• สรุปข่าวราคาทองคำ ประจำวันที่ 14 มีนาคม 2568

    14 มีนาคม 2568 | Gold News


สรุปตัวเลขเศรษฐกิจ


  • Core PPI m/m ออกมาที่ -0.1%คาดการณ์ 0.3% ครั้งก่อน 0.5% 
  • PPI m/m ออกมาที่ 0.0% คาดการณ์ 0.3% ครั้งก่อน 0.6%
  • Unemployment Claims  ออกมาที่ 220K คาดการณ์ 226K ครั้งก่อน 222K


  • ภาพรวมตัวเลขเศรษฐกิจ ผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงาน ลดลงเล็กน้อย แต่ขณะที่ดัชนี PPI ชะลอตัวลงทั้งหมด และต่ำกว่านักวิเคราะห์คาดการณ์ ซึ่งสอดคล้องกับตัวเลขดัชนี CPI ทำให้ราคาทองคำยังได้ปัจจัยหนุนจากการคาดการณ์ที่ว่าเฟดจะ ปรับลดอัตราดอกเบี้ยได้เพิ่มขึ้นจากเงินเฟ้อชะลอตัวลง


ข่าวเกี่ยวกับทองคำ


  • สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในวันพฤหัสบดี โดยราคาทองคำเคลื่อนตัวเข้าใกล้หมุดหมายสำคัญที่ระดับ 3,000 ดอลลาร์ เนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับมาตรการภาษีศุลกากรเป็นปัจจัยหนุนแรงซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย 


  • ราคาทองคำตลาดโลก ปรับตัวขึ้น 52.08 เหรียญ หรือ 1.77% อยู่ที่ระดับ 2,986.96 เหรียญ
  • สัญญาทองคำตลาด COMEX ส่งมอบเดือนเม.ย. เพิ่มขึ้น 44.50 ดอลลาร์ หรือ 1.51% ปิดที่ 2,991.30 ดอลลาร์/ออนซ์
  • กองทุนทองคำ SPDR วันก่อนหน้าซื้อเข้า 7.17 ตัน ปัจจุบันถือครองที่ 905.81 ตันภาพรวมเดือนมีนาคม ซื้อสุทธิ 1.43 ตัน ขณะที่ปีนี้ ตั้งแต่ 1 ม.ค. - ปัจจุบัน ซื้อสุทธิ 33.29 ตัน


  • ราคาทองคำปิดในแดนบวกติดต่อกันเป็นวันที่ 3 เนื่องจากนักลงทุนเดินหน้าเข้าซื้อทองคำ ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับผลกระทบของสงครามการค้า โดยสหภาพยุโรป (EU) ประกาศเรียกเก็บภาษีวิสกี้ที่นำเข้าจากสหรัฐฯ ในอัตรา 50% เพื่อตอบโต้สหรัฐฯ ที่เรียกเก็บภาษีเหล็กและอะลูมิเนียมจากยุโรป ซึ่งส่งผลให้ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ขู่ผ่านทางแพลตฟอร์ม Truth Social ว่าจะเรียกเก็บภาษีผลิตภัณฑ์แอลกอฮอล์และไวน์นำเข้าจาก EU สูงถึง 200%


  • แมคควอรี กรุ๊ป (Macquarie Group) คาดการณ์ว่าความต้องการถือครองทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยที่เพิ่มสูงขึ้น จะเป็นปัจจัยหนุนให้ราคาทำสถิติสูงสุดที่ระดับ 3,500 ดอลลาร์/ออนซ์ในไตรมาส 3 ปีนี้


  • นักวิเคราะห์จากซิตี้กรุ๊ป อิงค์ (Citigroup Inc) คาดการณ์ว่า ราคาทองแดงจะพุ่งขึ้นแตะระดับ 10,000 ดอลลาร์/ตันในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า เนื่องจากตลาดทองแดงโลกมีแนวโน้มตึงตัวอย่างต่อเนื่องจนกว่าจะมีความชัดเจนมากขึ้นเกี่ยวกับกรอบเวลาที่สหรัฐฯ จะประกาศใช้มาตรการเรียกเก็บภาษีนำเข้าทองแดง


  • ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยทองคำ เผยดัชนีความเชื่อมั่นราคาทองคำประจำเดือน มี.ค.68 อยู่ที่ 74.48 จุด ปรับตัวเพิ่มขึ้น 1.81 จุด หรือคิดเป็น 2.49% จากเดือน ก.พ.68 ที่ระดับ 72.67 จุด โดยมีปัจจัยหนุนจากความต้องการซื้อสินทรัพย์ปลอดภัย นโยบายทางเศรษฐกิจของประธานาธิบดีสหรัฐฯ แรงซื้อทองคำจากธนาคารกลางชาติต่าง ๆ ทั่วโลก แรงซื้อเก็งกำไร และความตึงเครียดของสงครามการค้า

ข่าวเกี่ยวกับค่าเงิน และธนาคารกลาง


  • ดัชนีดอลลาร์ ปรับตัวขึ้น 0.33 จุด หรือ 0.32% มาอยู่ที่ระดับ 103.94 จุด
  • อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี  ปรับตัวลดลง -0.04 % มาอยู่ที่ระดับ 4.278% ในขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 2 ปี ปรับตัวลดลง -0.03 % มาอยู่ที่ระดับ 3.96% โดยที่ส่วนต่างอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ 10 ปี มากกว่า 2 ปี เท่ากับ0.32%


  • ธนาคาร Barclays คาดการณ์ว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 2 ครั้งในปีนี้ เนื่องจากตลาดแรงงานชะลอตัวลง จากเดิมที่คาดการณ์ไว้เพียงครั้งเดียว โดยคาดว่าจะมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนมิถุนายนและกันยายน โดยก่อนหน้านี้คาดการณ์ว่าจะปรับลด 25 จุดพื้นฐานในเดือนมิถุนายน


  • Morgan Stanley & Co. คาดการณ์ว่าดอลลาร์จะยังคงอ่อนค่าลงอีก เนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับความแข็งแกร่งทางเศรษฐกิจที่เพิ่มขึ้น โดยเตือนว่า ความเสี่ยงจากการปิดหน่วยงานรัฐ การเติบโตทางเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ที่ชะลอตัว และมูลค่าสินทรัพย์ในต่างประเทศที่สูงขึ้น ล้วนเป็นปัจจัยที่ทำให้ดอลลาร์อ่อนค่าลง ดัชนีชี้วัดสุขภาพของดอลลาร์ของ Bloomberg ลดลงมากกว่า 3% ในปี 2025 ซึ่งเป็นผลงานที่แย่ที่สุดนับตั้งแต่ปี 2008


  • สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรพรรครีพับลิกัน 5 คนเรียกร้องให้ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ เจอโรม พาวเวลล์ ปรับเปลี่ยนอัตราส่วนการกู้ยืมเพิ่มเติม เพื่อปรับปรุงสภาพคล่องในตลาดหลักทรัพย์ของกระทรวงการคลัง ซึ่งรวมถึงการพิจารณาเปลี่ยนแปลง "เป้าหมาย" ของข้อกำหนดด้านเงินทุนของธนาคารใหม่


ข่าวเกี่ยวกับตลาดหุ้นและเศรษฐกิจ


  • ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดร่วงลงกว่า 500 จุดในวันพฤหัสบดี ส่วนดัชนี S&P500 เข้าสู่เขตปรับฐาน (Correction Territory) แล้ว เนื่องจากนักลงทุนกังวลว่าสงครามการค้าที่ทวีความรุนแรงมากขึ้นระหว่างสหรัฐฯ และประเทศคู่ค้ารายใหญ่จะก่อให้เกิดเงินเฟ้อและฉุดรั้งเศรษฐกิจให้เข้าสู่ภาวะถดถอย


  • ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 40,813.57 จุด ลดลง 537.36 จุด หรือ -1.30%
  • ดัชนี S&P 500 ปิดที่ 5,521.52 จุด ลดลง 77.78 จุด หรือ -1.39% 
  • ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 17,303.01 จุด ลดลง 345.44 จุด หรือ -1.96%


  • ดัชนีดาวโจนส์ร่วงลงติดต่อกันเป็นวันที่ 4 ขณะที่ดัชนี S&P500 ดิ่งลงเกือบ 4% และปรับตัวลง 10.1% จากระดับปิดสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ทำไว้เมื่อวันที่ 19 ก.พ. ซึ่งเป็นการยืนยันว่าขณะนี้ดัชนี S&P500 ได้เข้าสู่เขตปรับฐานแล้ว และสะท้อนให้เห็นว่าบรรยากาศการซื้อขายในตลาดได้เปลี่ยนแปลงไปอย่างมีนัยสำคัญ เนื่องจากดัชนี S&P500 ได้รับการยอมรับเป็นวงกว้างว่าเป็นดัชนีชี้วัดที่ดีที่สุดของบริษัทขนาดใหญ่ในสหรัฐฯ และสามารถชี้วัดผลงานโดยรวมของตลาดหุ้นนิวยอร์ก


  • องค์การการค้าโลก (WTO) เปิดเผยว่า การค้าสินค้าทั่วโลกแสดงสัญญาณของการเติบโตอย่างต่อเนื่องในช่วงต้นปี 2568 ดังที่สะท้อนในดัชนีชี้วัดการค้าสินค้า (Goods Trade Barometer) ล่าสุด อย่างไรก็ดี WTO เตือนว่าความไม่แน่นอนที่เพิ่มขึ้นเกี่ยวกับนโยบายการค้า และความเป็นไปได้ของการเก็บภาษีนำเข้าชุดใหม่อาจส่งผลต่อการค้าในระยะกลาง โดยคาดว่าอุปสงค์จะอ่อนตัวลงในช่วงต่อไปของปีนี้


  • กระทรวงการคลังสหรัฐฯ เปิดเผยว่า ยอดขาดดุลงบประมาณของรัฐบาลสหรัฐฯ ในช่วง 5 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2568 (เดือนต.ค. 2567 – เดือนก.พ. 2568) พุ่งแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 1.147 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งรวมถึงการขาดดุลงบประมาณมูลค่า 3.07 แสนล้านดอลลาร์ในเดือนก.พ. ซึ่งเป็นเดือนแรกที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ทำหน้าที่บริหารประเทศแบบเต็มเดือน โดยตัวเลขดังกล่าวเพิ่มขึ้น 4% เมื่อเทียบเป็นรายปี


ข่าวเกี่ยวกับน้ำมัน


  • สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงกว่า 1% ในวันพฤหัสบดี เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลว่าสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ และประเทศต่าง ๆ จะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจมหภาคและจะทำให้ความต้องการใช้น้ำมันทั่วโลกชะลอตัวลง นอกจากนี้ ราคาน้ำมันยังถูกกดดันจากความไม่แน่นอนเกี่ยวกับข้อเสนอการหยุดยิงระหว่างรัสเซียและยูเครน


  • สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนเม.ย. ร่วงลง 1.13 ดอลลาร์ หรือ 1.67% ปิดที่ 66.55 ดอลลาร์/บาร์เรล
  • สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนพ.ค. ลดลง 1.07 ดอลลาร์ หรือ 1.51% ปิดที่ 69.88 ดอลลาร์/บาร์เรล


  • สำนักงานพลังงานระหว่างประเทศ (IEA) ได้ออกรายงานเตือนเกี่ยวกับภาวะน้ำมันล้นตลาด โดยคาดการณ์ว่าอุปทานน้ำมันทั่วโลกจะมีปริมาณมากกว่าอุปสงค์ราว 600,000 บาร์เรล/วันในปีนี้ พร้อมกับคาดว่าอุปสงค์น้ำมันทั่วโลกจะเพิ่มขึ้นเพียง 1.03 ล้านบาร์เรล/วัน ลดลงจากการคาดการณ์ในเดือนที่แล้ว 70,000 บาร์เรล/วัน โดยระบุถึงปัจจัยต่าง ๆ ที่จะทำให้เศรษฐกิจมหาภาคอ่อนแอลง รวมถึงความตึงเครียดด้านการค้า


  • โอเปกได้เปิดเผยคาดการณ์การเติบโตของความต้องการน้ำมันทั่วโลกในรายงานตลาดน้ำมันประจำเดือน โดยประมาณการว่าจะเพิ่มขึ้น 1.45 ล้านบาร์เรลต่อวันในปี 2568 และขยายตัวขึ้นอย่างแข็งแกร่งที่ระดับ 1.43 ล้านบาร์เรลต่อวันในปี 2569 ซึ่งยังไม่มีการเปลี่ยนแปลงจากการประเมินเมื่อเดือนที่แล้ว


ข่าวเกี่ยวกับการเมือง


  • ผู้ว่าการธนาคารกลางฝรั่งเศสวิจารณ์นโยบายของโดนัลด์ ทรัมป์ว่า "โศกนาฏกรรม" และทำให้เกิดการวิพากษ์วิจารณ์ประธานาธิบดีสหรัฐฯ เพิ่มมากขึ้น  ในขณะที่สงครามการค้าของเขากำลังส่งผลกระทบต่อยุโรป


  • ชัค ชูเมอร์ ผู้นำเสียงข้างน้อยในวุฒิสภาสหรัฐฯ ประกาศว่าเขาจะลงมติเห็นชอบร่างกฎหมายงบประมาณชั่วคราว เพื่อป้องกันการปิดหน่วยงานรัฐบางส่วนที่จะเกิดขึ้นในคืนวันศุกร์นี้  เพื่อเลี่ยงภาวะรัฐบาลชัตดาวน์ ซึ่งจะสร้างความเสียหาย  และทำให้ทรัมป์-อีลอน มัสก์ (เจ้าของแนวคิด Department of Government Efficiency หรือ “DOGE”) มีอิสระตัดงบฯ ภาครัฐได้มากยิ่งขึ้น


  • ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย ระบุว่าต้องการพูดคุยกับทรัมป์เรื่องหยุดยิงในยูเครน แต่ยังไม่สนับสนุนข้อเสนอให้หยุดยิง 30 วันในทันที แต่การหยุดยิงจะต้องนำไปสู่สันติภาพที่ถาวร และควรจะขจัดรากเหง้าของสาเหตุที่ทำให้เกิดความขัดแย้งในครั้งนี้  มากกว่าการหยุดรบชั่วคราว


  • ทางด้านปธน.ทรัมป์กล่าวเมื่อไม่นานมานี้ว่า รัสเซียจะถูกคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจและการค้าอย่างหนัก หากปธน.ปูตินปฏิเสธที่จะยอมรับข้อตกลงหยุดยิงกับยูเครนเป็นเวลา 30 วัน


  • มาร์ค คาร์นีย์ ว่าที่นายกรัฐมนตรีแคนาดา กล่าวว่า เขาพร้อมเจรจาข้อตกลงการค้าฉบับใหม่กับประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ตราบเท่าที่สหรัฐฯเคารพต่ออธิปไตยของแคนาดา


  • ประธานาธิบดีคลอเดีย เชนบาม ผู้นำเม็กซิโกกล่าวว่า เม็กซิโกจะตัดสินใจภายในวันที่ 2 เม.ย.ว่าจะเก็บภาษีศุลกากรตอบโต้ (Reciprocal Tariffs) หรือไม่ หลังจากสหรัฐฯ ปรับขึ้นภาษีนำเข้าเหล็กและอะลูมิเนียมทั้งหมดเป็น 25%


ข่าวเกี่ยวกับเศรษฐกิจไทยและค่าเงินบาท


  • นักบริหารการเงิน เปิดเผยว่า "ค่าเงินบาทวันนี้"เปิดเช้านี้ ที่ระดับ  33.69 บาทต่อดอลลาร์แข็งค่าขึ้นเล็กน้อยจากระดับปิดวันที่ผ่านมา ณ ระดับ  33.78 บาทต่อดอลลาร์ มองกรอบเงินบาทวันนี้  คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 33.60-33.85 บาทต่อดอลลาร์ 


  • มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยถึงผลกระทบที่มีต่อเศรษฐกิจไทย จากมาตรการภาษีของรัฐบาลทรัมป์ 2.0 ในส่วนของผลกระทบทางตรงนั้น หากสหรัฐฯ ประกาศใช้มาตรการภาษีเฉพาะสินค้า (Product-Specific Tariff) ก็จะมีผลต่อสินค้าส่งออกของไทยที่สำคัญ 4 กลุ่มสินค้า คือ เหล็ก, ผลิตภัณฑ์เหล็ก, อะลูมิเนียม, รถยนต์ อุปกรณ์-ส่วนประกอบ ซึ่งอัตราภาษีที่ประกาศใช้อยู่ที่ 25% โดยสินค้าทั้ง 4 กลุ่ม ประเมินมูลค่าการส่งออกในปี 68 รวมกันที่ราว 4,727 ล้านดอลลาร์ฯ แต่หากได้รับผลกระทบจากกรณีทรัมป์ 2.0 อาจจะทำให้มูลค่าการส่งออกลดลงเหลือราว 4,077 ล้านดอลลาร์ฯ คิดเป็นมูลค่าของผลกระทบราว 650 ล้านดอลลาร์ 


  • ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภค เดือนก.พ.68 อยู่ที่ระดับ 57.8 ปรับตัวลดลงเป็นครั้งแรกในรอบ 5 เดือน นับตั้งแต่ ต.ค.67 เนื่องจากผู้บริโภคมีความกังวลเกี่ยวกับสงครามการค้าจากนโยบาย Trump 2.0 ส่งผลให้ตลาดหลักทรัพย์ของไทยและทั่วโลกปรับตัวลดลง แม้ว่ารัฐบาลจะออกมาตราการกระตุ้นเศรษฐกิจ แต่ผู้บริโภคกลับรู้สึกว่าเศรษฐกิจไทยยังฟื้นตัวได้ช้า

 

 

 

ที่มาจาก : yahoo finance, Reuters, kitco news, investing, Infoquest

Tags : ข่าวทอง, ข่าวทอง , ทอง , ราคาทอง

บริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ จำกัด
40,42,44 ถนนทรัพย์สิน แขวงวังบูรพาภิรมย์เขตพระนคร กรุงเทพ 10200
โทรศัพท์ 0 2770 7777 โทรสาร 0 2623 9366 E-mail: support@mtsgoldgroup.com