• สรุปข่าวเศรษฐกิจ (ภาคเช้า) ประจำวันที่ 21 มกราคม 2559

    21 มกราคม 2559 | Economic News



สำหรับกระแสคาดการณ์ว่าเฟดอาจพิจารณาถึงการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในช่วงเดือนมีนาคมลดน้อยลงไป หลังข้อมูลเงินเฟ้อ หรือดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ของสหรัฐฯออกมาลดลงเกินคาดในเดือนธันวาคม ยังส่งสัญญาณถึงภาวะเงินเฟ้อที่อ่อนแอและต่ำกว่าเป้าหมาย 2% ที่เฟดกำหนด

เมื่อคืนนี้ค่าเงินดอลลาร์ปรับตัวลงหลังราคาน้ำมันดิบยังทรุดตัวต่อเนื่อง จึงทำให้นักลงทุนเทขายสินทรัพย์เสี่ยงอย่างหุ้น และกลับถือครองสินทรัพย์ปลอดภัยแทน ขณะที่เช้านี้ดัชนีดอลลาร์รีบาวน์กลับมาบริเวณ 99.179 จาก

ด้านค่าเงินยูโรเช้านี้อ่อนค่าลงบริเวณ 1.0873 ดอลลาร์/ยูโร จากระดับ 1.0917 ดอลลาร์/ยูโร ขณะที่ค่าเงินเยนเช้านี้กลับมาอ่อนค่าบริเวณ 117.34 เยน/ดอลลาร์หลังจากที่เมื่อวานนี้หลุด117 เยน/ดอลลาร์ ลงมาที่ระดับ 115.98 เยน/ดอลลาร์ และค่าเงินหยวนเช้านี้ยังทรงตัวบริเวณ 6.5684 ดอลลาร์/หยวน

ผลการประกาศข้อมูลเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ออกมาไม่ค่อยดีนัก นำโดยดัชนีราคาผู้บริโภคประจำเดือนธันวาคมออกมาแย่กว่าที่คาดโดยปรับตัวลงสู่ระดับ -0.1% ด้าน Core CPI ซึ่งเป็นดัชนีราคาผู้บริโภคที่ไม่รวมภาคอาหารและพลังงานปรับตัวลงเกินคาดเช่นกันสู่ -0.1%

โดยดัชนีดังกล่าวซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อยังอยู่ต่ำกว่าเป้าหมายที่เฟดกำหนดไว้ที่ระดับ 2% เพราะได้รับแรงกดดันจากการทรุดตัวของราคาน้ำมันดิบและการแข็งค่าของค่าเงินดอลลาร์ จึงส่งผลให้กระแสคาดการณ์ที่ว่าเฟดอาจพิจารณาถึงการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในช่วงเดือนมีนาคมลดน้อยลงไป

ด้านข้อมูลภาคอสังหาริมทรัพย์ของสหรัฐฯในเดือนธันวาคม พบว่า ยอดอนุมัติรอการก่อสร้างออกมาดีขึ้นเกินคาดแตะระดับ 1.23 ล้านยูนิต แต่แย่ลงจากเดือนก่อนหน้า 50,000 ยูนิต ขณะที่ยอดการเริ่มต้นก่อสร้างบ้านปรับตัวลดลง 2.5% ที่ระดับ 1.15 ล้านยูนิต หรือปรับตัวลง 30,000 ยูนิตเมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้า จึงบ่งชี้ถึงภาวะการชะลอตัวของภาคที่อยู่อาศัย

น้ำมันดิบ WTI ปิด -6.7% ที่ระดับ 26.55 ดอลลาร์/บาร์เรล ขณะที่น้ำมันดิบ Brent ปิด -3.1%ที่ระดับ 27.88 ดอลลาร์/บาร์เรล โดยตลาดได้รับแรงกดดันจากสถาบัน API ของอเมริกา รายงานว่า สต็อกน้ำมันดิบปรับตัวขึ้นเกินคาดในสัปดาห์ที่ผ่านมา ก่อนทราบรายงานผลจากEIA ในคืนวันพฤหัสบดีนี้

รายงานจากรอยเตอร์ส ระบุว่า เมื่อวานนี้น้ำมันดิบ WTI ร่วงลงต่ำกว่าระดับ 27 เหรียญ/บาร์เรลเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2003 จึงส่งผลให้ตลาดการเงินทั่วโลกปรับตัวลดลงจากความกังวลต่อภาวะอุปทานน้ำมันดิบที่สูงเกินไป ท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจโลกชะลอตัวโดยเฉพาะจีน

ขณะที่นักวิเคราะห์จาก ANZ Bank เชื่อว่า ราคาน้ำมันดิบมีแนวโน้มจะได้รับแรงกดดันเพิ่มขึ้นจากข้อมูลสต็อกน้ำมันดิบประจำสัปดาห์ของสหรัฐฯ ที่ EIA จะเปิดเผยในค่ำคืนนี้

บริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ จำกัด
40,42,44 ถนนทรัพย์สิน แขวงวังบูรพาภิรมย์เขตพระนคร กรุงเทพ 10200
โทรศัพท์ 0 2770 7777 โทรสาร 0 2623 9366 E-mail: support@mtsgoldgroup.com