• สรุปข่าวราคาทองคำ ประจำวันที่ 31 มีนาคม 2568

    31 มีนาคม 2568 | Gold News


สรุปตัวเลขเศรษฐกิจ


  • Core PCE Price Index m/m ออกมาที่ 0.4% สูงกว่าคาดการณ์ที่ 0.3% และครั้งก่อนที่ 0.3%
  • Revised UoM Consumer Sentiment ออกมาที่ 57.0 สูงกว่าคาดการณ์ที่ 57.9 และครั้งก่อนที่ 57.9

ข่าวเกี่ยวกับทองคำ


  • สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในวันศุกร์ เนื่องจากนักลงทุนแห่เข้าซื้อสัญญาทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย ท่ามกลางความกังวลว่า สงครามการค้าทั่วโลกอาจปะทุขึ้นจากมาตรการภาษีนำเข้าล่าสุดของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์แห่งสหรัฐฯ


  • ราคาทองคำตลาดโลก ปรับตัวขึ้น 34.5 เหรียญ หรือ 1.13% อยู่ที่ระดับ 3,090.57 เหรียญ
  • สัญญาทองคำตลาด COMEX ส่งมอบเดือนมิ.ย. เพิ่มขึ้น 23.40 ดอลลาร์ หรือ 0.76% ปิดที่ 3,114.30 ดอลลาร์/ออนซ์ และปรับตัวขึ้น 2.96% ในรอบสัปดาห์นี้
  • กองทุนทองคำ SPDR วันก่อนหน้าซื้อเข้า 2.29 ตัน ปัจจุบันถือครองที่ 931.94 ตันภาพรวมเดือนมีนาคม ซื้อสุทธิ 27.56 ตัน ขณะที่ปีนี้ ตั้งแต่ 1 ม.ค. - ปัจจุบัน ซื้อสุทธิ 59.42 ตัน


  • นักวิเคราะห์กล่าวว่า ราคาทองคำได้รับแรงหนุนจากอุปสงค์ในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย เนื่องจากความกังวลที่เพิ่มขึ้นเกี่ยวกับภาษี, การค้าระหว่างประเทศ และความไม่แน่นอนทางภูมิรัฐศาสตร์


  • นายกสมาคมค้าทองคำ กล่าวว่า ประชาชนหันมาให้ความสนใจลงทุนซื้อเก็บไว้เพื่อเก็งกำไรมากกว่าการนำออกมาขาย ซึ่งดูจากยอดนำเข้าทองคำในเดือน ก.พ.68 พบว่ามีปริมาณ 18.43 ตัน แต่มีการส่งออกเพียง 10.34 ตัน อย่างไรก็ตาม หากวันนี้ราคาทองในตลาดโลกสามารถยืนอยู่เหนือระดับ 3,075 ดอลลาร์/ออนซ์ แนวรับที่แข็งแกร่งต่อไปอยู่ที่ 3,120 ดอลลาร์/ออนซ์ โดยมองว่าราคาทองยังมีแนวโน้มปรับตัวเพิ่มขึ้น เนื่องจากมีหลายปัจจัยเป็นตัวเร่ง อาทิ ความกังวลเกี่ยวกับสงครามการค้าที่อาจส่งผลกระทบรุนแรงต่อภาวะการค้าโลก โดยเฉพาะการดำเนินนโยบายเรื่องกำแพงภาษีของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ซึ่งคาดว่าธนาคารกลางของประเทศต่าง ๆ ซื้อทองเก็บเข้าสต็อกเพิ่มขึ้นเพื่อป้องกันความเสี่ยง


ข่าวเกี่ยวกับค่าเงิน และธนาคารกลาง


  • ดัชนีดอลลาร์ ปรับตัวลดลง -0.46 จุด หรือ -0.44% มาอยู่ที่ระดับ 103.82 จุด
  • อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี  ปรับตัวลดลง -0.14 % มาอยู่ที่ระดับ 4.211% ในขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 2 ปี ปรับตัวลดลง -0.13 % มาอยู่ที่ระดับ 3.865% โดยที่ส่วนต่างอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ 10 ปี มากกว่า 2 ปี เท่ากับ0.35%


  • ทอม บาร์กิน ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) สาขาริชมอนด์ กล่าวว่า ความไม่แน่นอนที่สูงมากเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงนโยบายของรัฐบาลสหรัฐฯ เป็นเหตุผลสำคัญที่เฟดยังคงใช้นโยบายการเงินแบบคุมเข้มปานกลางในปัจจุบัน และความไม่แน่นอนนี้อาจส่งผลให้ดีมานด์ชะลอตัวลงได้ นอกจากนี้ยังกล่าวเสริมว่า หากรัฐบาลสหรัฐฯ เดินหน้าขึ้นภาษีนำเข้ารถยนต์ 25% จริง บริษัทรถยนต์จะต้องตัดสินใจเรื่องยาก ๆ เกี่ยวกับราคาขายและอัตรากำไร แม้เขาเชื่อว่าผู้บริโภคคงไม่ต้องแบกรับภาระต้นทุนที่เพิ่มขึ้นทั้งหมดก็ตาม


  • ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาบอสตันกล่าวว่า มาตรการภาษีศุลกากรของรัฐบาลโดนัลด์ ทรัมป์ จะส่งผลให้เงินเฟ้อในสหรัฐฯ ปรับตัวสูงขึ้นในระยะเวลาอันใกล้นี้ แต่ก็ยังไม่ชัดเจนว่ามาตรการดังกล่าวจะทำให้แรงกดดันด้านเงินเฟ้อเกิดขึ้นเป็นเวลานานเพียงใด


ข่าวเกี่ยวกับตลาดหุ้นและเศรษฐกิจ


  • ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดร่วงลงในวันศุกร์ โดยหุ้นเทคโนโลยียักษ์ใหญ่อย่าง อะเมซอน (Amazon), ไมโครซอฟท์ (Microsoft) และหุ้นอื่น ๆ ถูกเทขายออกมา หลังจากการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ทำให้เกิดความกังวลเกี่ยวกับการเติบโตทางเศรษฐกิจที่อ่อนแอและเงินเฟ้อที่สูงขึ้น ขณะที่รัฐบาลของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐฯ เดินหน้าเก็บภาษีนำเข้า


  • ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 41,583.90 จุด ลดลง 715.80 จุด หรือ -1.69%
  • ดัชนี S&P500 ปิดที่ 5,580.94 จุด ลดลง 112.37 จุด หรือ -1.97% 
  • ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 17,322.99 จุด ลดลง 481.04 จุด หรือ -2.70%


  • ในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา ดัชนีดาวโจนส์ลดลงประมาณ 1%, ดัชนี S&P500 ลดลง 1.5% และดัชนี Nasdaq ลดลง 2.6%


  • ตลาดร่วงลงหลังการเปิดเผยข้อมูลการใช้จ่ายของผู้บริโภคสหรัฐฯ ในเดือนก.พ.ฟื้นตัวน้อยกว่าที่คาดไว้ ขณะที่ดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคลพื้นฐาน (Core PCE) ปรับตัวขึ้นมากที่สุดในรอบ 13 เดือน


  • นอกจากนี้ ผลสำรวจของมหาวิทยาลัยมิชิแกนบ่งชี้ว่า การคาดการณ์เงินเฟ้อของผู้บริโภคในช่วง 12 เดือนข้างหน้าพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบเกือบ 2 ปีครึ่งในเดือนมี.ค. และผู้บริโภคคาดว่าเงินเฟ้อจะยังคงสูงต่อไปเกินกว่าหนึ่งปี


  • ข้อมูลเศรษฐกิจดังกล่าวทำให้เกิดความกังวลว่า การที่ประธานาธิบดีทรัมป์ออกมาตรการภาษีจำนวนมากนับตั้งแต่เข้ารับตำแหน่งในเดือนม.ค. จะทำให้ราคาสินค้านำเข้าสูงขึ้น กระตุ้นเงินเฟ้อ และอาจทำให้ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ไม่สามารถปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงได้


  • สมาชิกคณะกรรมการธนาคารกลางยุโรป (ECB) กล่าว ว่า พฤติกรรมการบริโภคที่ซบเซาในยูโรโซน ซึ่งเป็นปัจจัยขัดขวางการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ อาจมีสาเหตุสำคัญมาจากการรับรู้ที่คลาดเคลื่อนของผู้บริโภค เกี่ยวกับสถานการณ์เงินเฟ้อและรายได้ที่แท้จริง


  • ตัวเลขทางการญี่ปุ่นเปิดเผยว่า เงินเฟ้อพื้นฐาน (Core CPI) ในกรุงโตเกียวเดือนมี.ค. เพิ่มขึ้นเป็น 2.4% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า เร่งตัวขึ้นจาก 2.2% ในเดือนก.พ. และยังคงสูงกว่าเป้าหมาย 2% ของธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ)


ข่าวเกี่ยวกับน้ำมัน


  • สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดลดลงในวันศุกร์ เนื่องจากนักลงทุนกังวลว่า การทำสงครามภาษีของสหรัฐฯ อาจกระตุ้นให้เกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอยทั่วโลก อย่างไรก็ตาม ราคาน้ำมันยังคงปรับตัวขึ้นต่อเนื่องเป็นสัปดาห์ที่สาม หลังจากรัฐบาลสหรัฐฯ เพิ่มแรงกดดันต่อประเทศผู้ผลิตน้ำมันในกลุ่มโอเปกอย่างเวเนซุเอลาและอิหร่าน


  • สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนพ.ค. ลดลง 56 เซนต์ หรือ 0.8% ปิดที่ 69.36 ดอลลาร์/บาร์เรล
  • สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนพ.ค. ลดลง 40 เซนต์ หรือ 0.54% ปิดที่ 73.63 ดอลลาร์/บาร์เรล


  • ในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา ราคาน้ำมันดิบ WTI เพิ่มขึ้น 1.6% และราคาน้ำมันดิบเบรนท์ปรับตัวขึ้น 1.9% ขณะที่ในเดือนมี.ค.นั้น ราคาน้ำมันดิบ WTI ปรับตัวขึ้นมากกว่า 6% และราคาน้ำมันดิบเบรนท์ปรับตัวขึ้นกว่า 7% นับตั้งแต่แตะระดับต่ำสุดในรอบหลายเดือนในช่วงต้นเดือน


  • บริษัทรีไลแอนซ์ อินดัสทรีส์ (Reliance Industries) ของอินเดีย ซึ่งเป็นผู้ดำเนินงานโรงกลั่นน้ำมันที่ใหญ่ที่สุดในโลก เตรียมยุติการนำเข้าน้ำมันจากเวเนซุเอลา


  • ตลาดน้ำมันกำลังปรับตัวตามแนวโน้มอุปทานทั่วโลก ท่ามกลางมาตรการคว่ำบาตรของสหรัฐฯ ต่อเวเนซุเอลาและอิหร่าน โดยทรัมป์ให้คำมั่นว่าจะลดการส่งออกน้ำมันของอิหร่านลงเหลือศูนย์ และสหรัฐฯ ได้ออกมาตรการคว่ำบาตรกับอุตสาหกรรมน้ำมันของอิหร่านมาแล้ว 4 รอบ นับตั้งแต่ทรัมป์กลับมาดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีสมัยที่ 2


ข่าวเกี่ยวกับการเมือง


  • นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นกล่าวว่า แผนการของรัฐบาลสหรัฐฯ ที่จะจัดเก็บภาษีนำเข้ารถยนต์ 25% จะส่งผลกระทบอย่างมากต่อเศรษฐกิจญี่ปุ่น เนื่องจากการส่งออกเป็นปัจจัยขับเคลื่อนหลักของเศรษฐกิจญี่ปุ่น นอกจากนี้ยังกล่าวว่าเราจะหาวิธีที่มีประสิทธิภาพที่สุดในการทำให้สหรัฐฯ เข้าใจว่านโยบายนี้จะไม่เป็นประโยชน์ต่อพวกเขาและแสดงพร้อมที่จะเจรจากับสหรัฐฯ ต่อไป


  • อุตสาหกรรมรถยนต์เกาหลีใต้ได้ออกมาเรียกร้องให้รัฐบาลใช้นโยบายต่าง ๆ เพื่อลดผลกระทบจากการที่สหรัฐฯ เตรียมบังคับใช้มาตรการเรียกภาษีรถยนต์นำเข้า และมาตรการภาษีศุลกากรตอบโต้ (Reciprocal Tariffs) ในสัปดาห์นี้


  • ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐฯ กล่าวว่า มีความเป็นไปได้ที่สหรัฐฯ และประเทศอื่น ๆ จะสามารถบรรลุข้อตกลงเกี่ยวกับภาษีตอบโต้ระหว่างกันได้ แต่จะเกิดขึ้นหลังจากวันที่ 2 เม.ย.เท่านั้น


  • จีนกำลังเดินหน้ากระชับความสัมพันธ์กับญี่ปุ่นและเกาหลีใต้ เพื่อผลักดันการปลดอาวุธนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือ ซึ่งอาจส่งผลต่อพลวัตความสัมพันธ์ระหว่างทั้งสองประเทศกับสหรัฐฯ


  • เกาหลีใต้ จีน และญี่ปุ่น จัดการประชุมหารือด้านเศรษฐกิจร่วมกันเป็นครั้งแรกในรอบ 5 ปี เมื่อวานนี้ โดยมีเป้าหมายเพื่อส่งเสริมการค้าในภูมิภาค ขณะที่ทั้งสามประเทศเตรียมรับมือกับมาตรการภาษีนำเข้าของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ


  • รัฐบาลสหรัฐฯ ส่งจดหมายเตือนไปยังบริษัทในฝรั่งเศสและสหภาพยุโรป (EU) ที่ทำสัญญากับรัฐบาลสหรัฐฯ โดยแจ้งให้ปฏิบัติตามคำสั่งฝ่ายบริหารที่ห้ามดำเนินโครงการส่งเสริมความหลากหลาย ความเท่าเทียม และการไม่แบ่งแยก (DEI) หากต้องการรักษาสัญญาจ้าง
 
  • เจ้าหน้าที่และกองทัพยูเครนรายงานว่า โดรนรัสเซียได้โจมตีเมืองคาร์คิฟ เมืองใหญ่อันดับสองของยูเครน เมื่อคืนวันเสาร์ที่ผ่านมา (29 มี.ค.) โดยมุ่งเป้าไปที่โรงพยาบาลทหาร ศูนย์การค้า อาคารที่พักอาศัย และสถานที่สำคัญอื่น ๆ ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 2 ราย และบาดเจ็บอย่างน้อย 25 ราย

ข่าวเกี่ยวกับเศรษฐกิจไทยและค่าเงินบาท


  • นักบริหารการเงิน เปิดเผยว่า ค่าเงินบาทเปิดเช้านี้ ที่ระดับ  34.01 บาทต่อดอลลาร์อ่อนค่าลงเล็กน้อย แทบไม่เปลี่ยนแปลงจากระดับปิดสัปดาห์ก่อนหน้า ที่ระดับ  33.99 บาทต่อดอลลาร์ มองกรอบค่าเงินบาทสัปดาห์นี้ ที่ระดับ 33.70-34.50 บาทต่อดอลลาร์ ส่วนกรอบเงินบาทวันนี้ คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 33.85-34.10 บาทต่อดอลลาร์

 

 

ที่มาจาก : yahoo finance, Reuters, kitco news, investing, Infoquest

Tags : ข่าวทองข่าวทอง ทอง ราคาทอง

บริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ จำกัด
40,42,44 ถนนทรัพย์สิน แขวงวังบูรพาภิรมย์เขตพระนคร กรุงเทพ 10200
โทรศัพท์ 0 2770 7777 โทรสาร 0 2623 9366 E-mail: support@mtsgoldgroup.com