• สรุปข่าวราคาทองคำ ประจำวันที่ 9 เมษายน 2568

    9 เมษายน 2568 | Gold News


ข่าวเกี่ยวกับทองคำ


  • สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกในวันอังคาร โดยได้ปัจจัยหนุนจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์ และจากการที่นักลงทุนเข้าซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย ท่ามกลางสงครามการค้าที่ทวีความรุนแรงมากขึ้นระหว่างจีนและสหรัฐฯ ซึ่งเป็นสองประเทศที่มีระบบเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดในโลก


  • ราคาทองคำตลาดโลก ปรับตัวขึ้น 4.44 เหรียญ หรือ 0.15% อยู่ที่ระดับ 2,986.53 เหรียญ
  • สัญญาทองคำตลาด COMEX ส่งมอบเดือนมิ.ย. เพิ่มขึ้น 16.60 ดอลลาร์ หรือ 0.55% ปิดที่ 2,990.20 ดอลลาร์/ออนซ์
  • กองทุนทองคำ SPDR วันก่อนหน้าขายออก 0.86 ตัน ปัจจุบันถือครองที่ 925.92 ตันภาพรวมเดือนเมษายน ขายสุทธิ 7.46 ตัน ขณะที่ปีนี้ ตั้งแต่ 1 ม.ค. - ปัจจุบัน ซื้อสุทธิ 53.4 ตัน


  • ความวิตกกังวลเกี่ยวกับผลกระทบของสงครามการค้าเป็นปัจจัยหนุนแรงซื้อทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย โดยเฉพาะอย่างยิ่งการทำสงครามการค้าระหว่างสองชาติมหาอำนาจทางเศรษฐกิจอย่างจีนและสหรัฐฯ


ข่าวเกี่ยวกับค่าเงิน และธนาคารกลาง


  • ดัชนีดอลลาร์ ปรับตัวลดลง -1.1 จุด หรือ -1.06% มาอยู่ที่ระดับ 102.33 จุด
  • อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี ปรับตัวขึ้น 0.14 % มาอยู่ที่ระดับ 4.33% ในขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 2 ปี ปรับตัวลดลง -0.1 % มาอยู่ที่ระดับ 3.663% โดยที่ส่วนต่างอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ 10 ปี มากกว่า 2 ปี เท่ากับ0.67%


  • แมรี เดลีย์ ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) สาขาซานฟรานซิสโก แสดงความเห็นว่า ยังไม่จำเป็นต้องเร่งปรับลดอัตราดอกเบี้ย เนื่องจากเศรษฐกิจและตลาดแรงงานยังคงแข็งแกร่ง ขณะที่ยังมีความไม่แน่นอนเกี่ยวกับขนาดและผลกระทบของภาษีศุลกากรที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ และกล่าวว่า แม้จะ "มีความกังวลเล็กน้อย" ต่อผลกระทบของภาษีศุลกากรต่ออัตราเงินเฟ้อในระยะสั้น แต่ "ด้วยการเติบโตทางเศรษฐกิจที่ดีและนโยบายที่เหมาะสม เราจึงสามารถดำเนินการอย่างค่อยเป็นค่อยไปและระมัดระวังได้"


ข่าวเกี่ยวกับตลาดหุ้นและเศรษฐกิจ


  • ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดร่วงลงติดต่อกันเป็นวันที่ 4 ในวันอังคาร ขณะที่ดัชนี S&P500 ปิดร่วงลงสู่ระดับต่ำกว่า 5,000 จุดเป็นครั้งแรกในรอบเกือบ 1 ปี เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลว่าประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ จะเดินหน้าบังคับใช้มาตรการภาษีศุลกากรกับประเทศต่าง ๆ ตามกำหนดที่วางไว้


  • ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 37,645.59 จุด ลดลง 320.01 จุด หรือ -0.84%
  • ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,982.77 จุด ลดลง 79.48 จุด หรือ -1.57% 
  • ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 15,267.91 จุด ลดลง 335.35 จุด หรือ -2.15%


  • ในช่วงแรก ดัชนีดาวโจนส์ และ S&P500 ดีดตัวขึ้นอย่างแข็งแกร่ง หลังจากสก็อตต์ เบสเซนต์ รัฐมนตรีคลังสหรัฐฯ เปิดเผยว่า นับตั้งแต่ที่ปธน.ทรัมป์ประกาศมาตรการเรียกเก็บภาษีศุลกากรครั้งใหญ่เมื่อวันที่ 2 เม.ย. รัฐบาลของเกือบ 70 ประเทศก็ได้ติดต่อเข้ามาเพื่อขอเจรจาทางการค้ากับสหรัฐฯ ซึ่งสหรัฐฯ ก็เปิดกว้างสำหรับการเจรจากับประเทศต่าง ๆ


  • แต่ดัชนีได้ร่วงลงสู่แดนลบในเวลาต่อมา หลังจากแคโรไลน์ เลวิตต์ โฆษกทำเนียบขาวกล่าวว่า ปธน.ทรัมป์จะบังคับใช้มาตรการภาษีศุลกากรตามกำหนด ซึ่งถือเป็นการดับความหวังของนักลงทุนที่ต่างก็คาดหวังว่าปธน.ทรัมป์อาจจะเลื่อนหรือผ่อนปรนการเรียกเก็บภาษี ก่อนที่มาตรการภาษีศุลกากรตอบโต้ (Reciprocal Tariff) จะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 9 เม.ย.


  • ตลาดได้รับแรงกดดันมากขึ้น เมื่อเจ้าหน้าที่ทำเนียบขาวยืนยันว่า สหรัฐฯ จะเรียกเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากจีนในอัตรา 104% ในวันพุธที่ 9 เม.ย.


  • ดัชนี CBOE Volatility Index (VIX) ซึ่งเป็นมาตรวัดความวิตกของนักลงทุนในตลาดหุ้นนิวยอร์ก พุ่งขึ้น 11.39% ปิดที่ระดับ 52.33 ซึ่งเป็นระดับปิดสูงสุดนับตั้งแต่เดือนมี.ค. 2563


  • นักลงทุนจับตารายงานผลประกอบการของธนาคารรายใหญ่ โดยเจพีมอร์แกน (JPMorgan), มอร์แกน สแตนลีย์ (Morgan Stanley) และเวลส์ ฟาร์โก (Wells Fargo) จะรายงานผลประกอบการในวันศุกร์นี้


  • รัฐมนตรีกระทรวงการคลังนิวซีแลนด์ กล่าวว่า มาตรการภาษีศุลกากรของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ จะทำให้เศรษฐกิจนิวซีแลนด์เผชิญกับความยากลำบากในการฟื้นตัวจากภาวะถดถอย เนื่องจากมาตรการดังกล่าวจะส่งผลให้ความต้องการสินค้านิวซีแลนด์ในตลาดโลกทรุดตัวลง


  • สิงคโปร์ ออกมาเตือนว่า การที่สหรัฐอเมริกาเรียกเก็บภาษีศุลกากรพื้นฐานในอัตรา 10% จากทุกประเทศ ดูเหมือนจะไม่เปิดช่องให้มีการเจรจาต่อรอง และอาจส่งผลกระทบอย่างหนักต่อเศรษฐกิจสิงคโปร์ที่พึ่งพาการค้า จนอาจทำให้ต้องปรับลดคาดการณ์การเติบโตทางเศรษฐกิจ (GDP)


ข่าวเกี่ยวกับน้ำมัน


  • สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 4 ปีในวันอังคาร เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลว่าสงครามการค้าที่ทวีความรุนแรงมากขึ้นระหว่างสหรัฐฯ และจีน จะส่งผลให้เศรษฐกิจเข้าสู่ภาวะถดถอยและทำให้ความต้องการใช้พลังงานอ่อนแอลง


  • สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนพ.ค. ลดลง 1.12 ดอลลาร์ หรือ 1.85% ปิดที่ 59.58 ดอลลาร์/บาร์เรล
  • สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนมิ.ย. ลดลง 1.39 ดอลลาร์ หรือ 2.16% ปิดที่ 62.82 ดอลลาร์/บาร์เรล


  • ธนาคารเอชเอสบีซี (HSBC) ปรับลดคาดการณ์ความต้องการใช้น้ำมันทั่วโลกในปี 2568 ลงจากเดิม 1 ล้านบาร์เรล/วัน เหลือ 0.9 ล้านบาร์เรล/วัน โดยอ้างอิงถึงผลกระทบของมาตรการภาษีศุลกากร และการที่กลุ่มโอเปกพลัสตัดสินใจเร่งแผนเพิ่มกำลังการผลิต โดยเตรียมเพิ่มการผลิตในเดือนพ.ค.เป็น 411,000 บาร์เรล/วัน จากแผนเดิมที่ 135,000 บาร์เรล/วัน


  • โกลด์แมน แซคส์ (Goldman Sachs) คาดการณ์ว่า ราคาน้ำมันเบรนท์มีแนวโน้มร่วงลงสู่ระดับต่ำกว่า 40 ดอลลาร์/บาร์เรล โดยการคาดการณ์ดังกล่าวอยู่ภายใต้สมมติฐานที่ว่าสถานการณ์มีความรุนแรงอันเนื่องมาจากการปะทุขึ้นของสงครามการค้าและอุปทานน้ำมันที่ปรับตัวสูงขึ้น


ข่าวเกี่ยวกับการเมือง


  • สหรัฐฯ จะเรียกเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากจีนในอัตรา 104% ในวันพุธที่ 9 เม.ย. ตรงกับเวลา 11.01 น.ตามเวลาไทย หลังจีนไม่ยกเลิกการเรียกเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากสหรัฐฯ โดยก่อนหน้านี้ปธน.ทรัมป์ให้เวลารัฐบาลจีนจนถึงวันอังคารที่ 8 เม.ย.ในการยกเลิกมาตรการเรียกเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากสหรัฐฯ ในอัตรา 34% มิฉะนั้นจีนจะถูกสหรัฐฯ เรียกเก็บภาษีเพิ่มเติมอีก 50% ซึ่งจะทำให้จีนถูกเรียกเก็บภาษีรวมสูงถึง 104% อย่างไรก็ดี ล่าสุดจีนยืนยันว่าจะต่อสู้จนถึงที่สุด และจีนจะไม่ยกเลิกการเรียกเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากสหรัฐฯ ในอัตรา 34%


  • แหล่งข่าววงใน เผยว่า อีลอน มัสก์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของเทสลา (Tesla) ได้พยายามยื่นคำร้องโดยตรงถึงประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา เพื่อขอให้พิจารณายกเลิกมาตรการภาษีนำเข้าฉบับใหม่ที่เพิ่งประกาศใช้ แต่กลับไม่ประสบความสำเร็จ


  • รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศไต้หวัน เปิดเผยว่า ไต้หวันพร้อมเจรจากับสหรัฐฯ ทุกเมื่อในประเด็นภาษีนำเข้า ท่ามกลางความกังวลด้านการค้าที่ฉุดให้ตลาดหุ้นไต้หวันร่วงหนักก่อนหน้านี้


  • รัฐบาลญี่ปุ่นแถลงว่า เรียวเซ อาคาซาวะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเศรษฐกิจ จะเป็นผู้รับผิดชอบการเจรจาเรื่องภาษีศุลกากรกับสหรัฐอเมริกา


  • สหภาพยุโรป (EU) เสนอแผนเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากสหรัฐฯ บางรายการในอัตรา 25% เพื่อตอบโต้การตัดสินใจล่าสุดของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ที่เรียกเก็บภาษีนำเข้าเหล็กและอะลูมิเนียมจากยุโรป


ข่าวเกี่ยวกับเศรษฐกิจไทยและค่าเงินบาท


  • ค่าเงินบาทวันนี้ เปิดตลาดอ่อนค่าที่ 34.95 บาทต่อดอลลาร์ อ่อนค่าจากราคาปิดตลาดเมื่อวานที่ระดับ 34.83 บาทต่อดอลลาร์ โดยกรอบแนวรับที่ 34.80 บาท แนวต้าน 35.10 บาท


  • นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการให้คำแนะนำแก่ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กรณีที่ประธานาธิบดีสหรัฐโดนัลด์ ทรัมป์ประกาศนโยบายปรับขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจากไทยในอัตรา 36% ว่า สหรัฐเลือกใช้สูตรนี้ เพราะต้องการให้แต่ละประเทศเข้าไปเจรจา ซึ่งวันนี้รัฐบาลได้ติดต่อขอเจรจากับสหรัฐฯ แล้ว น่าจะคืบหน้าไปด้วยดี คงจะส่งตัวแทนไปเจรจา ซึ่งนายกรัฐมนตรีประชุมวันนี้คงจะชัดเจนแล้วว่าจะส่งใครไปเจรจา




ที่มาจาก : yahoo finance, Reuters, kitco news, investing, Infoquest

Tags : ข่าวทองข่าวทอง ทอง ราคาทอง

บริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ จำกัด
40,42,44 ถนนทรัพย์สิน แขวงวังบูรพาภิรมย์เขตพระนคร กรุงเทพ 10200
โทรศัพท์ 0 2770 7777 โทรสาร 0 2623 9366 E-mail: support@mtsgoldgroup.com