MTS Help Center

สรุปตัวเลขเศรษฐกิจ

• Core Durable Goods Orders m/m ออกมาที่ 0.7% เพิ่มขึ้นจากคาดการณ์ 0.2% และครั้งก่อนที่ 0.1% 
• Durable Goods Orders m/m ออกมาที่ 0.9% เพิ่มขึ้นจากคาดการณ์ -1.1% และครั้งก่อนที่ 3.2%

• ภาพรวมตัวเลขเศรษฐกิจ ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนของสหรัฐฯ พุ่งสูงเกินคาดในเดือนกุมภาพันธ์ เนื่องจากภาคธุรกิจเร่งซื้อสินค้าเพื่อหลีกเลี่ยงภาษีนำเข้าที่อาจเพิ่มขึ้น ซึ่งคาดว่าจะส่งผลให้การลงทุนในสินทรัพย์ถาวร สินค้าคงทนเพิ่มมากขึ้นในไตรมาสแรก

ข่าวเกี่ยวกับทองคำ

• สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดลบในวันพุธ เนื่องจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์และการพุ่งขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรเป็นปัจจัยกดดันตลาด อย่างไรก็ดี ราคาทองคำยังคงเคลื่อนไหวที่เหนือระดับ 3,000 ดอลลาร์ เนื่องจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับมาตรการภาษีศุลกากรของรัฐบาลโดนัลด์ ทรัมป์ ทำให้นักลงทุนบางส่วนเข้าซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย

• ราคาทองคำตลาดโลก ปรับตัวขึ้น 3.86 เหรียญ หรือ 0.13% อยู่ที่ระดับ 3,025.03 เหรียญ
• สัญญาทองคำตลาด COMEX ส่งมอบเดือนเม.ย. ลดลง 3.40 ดอลลาร์ หรือ 0.11% ปิดที่ 3,022.50 ดอลลาร์/ออนซ์
• กองทุนทองคำ SPDR วันก่อนหน้าไม่เปลี่ยนแปลง ปัจจุบันถือครองที่ 929.36 ตันภาพรวมเดือนมีนาคม ซื้อสุทธิ 24.98 ตัน ขณะที่ปีนี้ ตั้งแต่ 1 ม.ค. - ปัจจุบัน ซื้อสุทธิ 56.84 ตัน

• นักวิเคราะห์จากบริษัท Zaner Metals กล่าวว่า ราคาทองคำยังคงเคลื่อนไหวเหนือระดับ 3,000 ดอลลาร์ โดยได้ปัจจัยหนุนจากแรงซื้อสินทรัพย์ปลอดภัย ท่ามกลางความวิตกกังวลเกี่ยวกับผลกระทบของมาตรการภาษีศุลกากรและความเสี่ยงด้านภูมิรัฐศาสตร์ นอกจากนี้ นักวิเคราะห์ยังคาดการณ์ว่าราคาทองคำมีแนวโน้มดีดตัวขึ้นแตะระดับ 3,150 ดอลลาร์

ข่าวเกี่ยวกับค่าเงิน และธนาคารกลาง

• ดัชนีดอลลาร์ ปรับตัวขึ้น 0.21 จุด หรือ 0.2% มาอยู่ที่ระดับ 104.45 จุด
• อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี ปรับตัวขึ้น 0.01 % มาอยู่ที่ระดับ 4.342% ในขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 2 ปี ปรับตัวลดลง -0.01 % มาอยู่ที่ระดับ 4.002% โดยที่ส่วนต่างอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ 10 ปี มากกว่า 2 ปี เท่ากับ0.34%

• นายอัลเบอร์โต มูซาเล็ม ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาเซนต์หลุยส์ กล่าวว่า ภาษีศุลกากรใหม่ของอดีตประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ อาจดันเงินเฟ้อระยะยาว แตกต่างจากมุมมองของ ประธานเฟดเจอโรม พาวเวลล์  ที่มองว่าเงินเฟ้อจะขึ้นแค่ "ชั่วคราว" และย้ำว่า"ผลกระทบทางตรงจากภาษี อาจแค่ช่วงสั้นๆ แต่ผลทางอ้อมอาจดันเงินเฟ้อเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง"

• นาย นีล คาชการี ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขามินนีแอโพลิส กล่าวว่า ผลกระทบของมาตรการภาษีศุลกากรของประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ต่อเศรษฐกิจสหรัฐฯ ยังไม่ชัดเจน โดยอาจทำให้ราคาสินค้าสูงขึ้นและกดดันให้ขึ้นดอกเบี้ย หรืออาจชะลอเศรษฐกิจและต้องลดดอกเบี้ย เขาชี้ว่า ปัจจัยเหล่านี้อาจจะ
  "หักล้างกัน " ดังนั้นเฟดควรรอดูสถานการณ์ให้ชัดเจนก่อนตัดสินใจ

• ออสตัน กูลส์บี ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาชิคาโก กล่าวว่า เขาคาดว่าอัตราดอกเบี้ยจะ "ปรับลดลงเล็กน้อย" ในช่วง 12-18 เดือนข้างหน้า อย่างไรก็ตาม เขายังกล่าวเตือนว่า ด้วยความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจในปัจจุบัน การปรับลดอัตราดอกเบี้ยครั้งต่อไปอาจเกิดขึ้นช้ากว่าที่หลายฝ่ายคาดการณ์ไว้

ข่าวเกี่ยวกับตลาดหุ้นและเศรษฐกิจ

• ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบในวันพุธ เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับผลกระทบของสงครามการค้า โดยล่าสุดประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ ได้ลงนามในคำสั่งเรียกเก็บภาษีนำเข้ารถยนต์ในอัตรา 25%

• ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 42,454.79 จุด ลดลง 132.71 จุด หรือ -0.31%
• ดัชนี S&P500 ปิดที่ 5,712.20 จุด ลดลง 64.45 จุด หรือ -1.12% 
• ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 17,899.02 จุด ลดลง 372.84 จุด หรือ -2.04%

• ดัชนีหลักทั้ง 3 ดัชนีร่วงลงทันทีที่คาโรไลน์ เลวิตต์ โฆษกทำเนียบขาวกล่าวว่า ปธน.ทรัมป์จะจัดการแถลงข่าวในวันพุธเพื่อประกาศการเรียกเก็บภาษีนำเข้ารถยนต์ และล่าสุดมีรายงานว่าขณะนี้ปธน.ทรัมป์ได้ลงนามในคำสั่งฝ่ายบริหารแล้ว เพื่อเรียกเก็บภาษีนำเข้ารถยนต์ในอัตรา 25% โดยจะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 2 เม.ย. ซึ่งทรัมป์ระบุว่ารถยนต์ที่จะถูกเรียกเก็บภาษีศุลกากรครั้งนี้ คือรถยนต์ทุกคันที่ไม่ได้ผลิตในสหรัฐฯ ส่วนรถยนต์ที่ผลิตในสหรัฐฯ จะได้รับการยกเว้นภาษี

• ความเคลื่อนไหวดังกล่าวของรัฐบาลสหรัฐฯ ส่งผลให้ตลาดวิตกกังวลเกี่ยวกับสงครามการค้าทั่วโลก ขณะที่ผู้เชี่ยวชาญในแวดวงอุตสาหกรรมรถยนต์คาดการณ์ว่า การเรียกเก็บภาษีนำเข้ารถยนต์จะส่งผลให้ราคารถยนต์ปรับตัวสูงขึ้นและเป็นอุปสรรคต่อการผลิต

• หุ้นบริษัทผลิตรถยนต์ร่วงลงอย่างหนัก โดยหุ้นเทสลา (Tesla) ร่วงลง 5.6% หุ้นเจเนอรัล มอเตอร์ (GM) ร่วงลง 3.1% ท่ามกลางความวิตกกังวลว่าสหรัฐฯ อาจจะถูกบรรดาประเทศคู่ค้าใช้มาตรการภาษีศุลกากรตอบโต้ ซึ่งจะส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อเศรษฐกิจและภาคธุรกิจทั่วโลก

• นักวิเคราะห์ของบาร์เคลย์ส (Barclays) ได้ปรับลดเป้าหมายดัชนี S&P500 ลงสู่ระดับ 5,900 จุด จากระดับ 6,600 จุด โดยระบุว่า มาตรการภาษีศุลกากรมีแนวโน้มที่จะทำให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจในสหรัฐฯ ชะลอตัวลงอย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียน

• ศาสตราจารย์ด้านเศรษฐศาสตร์ เผยว่า สหรัฐฯ มีโอกาสน้อยมากที่จะบรรลุเป้าหมายต่างๆ หากใช้มาตรการภาษีนำเข้าเป็นเครื่องมือเพียงอย่างเดียว

• ผู้ว่าการธนาคารกลางฝรั่งเศส ได้ออกมาวิพากษ์วิจารณ์นโยบายของรัฐบาลทรัมป์ โดยกล่าวว่านโยบายดังกล่าวส่งผลกระทบเชิงลบต่อระบบเศรษฐกิจ และระบบความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ซึ่งส่งผลเสียต่อเศรษฐกิจสหรัฐฯ และยุโรป

ข่าวเกี่ยวกับน้ำมัน

• สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกในวันพุธ โดยได้ปัจจัยหนุนจากสต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐฯ ที่ลดลงมากกว่าคาดในสัปดาห์ที่แล้ว รวมทั้งการคาดการณ์ที่ว่าอุปทานน้ำมันในตลาดโลกจะเผชิญภาวะตึงตัวหลังจากสหรัฐฯ ประกาศเรียกเก็บภาษีศุลกากรกับประเทศที่ซื้อน้ำมันและก๊าซจากเวเนซุเอลา

• สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนพ.ค. เพิ่มขึ้น 65 เซนต์ หรือ 0.94% ปิดที่ 69.65 ดอลลาร์/บาร์เรล
• สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนพ.ค. เพิ่มขึ้น 77 เซนต์ หรือ 1.05% ปิดที่ 73.79 ดอลลาร์/บาร์เรล

ข่าวเกี่ยวกับการเมือง

• ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ ได้ลงนามคำสั่งฝ่ายบริหาร ที่กำหนดให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งต้องแสดงหลักฐานว่าเป็นพลเมืองสหรัฐฯ และพยายามป้องกันไม่ให้รัฐต่าง ๆ นับคะแนนบัตรเลือกตั้งทางไปรษณีย์ที่ได้รับหลังจากวันเลือกตั้ง และคำสั่งนี้ยังมุ่งที่จะตัดเงินสนับสนุนของรัฐบาลกลางสำหรับรัฐที่ไม่ปฏิบัติตามด้วย

• ประธานาธิบดีโวโลดิเมียร์ เซเลนสกี ผู้นำยูเครน เปิดเผยว่า สหรัฐฯ เสนอข้อตกลงแร่หายากฉบับใหม่ต่อเคียฟ โดยอิงตามกรอบความตกลงก่อนหน้านี้ โดยภายใต้ข้อตกลงเวอร์ชันใหม่ สหรัฐฯ จะไม่มีส่วนร่วมในโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ของยูเครน 

• สหรัฐอเมริกาประกาศเพิ่มบริษัทของจีนกว่า 50 แห่งเข้าในบัญชีดำจำกัดการส่งออก หวังลดความสามารถของจีนในการพัฒนาการประมวลผลประสิทธิภาพสูง เทคโนโลยีควอนตัม และปัญญาประดิษฐ์ (AI) ขั้นสูง ตลอดจนอาวุธไฮเปอร์โซนิก

• เผิง เซิน ประธานสมาคมปฏิรูปเศรษฐกิจจีน ได้เสนอแนะว่า จีนควรตั้งเป้าหมายที่จะเพิ่มการบริโภคให้อยู่ในระดับที่ใกล้เคียงกับประเทศพัฒนาแล้วภายในทศวรรษหน้า ซึ่งถือเป็นส่วนหนึ่งของการผลักดันการเปลี่ยนแปลงเศรษฐกิจของจีน ซึ่งโดยปกติจะเน้นการลงทุนและการส่งออกเป็นหลัก

ข่าวเกี่ยวกับเศรษฐกิจไทยและค่าเงินบาท

• นักบริหารการเงิน เปิดเผยว่า ค่าเงินบาทเปิดเช้านี้ ที่ระดับ  34.01 บาทต่อดอลลาร์ “อ่อนค่าลง เล็กน้อย”จากระดับปิดวันที่ผ่านมา ณ ระดับ  33.95 บาทต่อดอลลาร์ มองกรอบเงินบาทวันนี้  คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 33.90-34.10 บาทต่อดอลลาร์

 

ที่มาจาก : yahoo finance, Reuters, kitco news, investing, Infoquest

Tags : ข่าวทอง, ข่าวทอง , ทอง , ราคาทอง