดยสหรัฐฯ อาจทำให้สถานการณ์เงินเฟ้อในออสเตรเลียรุนแรงขึ้น เนื่องจากการอ่อนค่าของสกุลเงิน


ข่าวเกี่ยวกับเศรษฐกิจไทยและค่าเงินบาท


  • นักบริหารการเงิน เปิดเผยว่า "ค่าเงินบาทเปิดเช้านี้ ที่ระดับ  33.89 บาทต่อดอลลาร์อ่อนค่าลงหนักจากระดับปิดสัปดาห์ก่อนหน้า ที่ระดับ  33.64 บาทต่อดอลลาร์  มองกรอบค่าเงินบาทสัปดาห์นี้ ที่ระดับ 33.50- 34.30 บาทต่อดอลลาร์ ส่วนกรอบเงินบาทวันนี้  คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 33.75- 34.00 บาทต่อดอลลาร์


  • ธนาคารเอชเอสบีซี (HSBC) ประเมินเศรษฐกิจไทย (GDP) ปี 68 เติบโต 3.3% โดยที่ยังมอง GDP ไทยเติบโตได้ในระดับที่ค่อนข้างสูงกว่าสถาบันอื่น ๆ เนื่องจากมองว่าเศรษฐกิจไทยจะได้รับอานิสงส์จากภาคการท่องเที่ยวที่ยังเป็นปัจจัยขับเคลื่อนเศรษฐกิจอย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งในช่วงเดือนม.ค.ที่ผ่านมายังคงเห็นจำนวนนักท่องเที่ยวที่สูงขึ้นต่อเนื่อง โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวจีนที่ยังมีจำนวนที่สูง




ที่มาจาก : yahoo finance, Reuters, kitco news, investing, Infoquest

Tags : ข่าวทอง, ข่าวทอง , ทอง , ราคาทอง 

บริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ จำกัด
40,42,44 ถนนทรัพย์สิน แขวงวังบูรพาภิรมย์เขตพระนคร กรุงเทพ 10200
โทรศัพท์ 0 2770 7777 โทรสาร 0 2623 9366 E-mail: support@mtsgoldgroup.com