• สรุปข่าวราคาทองคำ ประจำวันที่ 6 มีนาคม 2568

    6 มีนาคม 2568 | Gold News


สรุปตัวเลขเศรษฐกิจ


  • ADP Non-Farm Employment Change ออกมาที่ 77K คาดการณ์ 141K ครั้งก่อน 186K
  • Final Services PMI ออกมาที่ 51.0 คาดการณ์ 49.7 ครั้งก่อน 49.7
  • ISM Services PMI ออกมาที่ 53.5 คาดการณ์ 52.5 ครั้งก่อน 52.8
  • ภาพรวมตัวเลข PMI ภาคบริการออกมาขยายตัวเพิ่มสูงขึ้นเล็กน้อย แต่ขณะที่ตัวเลขภาคแรงงาน การจ้างงานภาคเอกชน ADP ออกมาหดตัวต่ำเพียง 77,000 ตำแหน่ง ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนก.ค. 2567 ส่งผลกดดัน ให้ดัชนีดอลลาร์ปรับตัวอ่อนค่าร่วงแตะ 104.25 จุด 


ข่าวเกี่ยวกับทองคำ


  • สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกติดต่อกันเป็นวันที่ 3 ในวันพุธ โดยตลาดยังคงได้ปัจจัยหนุนจากการที่นักลงทุนเดินหน้าซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย รวมทั้งสกุลเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่าลงอย่างต่อเนื่อง ขณะที่นักลงทุนจับตาตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐฯ เพื่อหาสัญญาณบ่งชี้ทิศทางอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด)


  • ราคาทองคำตลาดโลก ปรับตัวขึ้น 3.14 เหรียญ หรือ 0.11% อยู่ที่ระดับ 2,921.03 เหรียญ
  • สัญญาทองคำตลาด COMEX ส่งมอบเดือนเม.ย. เพิ่มขึ้น 5.40 ดอลลาร์ หรือ 0.18% ปิดที่ 2,926.00 ดอลลาร์/ออนซ์
  • กองทุนทองคำ SPDR วันก่อนหน้าขายออก 1.44 ตัน ปัจจุบันถือครองที่ 900.36 ตันภาพรวมเดือนมีนาคม ขายสุทธิ 4.02 ตัน ขณะที่ปีนี้ ตั้งแต่ 1 ม.ค. - ปัจจุบัน ซื้อสุทธิ 27.84 ตัน


  • ปีเตอร์ แกรนท์ นักกลยุทธ์ด้านโลหะจากบริษัท Zaner Metals กล่าวว่า ความวิตกกังวลเกี่ยวกับสงครามการค้ายังคงเป็นแรงผลักดันให้นักลงทุนเข้าซื้อทองคำ โดยความวิตกเกี่ยวกับผลกระทบของมาตรการภาษีศุลกากรของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เป็นปัจจัยหนุนราคาทองคำพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ถึง 11 ครั้งในปีนี้ และนับตั้งแต่ต้นปีนี้ ราคาทองคำพุ่งขึ้นไปแล้ว 11%

ข่าวเกี่ยวกับค่าเงิน และธนาคารกลาง


  • ดัชนีดอลลาร์ ปรับตัวลดลง -1.39 จุด หรือ -1.32% มาอยู่ที่ระดับ 104.23 จุด
  • อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี ปรับตัวขึ้น 0.08 % มาอยู่ที่ระดับ 4.309% ในขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 2 ปี ปรับตัวขึ้น 0.06 % มาอยู่ที่ระดับ 4.031% โดยที่ส่วนต่างอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ 10 ปี มากกว่า 2 ปี เท่ากับ0.28%


  • นายโรแบร์โต เพอร์ลี จากธนาคารกลางสหรัฐฯ ในนิวยอร์กกล่าวว่า ปัญหาเพดานหนี้สาธารณะในปัจจุบันอาจส่งผลกระทบต่อความมั่นคงทางการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯ ซึ่งจะทำให้ภาระหนี้สินของธนาคารกลางผันผวน และส่งผลให้อัตราดอกเบี้ยในตลาดเงินผันผวนตามไปด้วย


ข่าวเกี่ยวกับตลาดหุ้นและเศรษฐกิจ


  • ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกในวันพุธ เนื่องจากนักลงทุนคลายความวิตกกังวลเกี่ยวกับสงครามการค้า หลังจากมีรายงานว่าประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ ได้ตัดสินใจเลื่อนเวลาเรียกเก็บภาษีนำเข้ารถยนต์จากแคนาดาและเม็กซิโก


  • ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 43,006.59 จุด เพิ่มขึ้น 485.60 จุด หรือ +1.14%,
  • ดัชนี S&P500 ปิดที่ 5,842.63 จุด เพิ่มขึ้น 64.48 จุด หรือ +1.12% 
  • ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 18,552.73 จุด เพิ่มขึ้น 267.57 จุด หรือ +1.46%


  • ดัชนีหลักทั้ง 3 ดัชนีดีดตัวขึ้นปิดในแดนบวก หลังจากแคโรไลน์ เลวิตต์ โฆษกทำเนียบขาวได้แถลงข่าวยืนยันว่า ปธน.ทรัมป์ได้ตกลงที่จะเลื่อนเวลาการเรียกเก็บภาษีนำเข้ารถยนต์จากแคนาดาและเม็กซิโกออกไปอีก 1 เดือน ภายใต้ข้อตกลงการค้าเสรีสหรัฐฯ-เม็กซิโก-แคนาดา (USMCA)


  • รายงานระบุว่า ปธน.ทรัมป์ได้ตกลงที่จะเลื่อนเวลาการเรียกเก็บภาษีดังกล่าวเพื่อแลกกับการขยายการผลิตในสหรัฐฯ หลังจากปธน.ทรัมป์ได้พูดคุยทางโทรศัพท์กับแมรี บาร์รา ซีอีโอของบริษัทเจเนอรัล มอเตอร์ (GM), จิม ฟาร์เลย์ ซีอีโอของฟอร์ด มอเตอร์ (Ford Motor) และจอห์น เอลแคนน์ ประธานบริษัทสเตลแลนทิส (Stellantis)


  • รอสส์ เมย์ฟิลด์ นักวิเคราะห์จากบริษัท Baird แสดงความเห็นว่า ความเคลื่อนไหวดังกล่าวทำให้นักลงทุนรับรู้ได้ว่าทำเนียบขาวกำลังตอบสนองต่อแรงกดดันที่เกิดขึ้นในตลาด และต่างก็คาดหวังว่าทำเนียบขาวจะเร่งปรับนโยบายตามความจำเป็นเพื่อลดความตื่นตระหนกในตลาด


  • รัฐบาลจีนเปิดเผยมาตรการกระตุ้นด้านการคลังเพิ่มเติม โดยให้คำมั่นว่าจะเพิ่มความพยายามในการสนับสนุนการบริโภคและลดผลกระทบของสงครามการค้ากับสหรัฐฯ ที่จะมีต่อเศรษฐกิจจีน


  • จีนได้ตั้งเป้าหมายการเติบโตของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ปี 2568 ไว้ที่ประมาณ 5%” ขณะที่จีนกำลังจัดการประชุมสองสภา (Two Sessions) ท่ามกลางความตึงเครียดด้านการค้ากับสหรัฐอเมริกาที่ทวีความรุนแรงขึ้น


ข่าวเกี่ยวกับน้ำมัน


  • สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดลบติดต่อกันเป็นวันที่ 4 ในวันพุธ หลังสหรัฐฯ เปิดเผยตัวเลขสต็อกน้ำมันดิบที่สูงเกินคาด นอกจากนี้ ตลาดยังคงถูกกดดันจากความกังวลเกี่ยวกับผลกระทบของสงครามการค้า และการที่กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และชาติพันธมิตร หรือโอเปกพลัส ประกาศเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมันในเดือนเม.ย.ตามกำหนดเดิม


  • สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนเม.ย. ลดลง 1.95 ดอลลาร์ หรือ 2.86% ปิดที่ 66.31 ดอลลาร์/บาร์เรล
  • สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนพ.ค. ลดลง 1.74 ดอลลาร์ หรือ 2.45% ปิดที่ 69.30 ดอลลาร์/บาร์เรล


  • ราคาน้ำมัน WTI และน้ำมันเบรนท์ปิดตลาดร่วงลงกว่า 2% หลังจากสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐฯ (EIA) เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบพุ่งขึ้น 3.6 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว มากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าเพิ่มขึ้นเพียง 600,000 บาร์เรล


  • ราคาน้ำมันยังถูกกดดันจากการที่กลุ่มโอเปกพลัสประกาศเดินหน้าเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมัน 138,000 บาร์เรล/วันในเดือนเม.ย.ตามกำหนดเดิม ซึ่งเป็นการเพิ่มกำลังการผลิตครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2565


  • นอกจากนี้ นักลงทุนกังวลว่าการทำสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ และประเทศคู่ค้าจะส่งผลกระทบต่อการขยายตัวทางเศรษฐกิจ และความต้องการใช้น้ำมันทั่วโลก


  • อย่างไรก็ดี ราคาน้ำมันลดช่วงลบ หลังจากมีรายงานว่าสหรัฐฯ กำลังพิจารณายกเลิกภาษี 10% ที่เรียกเก็บจากการนำเข้าพลังงานจากแคนาดา ซึ่งรวมถึงน้ำมันดิบและน้ำมันเบนซิน ภายใต้ข้อตกลงการค้าเสรีสหรัฐฯ-เม็กซิโก-แคนาดา (USMCA)

ข่าวเกี่ยวกับการเมือง


  • ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ ชี้ว่า เกาหลีใต้เป็นประเทศที่มีภาษีศุลกากรไม่ยุติธรรมกับสินค้าสหรัฐฯ ยิ่งกว่าจีน โดยจีนเก็บภาษีจากสินค้าของสหรัฐฯเฉลี่ยมากกว่าสองเท่าของที่สหรัฐฯเรียกเก็บจากจีน ขณะที่ภาษีศุลกากรของเกาหลีใต้สูงกว่าถึงสี่เท่า รวมถึงวิพากษ์วิจารณ์การมอบเงินอุดหนุนแก่ผู้ผลิตชิปต่างชาติอย่าง ซัมซุง อิเลคโทรนิคส์ (Samsung Electronics)


  • ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ตัดสินใจชะลอการเก็บภาษีนำเข้ารถยนต์จากแคนาดาและเม็กซิโกออกไปอีก 1 เดือนจากกำหนดเดิม ทำให้การยกเว้นภาษีจะสิ้นสุดในวันที่ 2 เมษายน 2025 แทนที่จะเป็นเดือนมีนาคมตามที่เคยประกาศไว้ หลังจากนั้น อัตราภาษีนำเข้าจะเพิ่มสูงถึง 25% ตามแผนการเดิมของรัฐบาล


  • ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ กำลังพิจารณายกเว้นภาษีนำเข้าสินค้าเกษตรบางประเภทจากแคนาดาและเม็กซิโก หลังจากที่เพิ่งประกาศขึ้นภาษีนำเข้า 25% กับสองประเทศนี้ เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจภายในสหรัฐฯ และผลักดันให้บริษัทต่างๆ ย้ายฐานการผลิตกลับเข้ามาในประเทศ โดยรัฐมนตรีเกษตรสหรัฐฯ Brooke Rollins กล่าวว่ามีโอกาสที่รัฐบาลจะอนุญาตยกเว้นภาษีสินค้าเกษตรบางรายการ เช่น ปุ๋ยและโพแทช (Potash) ซึ่งมีความสำคัญต่อเกษตรกรในสหรัฐฯ


  • จีนเตรียมปรับโครงสร้างอุตสาหกรรมเหล็กขนาดใหญ่ผ่านการลดกำลังการผลิต แม้ไม่ได้ประกาศกำหนดเป้าหมายที่ชัดเจนในการแทรกแซงครั้งล่าสุดเพื่อแก้ปัญหากำลังการผลิตส่วนเกิน ซึ่งเป็นประเด็นที่ก่อให้เกิดความตึงเครียดด้านการค้าโลก


  • จีนประกาศเพิ่มงบประมาณกลาโหม 7.2% ในปี 2568 ในขณะที่ประเทศกำลังเผชิญอุปสรรคจากการเติบโตทางเศรษฐกิจที่ซบเซามาเป็นเวลาสามปี ท่ามกลางความท้าทายทางภูมิรัฐศาสตร์ที่เพิ่มมากขึ้น ตั้งแต่ประเด็นไต้หวันไปจนถึงสงครามยูเครน


  • นายกรัฐมนตรีจีน กล่าวว่า จีนจะยืนหยัดเดินหน้าผลักดันการรวมชาติกับไต้หวัน พร้อมทั้งต่อต้านการแทรกแซงจากภายนอก และมุ่งมั่นที่จะร่วมมือกับประชาชนชาวไต้หวันเพื่อช่วยกันฟื้นฟูชาติจีน


  • อู๋ จื้อจง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศไต้หวัน เปิดเผยว่า ไต้หวันกำลังพยายามกระชับสัมพันธ์ด้านความมั่นคงกับสหรัฐอเมริกา และอาจพิจารณาซื้ออาวุธจากสหรัฐฯ เพิ่มมากขึ้น


  • สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานโดยอ้างแหล่งข่าวว่า รัสเซียได้เสนอตัวเป็นคนกลางในการเจรจาระหว่างสหรัฐฯ และอิหร่าน โดยรัสเซียให้คำมั่นว่าจะทำทุกอย่างที่เป็นไปได้เพื่ออำนวยความสะดวกในการแก้ไขความตึงเครียดเกี่ยวกับโครงการนิวเคลียร์ของอิหร่านอย่างสันติ


ข่าวเกี่ยวกับเศรษฐกิจไทยและค่าเงินบาท


  • ค่าเงินบาทวันนี้ เปิดตลาดแข็งค่าที่ 33.59 บาทต่อดอลลาร์ แข็งค่าจากราคาปิดตลาดเมื่อวานที่ระดับ 33.65 บาทต่อดอลลาร์ โดยกรอบแนวรับที่ 33.40 บาท แนวต้าน 33.90 บาท
 
  • ที่ประชุมคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) ประเมินว่า เศรษฐกิจไทยปี 68 เผชิญความเสี่ยงสูง โดยสำนักวิจัยในต่างประเทศปรับลดประมาณการ GDP ไทยลงเหลือ 2.6% จากเดิม 2.7% ท่ามกลางความเสี่ยงจากนโยบายการค้า และแรงกดดันต่อภาคการผลิตที่จะยังมีต่อเนื่อง ส่วนอุปสงค์ภายในประเทศยังเปราะบาง สอดคล้องกับมุมมองของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ที่นำไปสู่การลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย

 

 

 

 

ที่มาจาก : yahoo finance, Reuters, kitco news, investing, Infoquest

Tags : ข่าวทอง, ข่าวทอง , ทอง , ราคาทอง

บริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ จำกัด
40,42,44 ถนนทรัพย์สิน แขวงวังบูรพาภิรมย์เขตพระนคร กรุงเทพ 10200
โทรศัพท์ 0 2770 7777 โทรสาร 0 2623 9366 E-mail: support@mtsgoldgroup.com