MTS Help Center

สรุปตัวเลขเศรษฐกิจ

• Core Retail Sales m/m  ออกมาที่ 0.3% ตามคาดการณ์ที่ 0.3% ครั้งก่อนที่ -0.6%
• Retail Sales m/m ออกมาที่ 0.2% ต่ำกว่าคาดการณ์ที่ 0.6% ครั้งก่อนที่ -1.2%
• Empire State Manufacturing Index  ออกมาที่ -20.0 ต่ำกว่าคาดการณ์ที่ -1.9 ครั้งก่อนที่ 5.7

• ภาพรวมตัวเลขเศรษฐกิจ ยอดค้าปลีก ออกมาต่ำกว่าคาดการณ์แต่ยังเพิ่มสูงจากเดือนก่อนหน้า ซึ่งยังคงเป็นปัจจัยหนุนบวกราคาทองคำในระยะสั้น สะท้อนให้เห็นถึงความไม่แน่นอนที่เพิ่มขึ้นอันเนื่องมาจากมาตรการภาษีศุลกากรและและการเลิกจ้างพนักงานรัฐบาลกลางจำนวนมาก

ข่าวเกี่ยวกับทองคำ

• สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกในวันจันทร์ โดยราคาทองคำยังคงยืนเหนือระดับ 3,000 ดอลลาร์ ขณะที่นักลงทุนจับตาสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ และประเทศคู่ค้า รวมทั้งผลการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด)

• ราคาทองคำตลาดโลก ปรับตัวขึ้น 16.56 เหรียญ หรือ 0.55% อยู่ที่ระดับ 3,004.78 เหรียญ
• สัญญาทองคำตลาด COMEX ส่งมอบเดือนเม.ย. เพิ่มขึ้น 5.00 ดอลลาร์ หรือ 0.17% ปิดที่ 3,006.10 ดอลลาร์/ออนซ์
• กองทุนทองคำ SPDR วันก่อนหน้าซื้อเข้า 0.86 ตัน ปัจจุบันถือครองที่ 907.27 ตันภาพรวมเดือนมีนาคม ซื้อสุทธิ 2.89 ตัน ขณะที่ปีนี้ ตั้งแต่ 1 ม.ค. - ปัจจุบัน ซื้อสุทธิ 34.75 ตัน

• นักวิเคราะห์จากบริษัท Heraeus Metals คาดการณ์ว่า หากข้อมูลเศรษฐกิจในวันข้างหน้ายังคงอ่อนแอและสงครามการค้าทวีความรุนแรงมากขึ้น ก็จะเป็นปัจจัยหนุนราคาทองคำปรับตัวขึ้นอีก

• นักวิเคราะห์ของยูบีเอส ระบุว่า ราคาทองคำมีแนวโน้มแตะ 3,200 ดอลลาร์ต่อออนซ์ในช่วง 4 ไตรมาสข้างหน้า ซึ่งเป็นการปรับเพิ่มจากการคาดการณ์เดิมของธนาคารที่ 3,000 ดอลลาร์ โดยความขัดแย้งทางการค้าที่ทวีความรุนแรงขึ้นจะยิ่งตอกย้ำบทบาทของทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ช่วยรักษามูลค่าในช่วงเวลาที่ไม่แน่นอน

• ยูบีเอสยังชี้ให้เห็นถึงแผนของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ ที่จะบังคับใช้ทั้งภาษีตอบโต้ในวงกว้างและภาษีเพิ่มเติมในบางอุตสาหกรรมในวันที่ 2 เม.ย. ซึ่งอาจเป็นปัจจัยเสี่ยงที่กระตุ้นความต้องการสินทรัพย์ปลอดภัยในตลาดเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

• สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า ราคาทองคำ ซึ่งทะลุระดับจิตวิทยาสำคัญที่ 3,000 ดอลลาร์ต่อออนซ์เป็นครั้งแรกเมื่อวันศุกร์ (14 มี.ค.) จะได้รับผลประโยชน์จากแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่ซบเซา โดยตลาดคงคาดการณ์ว่า ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) อาจปรับลดอัตราดอกเบี้ยเพิ่มเติม ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจถดถอย

• แมคควอรี กรุ๊ป (Macquarie Group) คาดว่าราคาทองคำอาจพุ่งแตะ 3,500 ดอลลาร์ต่อออนซ์ในไตรมาส 2 ปีนี้ ขณะที่บีเอ็นพี พารีบาส์ (BNP Paribas) ได้ปรับเพิ่มแนวโน้มราคาทองคำเฉลี่ยอยู่ที่สูงกว่า 3,000 ดอลลาร์ต่อออนซ์

• Ole Hansen หัวหน้าฝ่ายกลยุทธ์สินค้าโภคภัณฑ์ของ Saxo Bank กล่าวว่า ราคาทองคำมีโอกาสปรับลดลงโดยมีแนวรับที่ระดับ 2,956 -2,930 ดอลลาร์สหรัฐฯ เนื่องจากนักลงทุนอาจเทขายทำกำไรออกมาเมื่อราคาทองคำขึ้นไปถึงระดับที่เป็นจิตวิทยาสำคัญ อย่างไรก็ตามยังมองว่าการปรับตัวลดลงของราคาทองคำในครั้งนี้เป็นโอกาสที่ดีสำหรับนักลงทุนในการเข้าซื้อ โดยเขายังคงเป้าหมายราคาทองคำในปี 2025 ไว้ที่ 3,300 ดอลลาร์ต่อออนซ์

ข่าวเกี่ยวกับค่าเงิน และธนาคารกลาง

• ดัชนีดอลลาร์ ปรับตัวลดลง -0.25 จุด หรือ -0.24% มาอยู่ที่ระดับ 103.49 จุด
• อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี  ปรับตัวลดลง 0.0 % มาอยู่ที่ระดับ 4.295% ในขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 2 ปี ปรับตัวขึ้น 0.04 % มาอยู่ที่ระดับ 4.046% โดยที่ส่วนต่างอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ 10 ปี มากกว่า 2 ปี เท่ากับ0.25%

• ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เสนอชื่อมิเชล โบว์แมน ผู้ว่าการธนาคารกลางสหรัฐฯ ให้ดำรงตำแหน่งรองประธานฝ่ายกำกับดูแลของธนาคารกลาง โดยคาดหวังว่าเธอจะทำหน้าที่กำกับดูแลนโยบายการผ่อนคลายกฎระเบียบและการกำกับดูแลธนาคาร ซึ่งจะเข้ามาแทนที่ไมเคิล บาร์ร์ ซึ่งลาออกจากตำแหน่งผู้กำกับดูแลเมื่อปลายเดือนกุมภาพันธ์ การตัดสินใจดังกล่าวได้รับการสนับสนุนจากธนาคารบนวอลล์สตรีทและผู้ให้สินเชื่อรายย่อย ซึ่งคาดหวังว่าเธอจะมีแนวทางที่เป็นมิตรต่ออุตสาหกรรมมากขึ้น

• นักลงทุนจับตาผลการประชุมเฟดในวันพุธนี้ รวมทั้งจับตาตัวเลขคาดการณ์เศรษฐกิจของเฟด และถ้อยแถลงของเจอโรม พาวเวล ประธานเฟด เพื่อประเมินว่าเฟดมีมุมมองอย่างไรต่อผลกระทบทางเศรษฐกิจที่เกิดจากการใช้มาตรการภาษีศุลกากรของรัฐบาลโดนัลด์ ทรัมป์

• สก็อตต์ เบสเซนต์ รัฐมนตรีคลังของสหรัฐฯ ให้สัมภาษณ์ในรายการ “Meet the Press” ของสถานีโทรทัศน์ NBC ว่า ไม่มีอะไรรับประกันได้ว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯ จะไม่เข้าสู่ภาวะถดถอยในช่วงที่ปธน.ทรัมป์อยู่ในอำนาจ อย่างไรก็ดี เขาปฏิเสธความเป็นไปได้ที่ว่า สหรัฐฯ จะเผชิญกับวิกฤตการณ์ทางการเงิน

• ธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) มีแนวโน้มที่จะคงอัตราดอกเบี้ยในการประชุมวันพฤหัสบดีนี้ (20 มี.ค.) และจะยังคงยึดมั่นในแนวทางการปรับเปลี่ยนนโยบายการเงินอย่างค่อยเป็นค่อยไป ในขณะที่ BoE เตรียมรับมือกับผลกระทบจากมาตรการภาษีการค้าของประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์ และข้อมูลเศรษฐกิจของอังกฤษที่ไม่เป็นไปในทิศทางเดียวกัน

• ธนาคารกลางจีน (PBOC) เปิดเผยว่า ยอดปล่อยกู้ใหม่สกุลเงินหยวนของธนาคารพาณิชย์จีนในเดือนก.พ.อยู่ที่ระดับ 1.01 ล้านล้านหยวน (1.3962 แสนล้านดอลลาร์) ลดลงอย่างมากจากระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในเดือนม.ค.ซึ่งอยู่ที่ 5.13 ล้านล้านหยวน

ข่าวเกี่ยวกับตลาดหุ้นและเศรษฐกิจ

• ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกติดต่อกันเป็นวันที่สองในวันจันทร์ โดยดัชนีหลักทั้ง 3 ดัชนีได้ปัจจัยหนุนจากการที่นักลงทุนช้อนซื้อเก็งกำไรหลังจากตลาดร่วงลงในช่วงที่ผ่านมา รวมทั้งได้แรงหนุนจากความหวังที่ว่าสงครามระหว่างรัสเซียและยูเครนมีแนวโน้มสิ้นสุดลง ขณะเดียวกันนักลงทุนประเมินข้อมูลเศรษฐกิจล่าสุดเพื่อหาสัญญาณบ่งชี้ถึงผลกระทบจากนโยบายต่าง ๆ ของรัฐบาลโดนัลด์ ทรัมป์

• ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 41,841.63 จุด เพิ่มขึ้น 353.44 จุด หรือ +0.85%
• ดัชนี S&P500 ปิดที่ 5,675.12 จุด เพิ่มขึ้น 36.18 จุด หรือ +0.64% 
• ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 17,808.66 จุด เพิ่มขึ้น 54.58 จุด หรือ +0.31%

• รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังของสหรัฐฯ กล่าวว่าไม่มีอะไรรับประกันได้ว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯ จะไม่เผชิญกับภาวะถดถอย อย่างไรก็ดี เขาปฏิเสธความเป็นไปได้ที่ว่า สหรัฐฯ จะเผชิญกับวิกฤตการณ์ทางการเงิน

• สมาคมผู้สร้างบ้านแห่งชาติ (NAHB) ของสหรัฐฯ เปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้สร้างบ้านลดลง 3 จุด สู่ระดับ 39 ในเดือนมี.ค. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนส.ค. 2567 และต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 42 โดยดัชนีความเชื่อมั่นได้รับผลกระทบจากการพุ่งขึ้นของราคาวัสดุก่อสร้างที่มีการนำเข้าจากต่างประเทศ อันเนื่องจากการทำสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ และประเทศคู่ค้า

• สำนักงานทั่วไปแห่งคณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์จีนประกาศ “แผนปฏิบัติการพิเศษเพื่อกระตุ้นการบริโภค” โดยมีเป้าหมายเพื่อฟื้นฟูการบริโภคในจีนซึ่งเป็นประเทศที่มีระบบเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับสองของโลก แผนการดังกล่าวมีวัตถุประสงค์เพื่อกระตุ้นการบริโภคให้มีความแข็งแกร่ง เพิ่มอุปสงค์ภายในประเทศ และปรับปรุงความสามารถในการบริโภคด้วยการเพิ่มรายได้และลดภาระให้กับผู้บริโภค

• สำนักงานสถิติแห่งชาติจีน (NBS) เปิดเผยว่า ราคาบ้านใหม่ในจีนปรับตัวลดลงในเดือนก.พ. ซึ่งเป็นการปรับตัวลงครั้งแรกในรอบ 6 เดือน แม้รัฐบาลจีนได้ออกมาตรการพยุงภาคอสังหาริมทรัพย์ครั้งล่าสุดก็ตาม

ข่าวเกี่ยวกับน้ำมัน

• สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกในวันจันทร์ หลังจากสหรัฐฯ ยืนยันว่าจะเดินหน้าโจมตีกลุ่มฮูตี จนกว่าจะยอมยุติการโจมตีเรือสินค้าในทะเลแดง นอกจากนี้ ข้อมูลเศรษฐกิจที่สดใสของจีนยังทำให้นักลงทุนมีความหวังว่าอุปสงค์น้ำมันในประเทศจีนจะฟื้นตัวขึ้นด้วย

• สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนเม.ย. เพิ่มขึ้น 40 เซนต์ หรือ 0.6% ปิดที่ 67.58 ดอลลาร์/บาร์เรล
• สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนพ.ค. เพิ่มขึ้น 49 เซนต์ หรือ 0.69% ปิดที่ 71.07 ดอลลาร์/บาร์เรล

• ราคาน้ำมันยังได้แรงหนุนจากข้อมูลเศรษฐกิจจีน โดยสำนักงานสถิติแห่งชาติจีน (NBS) รายงานว่า ยอดค้าปลีกในช่วงเดือนม.ค.-ก.พ. ปรับตัวขึ้น 4% เมื่อเทียบรายปี ซึ่งเป็นสัญญาณบ่งชี้ว่าการบริโภคของจีนขยายตัวรวดเร็วในช่วงต้นปี โดยได้แรงหนุนจากการที่รัฐบาลออกมาตรการกระตุ้นการบริโภค

• นักลงทุนจับตาการเปิดเผยสต็อกน้ำมันดิบของสถาบันปิโตรเลียมอเมริกา (API) ในวันนี้ ก่อนที่สำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐฯ (EIA) จะเปิดเผยตัวเลขสต็อกน้ำมันดิบอย่างเป็นทางการในวันพุธ

• โกลด์แมน แซคส์ กรุ๊ป ปรับลดคาดการณ์ราคาน้ำมันลง เนื่องจากการตั้งกำแพงภาษีส่งผลกระทบต่อแนวโน้มการเติบโตของสหรัฐฯ ประกอบกับกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมันและชาติพันธมิตร หรือโอเปกพลัส เพิ่มกำลังการผลิต

ข่าวเกี่ยวกับการเมือง

• ดมิทรี เพสคอฟ โฆษกทำเนียบเครมลินยืนยันว่า รัสเซียกำลังเตรียมการสำหรับการสนทนาทางโทรศัพท์ระหว่างประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย และประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐ ในวันนี้ (18 มี.ค.) โดยการสนทนาดังกล่าวมีเป้าหมายที่จะยุติสงครามในยูเครน

• โอลิเวอร์ เพิร์ช รองประธานบริษัท Wealthspire Advisors กล่าวว่า ความเป็นไปได้ที่สงครามระหว่างรัสเซียและยูเครนจะสิ้นสุดลงและนำไปสู่การทำข้อตกลงสันติภาพแบบถาวรนั้น ไม่เพียงแต่เป็นปัจจัยบวกต่อตลาดหุ้นสหรัฐฯ เท่านั้น แต่ยังเป็นผลดีกับตลาดทั่วโลกด้วย

• ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ เปิดเผยว่า เขาไม่มีความประสงค์ที่จะยกเว้นภาษีนำเข้าเหล็กและอะลูมิเนียม พร้อมระบุว่ามาตรการภาษีศุลกากรตอบโต้ (Reciprocal Tariffs) และมาตรการภาษีเฉพาะภาคส่วนจะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 2 เม.ย.นี้

ข่าวเกี่ยวกับเศรษฐกิจไทยและค่าเงินบาท

• นักบริหารการเงิน เปิดเผยว่า ค่าเงินบาทเปิดเช้านี้ ที่ระดับ  33.58 บาทต่อดอลลาร์ “แข็งค่าขึ้นเล็กน้อย แทบไม่เปลี่ยนแปลง” จากระดับปิดวันที่ผ่านมา ณ ระดับ 33.59 บาทต่อดอลลาร์ มองกรอบเงินบาทวันนี้คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 33.50-33.75 บาทต่อดอลลาร์ 

 

 

 

ที่มาจาก : yahoo finance, Reuters, kitco news, investing, Infoquest

Tags : ข่าวทอง, ข่าวทอง , ทอง , ราคาทอง