ราคาทองคำปรับตัวสูงขึ้นได้เล็กน้อยในวันนี้ เนื่องจากแรงตึงเครียดในตะวันออกกลางและการร่วงลงอย่างหนักของตลาดหุ้น ทำให้เกิดความต้องการถือครองทองคำในฐานะ Safe-Haven มากขึ้น โดยราคาทองคำในตลาด Comex ปรับตัวสูงขึ้น 1.1 เหรียญ คิดเป็น 0.1% สู่ระดับ 1,076.3 ในวันนี้ ในเวลาประมาณ 16.00 น. ตามเวลาประเทศไทย
นักบริหารพอร์ตโฟลิโอ จาก Sprott Asset Management กล่าวว่า การเข้าถือสินทรัพย์ปลอดภัยของนักลงทุนจากเหตุการณ์ความตึงเครียดระหว่างซาอุดิอาระเบียและอิหร่าน ทำให้ทองคำมีพื้นฐานที่ดีขึ้นเล็กน้อย แต่ปัจจัยมหภาคอื่นๆยังคงกดดันทองคำอย่างต่อเนื่อง ทั้งค่าเงินดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้น, อัตราดอกเบี้ยที่แท้จริงที่กำลังปรับตัวสูงขึ้น รวมถึงการคาดการณ์อัตราเงินเฟ้อในอนาคตยังคงอ่อนแอ
นักวิเคราะห์จาก FXStreet ระบุว่า ทองคำสามารถยืนเหนือเส้นค่าเฉลี่ย 200-SMA ในกราฟรายชั่วโมง ซึ่งอยู่ที่ระดับ 1,070.34 เหรียญ โดยราคาทองคำปรับตัวเพิ่มขึ้นจากการเป็น Safe-Haven หลังจากที่ตลาดหุ้นปรับตัวลดลงอย่างหนักเมื่อวานนี้ รวมถึงเหตุการณ์ความตึงเครียดในตะวันออกกลาง โดยทองคำมีแนวต้านที่ 1,083 เหรียญ(จุดสูงสุดเมื่อวานนี้) แนวต้านถัดไปที่ 1,086.50 เหรียญ(จุดสูงสุดเมื่อ 7 ธ.ค.) และมีแนวรับที่ 1,070.34 เหรียญ (Hourly 200-SMA) แนวรับถัดไปที่ 1,063.20 (จุดต่ำสุดเมื่อวานนี้)
เทรดเดอร์จากฮ่องกง ระบุว่า ความตึงเครียดในตะวันออกลางคอยหนุนราคาทองคำต่อไปอีกระยะหนึ่ง โดยหากราคาหุ้นปรับตัวลดลงต่อเนื่องอีกครั้งในวันนี้ น่าจะช่วยหนุนราคาทองคำได้อีก
นักวิเคราะห์จาก MKS Group ระบุว่า หากราคาหุ้นปรับตัวลดลงต่อในระยะสั้น ราคาทองคำน่าจะสามารถรักษาโมเมนตั้มขาขึ้นเล็กน้อยนี้ไว้ได้
ทั้งนี้ทองคำถูกมองว่าเป็นสินทรัพย์ทางเลือกที่นักลงทุนนิยมในช่วงเวลาที่นักลงทุนต้องการหลีกเลี่ยงความเสี่ยง เมื่อเกิดเหตุการณ์ความไม่แน่นอนขึ้น เช่นเดียวกันกับ พันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ และ ค่าเงินเยน
ข้อมูลจาก CFTC ล่าสุด ระบุว่า จนถึงวันที่ 29 ธ.ค. เหล่าผู้จัดการกองทุน ได้ถือสถานะ Short สุทธิ มากที่สุดเป็นประวัติการณ์ โดยถือสถานะ Short สุทธิ 24,263 สัญญาในสัญญาฟิวเจอร์สตลาด Comex เป็นการถือสถานะ Short สุทธิต่อเนื่องกันเป็นสัปดาห์ที่ 7 แสดงให้เห็นว่าเหล่าผู้จัดการกองทุนยังคงมองว่าราคาทองคำจะปรับตัวลดลงได้ต่อ