• สรุปข่าวราคาทองคำ ประจำวันที่ 23 เมษายน 2568

    23 เมษายน 2568 | Gold News

 

ตัวเลขเศรษฐกิจ


  • Richmond Manufacturing Index ออกมาที่ -13 ต่ำกว่าคาดการณ์ที่ -6 ครั้งก่อน -4

ข่าวเกี่ยวกับทองคำ


  • สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดลบในวันอังคาร โดยตลาดถูกกดดันจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์ และจากการที่รัฐมนตรีคลังของสหรัฐฯ ได้แสดงความเชื่อมั่นว่าความขัดแย้งด้านการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีนจะคลี่คลายลงในไม่ช้า


  • ราคาทองคำตลาดโลก ปรับตัวลดลง -54.97 เหรียญ หรือ -1.6% อยู่ที่ระดับ 3,372.89 เหรียญ
  • สัญญาทองคำตลาด COMEX ส่งมอบเดือนมิ.ย. ลดลง 5.9 ดอลลาร์ หรือ 0.17% ปิดที่ 3,419.40 ดอลลาร์/ออนซ์
  • กองทุนทองคำ SPDR วันก่อนหน้าขายออก 11.47 ตัน ปัจจุบันถือครองที่ 947.7 ตัน ภาพรวมเดือนเมษายน ซื้อสุทธิ 15.76 ตัน ขณะที่ปีนี้ ตั้งแต่ 1 ม.ค. - ปัจจุบัน ซื้อสุทธิ 75.18 ตัน


  • นักวิเคราะห์จากบริษัท RJO Futures กล่าวว่า การแสดงความเห็นของรัฐมนตรีคลังสหรัฐฯ เป็นการส่งสัญญาณว่าสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีนมีแนวโน้มคลี่คลายลง และทำให้นักลงทุนชะลอการซื้อทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ปลอดภัย


  • อย่างไรก็ดี เจพีมอร์แกนคาดการณ์ว่า ราคาทองคำยังคงมีแนวโน้มที่แข็งแกร่ง โดยคาดว่าราคาจะพุ่งขึ้นทะลุระดับ 4,000 ดอลลาร์/ออนซ์ในปีหน้า เนื่องจากนักลงทุนจะเข้าซื้อทองคำเพื่อป้องกันความเสี่ยงจากเศรษฐกิจที่มีแนวโน้มถดถอย และจากผลกระทบของมาตรการภาษีศุลกากร 


ข่าวเกี่ยวกับค่าเงิน และธนาคารกลาง


  • ดัชนีดอลลาร์ ปรับตัวขึ้น 0.83 จุด หรือ 0.84% มาอยู่ที่ระดับ 99.13 จุด
  • อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี  ปรับตัวลดลง -0.06 % มาอยู่ที่ระดับ 4.344% ในขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 2 ปี ปรับตัวขึ้น 0.05 % มาอยู่ที่ระดับ 3.811% โดยที่ส่วนต่างอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ 10 ปี มากกว่า 2 ปี เท่ากับ0.53%


  • สกุลเงินเยนของญี่ปุ่นแข็งค่าแตะกรอบบน 139 เยนต่อดอลลาร์ในช่วงสั้น ๆ ในเมื่อวานนี้ ทำสถิติแข็งค่าสุดในรอบ 7 เดือน


  • ธนาคารกลางอังกฤษ (BOE): นางเมแกน กรีน กรรมการนโยบายการเงิน กล่าวว่า ภาษีของสหรัฐฯ อาจส่งผลให้เงินเฟ้อในสหราชอาณาจักร "ชะลอตัว" มากกว่าที่จะเร่งตัวขึ้น และ BOE ควรพิจารณาใช้มาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ในวงเงินที่จำกัดลง หากเกิดวิกฤตการณ์ในอนาคต


ข่าวเกี่ยวกับตลาดหุ้นและเศรษฐกิจ


  • ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นอย่างแข็งแกร่งในวันอังคาร (22 เม.ย.) โดยได้แรงหนุนจากการที่นักลงทุนคลายความกังวลเกี่ยวกับสงครามการค้า หลังจากสก็อตต์ เบสเซนต์ รัฐมนตรีคลังของสหรัฐฯ ได้แสดงความเชื่อมั่นว่าความขัดแย้งด้านการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีนจะคลี่คลายลงในไม่ช้า


  • ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 39,186.98 จุด เพิ่มขึ้น 1,016.57 จุด หรือ +2.66%
  • ดัชนี S&P500 ปิดที่ 5,287.76 จุด เพิ่มขึ้น 129.56 จุด หรือ +2.51% 
  • ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 16,300.42 จุด เพิ่มขึ้น 429.52 จุด หรือ +2.71%


  • เบสเซนต์กล่าวในการประชุมนักลงทุนซึ่งธนาคารเจพีมอร์แกนจัดขึ้นที่กรุงวอชิงตันเมื่อวานนี้ว่า เขาคาดว่าความขัดแย้งด้านการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีนจะคลี่คลายลงในไม่ช้า และเขาเชื่อว่าเมื่อสถานการณ์ดังกล่าวคลี่คลายลงก็จะช่วยผ่อนคลายความวิตกกังวลให้กับตลาดทั่วโลก


  • เบสเซนต์ยืนยันว่า แม้สหรัฐฯ จะเพิ่มอัตราภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนขึ้นเป็น 145% และจีนจะตอบโต้ด้วยการเก็บภาษีสินค้าจากสหรัฐฯ ที่ระดับ 125% แต่เป้าหมายนโยบายของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ไม่ใช่การแบ่งแยกเศรษฐกิจของสหรัฐฯ และจีนออกจากกัน นอกจากนี้ เขากล่าวว่า แม้การเจรจากับจีนมีแนวโน้มว่าจะยืดเยื้อ แต่ทั้งจีนและสหรัฐฯ ต่างก็ไม่คิดว่าจะปล่อยให้สถานการณ์เช่นนี้ดำเนินต่อไปโดยไม่มีการเปลี่ยนแปลง


  • การแสดงความเห็นดังกล่าวของรัฐมนตรีคลังสหรัฐฯ ทำให้นักลงทุนคลายความกังวลเกี่ยวกับสงครามการค้าระหว่างจีนและสหรัฐฯ และยังช่วยบดบังปัจจัยลบจากการที่ปธน.ทรัมป์ขู่ว่าจะปลดเจอโรม พาวเวล ออกจากตำแหน่งประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) หากพาวเวลไม่เร่งปรับลดอัตราดอกเบี้ย ซึ่งท่าทีดังกล่าวทำให้นักลงทุนกังวลว่าความเป็นอิสระในการดำเนินนโยบายการเงินของเฟดจะได้รับผลกระทบ


  • ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แถลงต่อสื่อมวลชนเมื่อวันอังคารที่ผ่านมาว่า "ไม่มีความตั้งใจ" ที่จะปลดนายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ออกจากตำแหน่ง แม้ก่อนหน้านี้ ทรัมป์จะวิจารณ์เฟดเรื่องการปรับลดอัตราดอกเบี้ยที่ล่าช้า และเรียกร้องให้ลดอัตราดอกเบี้ยทันที โดยอ้างว่าเป็น 'เวลาที่เหมาะสม' ก็ตาม


  • นีล แคชแครี ประธานเฟดสาขามินนีแอโพลิสกล่าวว่า ความเป็นอิสระของเฟดถือเป็นรากฐานสำคัญที่จะทำให้เศรษฐกิจอยู่ในทิศทางที่ดีขึ้น ขณะที่คริสติน ลาการ์ด ประธานธนาคารกลางยุโรป (ECB) คาดว่าปธน.ทรัมป์จะไม่ปลดพาวเวลออกจากตำแหน่ง


  • ตลาดยังได้ปัจจัยบวกจากผลประกอบการที่แข็งแกร่งของบริษัทจดทะเบียน โดยข้อมูลจาก LSEG ระบุว่า นับจนถึงขณะนี้มีบริษัท 82 แห่งในดัชนี S&P500 ที่รายงานผลประกอบการแล้ว ซึ่งในจำนวนนี้มี 73% ที่รายงานผลประกอบการสูงกว่าคาด


  • หุ้นทั้ง 11 กลุ่มในดัชนี S&P500 ปิดในแดนบวก นำโดยหุ้นกลุ่มการเงินพุ่งขึ้น 3.28% ตามด้วยหุ้นกลุ่มสินค้าฟุ่มเฟือยพุ่งขึ้น 3.23%


  • กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ปรับลดคาดการณ์เศรษฐกิจโลกในปีนี้และปีหน้า โดยในรายงานแนวโน้มเศรษฐกิจโลก (WEO) ที่มีการเผยแพร่ล่าสุดเมื่อวานนี้ IMF คาดการณ์ว่าเศรษฐกิจโลกจะขยายตัว 2.8% และ 3.0% ในปี 2568 และ 2569 ตามลำดับ จากเดิมที่คาดการณ์ไว้ที่ระดับ 3.3% สำหรับปี 2568 และ 2569 โดยคาดว่าเศรษฐกิจะได้รับผลกระทบจากมาตรการเรียกเก็บภาษีศุลกากรของสหรัฐฯ


  • ผลสำรวจล่าสุดจากกระทรวงการคลังญี่ปุ่นเผยให้เห็นว่า ธุรกิจญี่ปุ่นบางส่วนเริ่มได้รับผลกระทบจากนโยบายการเก็บภาษีนำเข้าของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์แล้ว ขณะที่อีกหลายบริษัทแสดงความกังวลถึงผลกระทบที่จะเกิดขึ้นในอนาคต


ข่าวเกี่ยวกับน้ำมัน


  • สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกในวันอังคาร หลังจากสหรัฐฯ ประกาศคว่ำอิหร่านรอบใหม่ นอกจากนี้ การพุ่งขึ้นของตลาดหุ้นยังเป็นปัจจัยหนุนนบรรกาศการซื้อขายในตลาดน้ำมันให้คึกคักขึ้นด้วย


  • สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนพ.ค. เพิ่มขึ้น 1.23 ดอลลาร์ หรือ 1.95% ปิดที่ 64.31 ดอลลาร์/บาร์เรล
  • สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนมิ.ย. เพิ่มขึ้น 1.18 ดอลลาร์ หรือ 1.78% ปิดที่ 67.44 ดอลลาร์/บาร์เรล


  • รัฐบาลสหรัฐฯ ได้ออกมาตรการคว่ำบาตรอิหร่านรอบใหม่เมื่อวานนี้ โดยมุ่งเป้าไปที่เซเอ็ด อาซาดุลลาห์ เอมามจอเมห์ เศรษฐีผู้ค้าก๊าซปิโตรเลียมเหลว (LPG) ชาวอิหร่าน และเครือข่ายบริษัทของเขา


  • สก็อตต์ เบสเซนต์ รัฐมนตรีคลังสหรัฐฯ ระบุว่า เครือข่ายบริษัทของนายเซเอ็ดได้ขนส่งก๊าซ LPG และน้ำมันดิบของอิหร่านที่มีมูลค่าหลายร้อยล้านดอลลาร์ไปยังตลาดต่างประเทศ ซึ่งผลิตภัณฑ์ทั้งสองนี้เป็นแหล่งรายได้หลักที่ช่วยสนับสนุนโครงการนิวเคลียร์ของอิหร่าน และเป็นทุนสนับสนุนกลุ่มติดอาวุธในภูมิภาค ซึ่งรวมถึงกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ กลุ่มฮูติในเยเมน และกลุ่มฮามาสในปาเลสไตน์


  • รัฐมนตรีต่างประเทศของอิหร่าน มีกำหนดเดินทางเยือนจีนอย่างเป็นทางการในวันพุธที่ 23 เม.ย. ตามคำเชิญของรัฐบาลจีน โดยผู้นำทั้งสองฝ่ายจะหารือเกี่ยวกับความสัมพันธ์ทวิภาคี ตลอดจนประเด็นระหว่างประเทศและภูมิภาคที่ทั้งสองประเทศให้ความสนใจร่วมกัน ก่อนการเจรจานิวเคลียร์กับสหรัฐฯ


  • นักลงทุนจับตาการเจรจาข้อตกลงนิวเคลียร์รอบที่ 3 ระหว่างสหรัฐฯ และอิหร่านที่กรุงมัสกัตของโอมานในวันเสาร์นี้ (26 เม.ย.) โดยหากสหรัฐฯ และอิหร่านสามารถบรรลุข้อตกลงนิวเคลียร์ ก็อาจปูทางไปสู่การยกเลิกมาตรการคว่ำบาตรน้ำมันอิหร่าน ซึ่งจะทำให้อิหร่านสามารถส่งออกน้ำมันเข้าสู่ตลาดโลก


  • บรรยากาศการซื้อขายในตลาดน้ำมันยังได้ปัจจัยหนุนจากตลาดหุ้นนิวยอร์กที่ดีดตัวขึ้นอย่างแข็งแกร่ง โดยดัชนีดาวโจนส์พุ่งขึ้นกว่า 1,000 จุด หลังจากสก็อตต์ เบสเซนต์ รัฐมนตรีคลังของสหรัฐฯ ได้แสดงความเชื่อมั่นว่าความขัดแย้งด้านการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีนจะคลี่คลายลงในไม่ช้า


ข่าวเกี่ยวกับการเมือง


  • นายสก็อตต์ เบสเซนต์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังสหรัฐฯ กล่าวในการประชุมว่า สถานการณ์กำแพงภาษีที่ตึงเครียดระหว่างสหรัฐฯ (145%) และจีน (125%) นั้น "ไม่ยั่งยืน" สำหรับทั้งสองฝ่าย และทั้งสองประเทศจำเป็นต้องหาทาง "ลดความตึงเครียด" ในอนาคตอันใกล้ เบสเซนต์มองในเชิงบวกว่า สถานการณ์อาจคลี่คลายลงภายในไม่กี่เดือนข้างหน้า อย่างไรก็ตาม เขาประเมินว่า ข้อตกลงการค้าที่ครอบคลุมอาจต้องใช้เวลาถึง 2-3 ปี เนื่องจากกระบวนการเจรจายังไม่ได้เริ่มต้นขึ้น


  • ทำเนียบขาวรายงานความคืบหน้าในการเจรจาการค้ากับหลายประเทศ (18 ประเทศยื่นข้อเสนอ และอยู่ระหว่างการหารือกับ 34 ประเทศในสัปดาห์นี้) โดยมีรายงานว่าใกล้บรรลุข้อตกลงเบื้องต้นกับญี่ปุ่นและอินเดียแล้ว


  • รักษาการประธานาธิบดีเกาหลีใต้ แสดงความคาดหวังว่า การเจรจาการค้ากับสหรัฐฯ ในสัปดาห์นี้ จะเปิดทางสู่ผลลัพธ์ที่ทั้งสองฝ่ายได้ประโยชน์ร่วมกัน


  • กองกำลังรัสเซียได้เปิดฉากโจมตีเมืองท่าโอเดสซา ริมทะเลดำของยูเครนในช่วงกลางดึก ด้วยฝูงโดรนจำนวน 54 ลำ ส่งผลให้มีผู้บาดเจ็บ 3 ราย และสร้างความเสียหายอย่างหนักให้กับอาคารอะพาร์ตเมนต์หลายแห่ง 


ข่าวเกี่ยวกับเศรษฐกิจไทยและค่าเงินบาท


  • นักบริหารการเงิน เปิดเผยว่า ค่าเงินบาทเปิดเช้านี้ ที่ระดับ  33.63 บาทต่อดอลลาร์อ่อนค่าลงหนักจากระดับปิดวันที่ผ่านมา ณ ระดับ  33.23 บาทต่อดอลลาร์ มองกรอบเงินบาทวันนี้  คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 33.35-33.75 บาทต่อดอลลาร์


  • น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ยอมรับว่า สหรัฐอเมริกาได้ขอเลื่อนการเจรจากับรัฐบาลไทย เกี่ยวกับนโยบายด้านเศรษฐกิจและการปรับขึ้นอัตราภาษีนำเข้าสินค้า จากเดิมที่มีกำหนดไว้วันที่ 23 เม.ย.นี้ออกไปก่อน โดยจะมีการชี้แจงรายละเอียดหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.)


  • รมช.คลัง กล่าวถึงความคืบหน้าโครงการเติมเงิน 10,000 บาท ผ่านดิจิทัลวอลเล็ต สำหรับกลุ่มอายุ 16-20 ปี โดยยืนยันว่าโครงการยังคงเดินหน้าตามเดิม ไม่เปลี่ยนแปลง ขณะนี้อยู่ระหว่างการรอเวียนความคิดเห็น คาดจะสามารถสรุปเสนอให้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาได้ภายใน 1-2 สัปดาห์นี้

 

 

ที่มาจาก : yahoo finance, Reuters, kitco news, investing, Infoquest

Tags : ข่าวทองข่าวทอง ทอง ราคาทอง

บริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ จำกัด
40,42,44 ถนนทรัพย์สิน แขวงวังบูรพาภิรมย์เขตพระนคร กรุงเทพ 10200
โทรศัพท์ 0 2770 7777 โทรสาร 0 2623 9366 E-mail: support@mtsgoldgroup.com