• สรุปข่าวราคาทองคำ ประจำวันที่ 28 เมษายน 2568

    28 เมษายน 2568 | Gold News


ตัวเลขเศรษฐกิจ


  • Revised UoM Consumer Sentiment ออกมาที่ 52.2 สูงกว่าคาดการณ์ที่ 50.6 และครั้งก่อน 50.8


ข่าวเกี่ยวกับทองคำ


  • สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดลดลงในวันศุกร์ และลดลงในรอบสัปดาห์นี้ โดยถูกกดดันจากเงินดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้น ขณะที่ความตึงเครียดด้านการค้าระหว่างสหรัฐฯ กับจีนที่ผ่อนคลายลง หลังมีรายงานว่าจีนยกเว้นภาษีสินค้านำเข้าบางรายการจากสหรัฐฯ นั้น กดดันราคาทองคำในฐานะที่เป็นสินทรัพย์ปลอดภัยด้วย


  • ราคาทองคำตลาดโลก ปรับตัวลดลง -62.73 เหรียญ หรือ -1.87% อยู่ที่ระดับ 3,286.26 เหรียญ
  • สัญญาทองคำตลาด COMEX ส่งมอบเดือนมิ.ย. ลดลง 50.20 ดอลลาร์ หรือ 1.5% ปิดที่ 3,298.40 ดอลลาร์/ออนซ์ และลดลง 0.33% ในรอบสัปดาห์นี้
  • กองทุนทองคำ SPDR วันก่อนหน้าขายออก 2.29 ตัน ปัจจุบันถือครองที่ 946.27 ตันภาพรวมเดือนเมษายน ซื้อสุทธิ 12.89 ตัน ขณะที่ปีนี้ ตั้งแต่ 1 ม.ค. - ปัจจุบัน ซื้อสุทธิ 73.75 ตัน


  • นักวิเคราะห์ระบุว่า การผ่อนคลายข้อพิพาททางภาษีส่งผลกดดันราคาทองคำ อย่างไรก็ตาม ในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา นักลงทุนยังคงเข้าซื้อเมื่อราคาลดลง ดังนั้นคาดว่าราคาทองคำอาจกลับเข้าสู่แนวโน้มขาขึ้นได้อีกครั้ง


  • จีนกำลังพิจารณายกเว้นภาษีนำเข้าสินค้าบางรายการจากสหรัฐฯ ที่เคยถูกเก็บภาษีในอัตราสูงถึง 125% และกำลังขอให้ภาคธุรกิจแจ้งรายการสินค้าที่อาจเข้าข่ายได้รับการยกเว้น


  • เมื่อต้นสัปดาห์นี้ ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐฯ ก็แสดงท่าทีว่าความขัดแย้งเรื่องภาษีอาจเริ่มผ่อนคลาย และกล่าวว่ากำลังมีการเจรจาโดยตรงเกิดขึ้นแล้ว


  • ผลสำรวจทองคำรายสัปดาห์ของ Kitco News  เผยให้เห็นมุมมองที่เป็นขาลงในตลาดวอลล์สตรีท โดย ผู้เชี่ยวชาญ (46%) คาดการณ์ว่าราคาทองคำจะปรับตัวขึ้นในสัปดาห์นี้ ในขณะที่ (54%) มองว่าจะปรับตัวลง ไม่มีนักวิเคราะห์รายใดคาดการณ์ว่าราคาจะทรงตัว


  • Adrian Day Asset Management มองแนวโน้มราคาทองคำระยะสั้นเป็นขาลง แต่เชื่อว่าปัจจัยหนุนให้ราคาพุ่งถึง 3,500 ดอลลาร์ยังคงอยู่ โดยเขากล่าวว่าความเป็นไปได้ที่สงครามการค้าสหรัฐฯ-จีนจะคลี่คลาย จะกดดันราคาทองคำในระยะใกล้ ทำให้ราคาปรับตัวลงในสัปดาห์หน้า อย่างไรก็ตาม ปัจจัยที่ขับเคลื่อนความต้องการทองคำในช่วงที่ผ่านมายังคงอยู่ แม้การเติบโตอาจชะลอตัวลง การปรับฐานราคาจึงอาจเกิดขึ้นเพียงชั่วคราว


  • นักวิเคราะห์ตลาดอาวุโสของ FxPro ชี้ว่า ราคาทองคำแสดงความผันผวนอย่างมากบริเวณจุดสูงสุดล่าสุด โดยมีความเสี่ยงขาลงเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ โดยเตือนว่า "สัญญาณของรูปแบบ 'head and shoulders pattern' กำลังก่อตัวขึ้นบนกราฟ หากราคาปรับตัวลงต่ำกว่า 3,300 ดอลลาร์อีกครั้ง อาจเห็นแรงขายทำกำไรเร่งตัวขึ้น ซึ่งอาจนำไปสู่การเทขายครั้งใหญ่หลังจากการปรับตัวขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยมีแนวโน้มที่จะลดลงต่ำกว่า 3,000 ดอลลาร์

ข่าวเกี่ยวกับค่าเงิน และธนาคารกลาง


  • ดัชนีดอลลาร์ ปรับตัวขึ้น 0.22 จุด หรือ 0.22% มาอยู่ที่ระดับ 99.63 จุด
  • อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี  ปรับตัวลดลง -0.07 % มาอยู่ที่ระดับ 4.247% ในขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 2 ปี ปรับตัวลดลง -0.05 % มาอยู่ที่ระดับ 3.768% โดยที่ส่วนต่างอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ 10 ปี มากกว่า 2 ปี เท่ากับ0.48%


  • คณะกรรมการธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ประกาศยกเลิกคำแนะนำสำหรับธนาคารพาณิชย์เกี่ยวกับการดำเนินกิจกรรมด้านคริปโทเคอร์เรนซีและโทเคนที่อิงกับดอลลาร์สหรัฐ เพื่อให้กฎระเบียบของเฟดสอดคล้องกับสถานการณ์ความเสี่ยงที่เปลี่ยนแปลงไป และเพื่อสนับสนุนการสร้างนวัตกรรมใหม่ ๆ ในระบบธนาคาร

ข่าวเกี่ยวกับตลาดหุ้นและเศรษฐกิจ


  • ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกในวันศุกร์ และปิดเพิ่มขึ้นในรอบสัปดาห์นี้ หลังนักลงทุนประเมินผลประกอบการ และจับตาสัญญาณการคลี่คลายความตึงเครียดด้านการค้าระหว่างสหรัฐฯ กับจีน


  • ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 40,113.50 จุด เพิ่มขึ้น 20.10 จุด หรือ +0.05%
  • ดัชนี S&P500 ปิดที่ 5,525.21 จุด เพิ่มขึ้น 40.44 จุด หรือ +0.74% 
  • ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 17,382.94 จุด เพิ่มขึ้น 216.90 จุด หรือ +1.26%


  • ในรอบสัปดาห์นี้ ดัชนีดาวโจนส์บวก 2.48%, ดัชนี S&P500 บวก 4.59% และดัชนี Nasdaq บวก 6.73%


  • ดัชนี S&P500 และ Nasdaq ได้แรงหนุนจากหุ้นกลุ่ม Magnificent Seven ซึ่งเป็นบริษัทยักษ์ใหญ่ที่เกี่ยวข้องกับปัญญาประดิษฐ์ (AI)


  • บรรดานักลงทุนจับตาการรายงานผลประกอบการไตรมาสแรก โดยข้อมูลจาก LSEG บ่งชี้ว่า บริษัทในดัชนี S&P500 รายงานผลประกอบการออกมาแล้ว 179 บริษัท และในจำนวนนั้น 73% ทำผลงานได้ดีกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้


  • นักวิเคราะห์ประเมินว่า ผลประกอบการรวมของบริษัทใน S&P500 ในช่วงเดือนม.ค.-มี.ค.ปีนี้จะเพิ่มขึ้น 9.7% เมื่อเทียบกับปีก่อน ซึ่งดีกว่าที่เคยคาดไว้ที่ 8.0% เมื่อวันที่ 1 เม.ย.


  • มหาวิทยาลัยมิชิแกนเปิดเผยผลสำรวจความเชื่อมั่นผู้บริโภคประจำเดือนเม.ย. แม้ดัชนีถูกปรับเพิ่มขึ้น แต่ก็ยังอยู่ที่ระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนก.ค. 2565 ขณะที่การคาดการณ์เงินเฟ้อยังคงอยู่ในระดับสูง


  • ผลสำรวจระบุว่า ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคสหรัฐร่วงลงสู่ระดับ 52.2 ในเดือนเม.ย. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 32 เดือน จากระดับ 57.0 ในเดือนมี.ค. แต่สูงกว่าตัวเลขเบื้องต้นที่ระดับ 50.8 ขณะเดียวกัน ผู้บริโภคคาดการณ์ว่า เงินเฟ้อจะเพิ่มขึ้น 6.5% ในช่วง 1 ปีข้างหน้า ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนพ.ย. 2524 และสูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ในเดือนมี.ค.ที่ระดับ 5.0%


  • นอกจากนี้ ผู้บริโภคคาดการณ์ว่า เงินเฟ้อจะเพิ่มขึ้น 4.4% ในช่วง 5 ปีข้างหน้า ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนมิ.ย. 2534 และสูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ในเดือนมี.ค.ที่ระดับ 4.1%


  • ผู้บริหารกองทุนเฮดจ์ฟันด์ Bridgewater ของ Ray Dalio เตือนถึงการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจครั้งใหญ่ที่ไม่เคยมีมาก่อน ซึ่งอาจสั่นคลอนระเบียบโลก โดยเขาวิพากษ์วิจารณ์นโยบายการค้าของรัฐบาลทรัมป์ว่าเป็น "ความเสี่ยงที่ไม่ปกติ" คำเตือนนี้แตกต่างจากท่าทีเมื่อเดือนพฤศจิกายนที่ผู้บริหารอีกรายของ Bridgewater แนะนำให้ลงทุนในหุ้นสหรัฐฯ 


  • นักวิเคราะห์ของเวลส์ ฟาร์โก (Wells Fargo) คาดการณ์ว่า การขาดดุลงบประมาณของสหรัฐฯ ในปีงบประมาณปัจจุบันน่าจะลดลงเล็กน้อยเมื่อเทียบกับปี 2567 ส่วนหนึ่งเป็นผลจากรายได้จากภาษีศุลกากรที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้น และการเก็บภาษีช่วงฤดูใบไม้ผลิ นักวิเคราะห์คาดว่า การขาดดุลงบประมาณของรัฐบาลกลางสหรัฐฯ จะอยู่ที่ 1.70 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ ต่ำกว่า 1.83 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2567 เล็กน้อย


  • อินเดอร์มิต กิล หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของธนาคารโลกเตือนว่า ความไม่แน่นอนทางการค้าโลกกำลังซ้ำเติมปัญหาหนี้และเศรษฐกิจชะลอตัวในประเทศตลาดเกิดใหม่ และแนะนำให้ลดภาษีนำเข้าเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ 


  • รัฐมนตรีคลังของจีนกล่าวที่กรุงวอชิงตันในสัปดาห์นี้ว่า จีนยังคงตั้งเป้าหมายให้เศรษฐกิจเติบโต 5% ในปี 2568 แม้มีปัญหาความตึงเครียดด้านการค้าก็ตาม


  • วัลดิส ดอมบรอฟสกีส์ กรรมาธิการด้านเศรษฐกิจของสหภาพยุโรป (EU) กล่าวว่า สหรัฐฯ และสหภาพยุโรป (EU) ยังต้องเจรจากันอีกมาก กว่าจะสามารถบรรลุข้อตกลงที่จะหลีกเลี่ยงการเก็บภาษีนำเข้าสินค้าระหว่างกันได้


ข่าวเกี่ยวกับน้ำมัน


  • สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกในวันศุกร์ (25 เม.ย.) แต่ยังคงลดลงในรอบสัปดาห์นี้ เนื่องจากตลาดกังวลว่าจะมีปริมาณน้ำมันล้นตลาด และยังไม่แน่ใจเกี่ยวกับการเจรจาเรื่องภาษีระหว่างสหรัฐฯ กับจีน


  • สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนมิ.ย. เพิ่มขึ้น 23 เซนต์ หรือ 0.37% ปิดที่ 63.02 ดอลลาร์/บาร์เรล แต่ลดลง 2.6% ในรอบสัปดาห์นี้
  • สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนมิ.ย. เพิ่มขึ้น 32 เซนต์ หรือ 0.48% ปิดที่ 66.87 ดอลลาร์/บาร์เรล แต่ลดลง 1.6% ในรอบสัปดาห์นี้


  • นักวิเคราะห์กล่าวว่า ขณะนี้นักลงทุนมองว่า ราคาน้ำมันไม่น่าจะปรับตัวขึ้นในระยะสั้น เพราะสงครามการค้าระหว่างประเทศผู้บริโภคน้ำมันรายใหญ่ยังคงดำเนินต่อไป และยังมีการคาดการณ์ว่า กลุ่มโอเปกพลัสอาจเร่งเพิ่มกำลังการผลิตในเดือนมิ.ย.


  • เมื่อต้นเดือนนี้ราคาน้ำมันร่วงลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 4 ปี หลังจากที่สงครามภาษีจุดกระแสความกังวลของนักลงทุนเกี่ยวกับอุปสงค์ทั่วโลกและทำให้ตลาดการเงินถูกเทขายอย่างหนัก


  • แม้เศรษฐกิจที่อ่อนแออาจส่งผลให้ความต้องการน้ำมันลดลง แต่ก็มีโอกาสที่อุปทานจะเพิ่มขึ้น โดยสมาชิกหลายรายของกลุ่มโอเปกพลัสได้เสนอให้เร่งการเพิ่มการผลิตน้ำมันเป็นเดือนที่สองในเดือนมิ.ย.


  • นอกจากนี้ หากสงครามในยูเครนยุติลง ก็อาจทำให้มีน้ำมันจากรัสเซียเข้าสู่ตลาดโลกมากขึ้น ซึ่งจะยิ่งเพิ่มอุปทานน้ำมัน


  • ยูริ อูชาคอฟ เจ้าหน้าที่เครมลินกล่าวว่า การประชุม 3 ชั่วโมงเมื่อวันศุกร์ระหว่างประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูตินของรัสเซีย กับ สตีฟ วิตคอฟฟ์ ทูตพิเศษของทรัมป์ เป็นไปในทิศทางที่สร้างสรรค์ และช่วยลดความเห็นต่างในการหาทางยุติสงครามในยูเครน


ข่าวเกี่ยวกับการเมือง


  • รัฐบาลจีนได้ยกเว้นภาษีนำเข้า 125% สำหรับสินค้าจากสหรัฐฯ บางรายการ แม้ปฏิเสธคำกล่าวอ้างของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์เกี่ยวกับการเจรจา หลังจากที่ สก็อตต์ เบสเซนต์ รัฐมนตรีคลังสหรัฐฯ ออกแถลงการณ์ผ่อนคลายสถานการณ์ ซึ่งนับเป็นสัญญาณล่าสุดที่แสดงให้เห็นว่า สองประเทศที่มีเศรษฐกิจที่ใหญ่ที่สุดในโลกกำลังลดระดับความตึงเครียดทางการค้า ซึ่งกดดันตลาดมาหลายสัปดาห์


  • เป็นครั้งแรกที่รัสเซียและเกาหลีเหนือยอมรับอย่างเป็นทางการว่าทหารเกาหลีเหนือได้เข้าร่วมสงครามกับยูเครน โดยประเมินกันว่าเกาหลีเหนือได้ส่งทหารประมาณ 12,000 - 15,000 นายไปช่วยรัสเซียในการรุกรานยูเครน ปูตินได้ประกาศว่าทหารรัสเซียได้ยึดคืนแคว้น Kursk ที่อยู่ใกล้ชายแดนยูเครนคืนจากการยึดครองของทหารยูเครนอย่างสมบูรณ์แล้ว (แม้ยูเครนจะอ้างว่ายังมีการสู้รบอยู่) และกองทัพรัสเซียได้ขอบคุณทหารเกาหลีเหนือที่มีส่วนช่วยเหลือในปฏิบัติการครั้งนี้


ข่าวเกี่ยวกับเศรษฐกิจไทยและค่าเงินบาท


  • นักบริหารการเงิน เปิดเผยว่า "ค่าเงินบาทวันนี้"เปิดเช้านี้ ที่ระดับ  33.55 บาทต่อดอลลาร์ทรงตัว ไม่เปลี่ยนแปลงจากระดับปิดสัปดาห์ก่อนหน้า มองกรอบค่าเงินบาทสัปดาห์นี้ ที่ระดับ 33.05-33.80 บาทต่อดอลลาร์ ส่วนกรอบเงินบาทวันนี้ คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 33.40-33.65 บาทต่อดอลลาร์


  • มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย กล่าวว่า จากการประเมินเศรษฐกิจล่าสุด ของกองทุนการเงินระหว่างประเทศพบว่า ไทย สิงคโปร์ ได้รับผลกระทบจากสงครามการค้ารุนแรงสุดในอาเซียน โดยคาดการณ์ว่าปีนี้ ไทยจะมีอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจเพียงแค่ 1.8% และ สิงคโปร์ 2%

 

 

ที่มาจาก : yahoo finance, Reuters, kitco news, investing, Infoquest

Tags : ข่าวทองข่าวทอง ทอง ราคาทอง

บริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ จำกัด
40,42,44 ถนนทรัพย์สิน แขวงวังบูรพาภิรมย์เขตพระนคร กรุงเทพ 10200
โทรศัพท์ 0 2770 7777 โทรสาร 0 2623 9366 E-mail: support@mtsgoldgroup.com