ค่าเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับค่าเงินยูโร หลังจากประธานอีซีบีส่งสัญญาณว่าจะผ่อนคลายการเงินเพิ่มเติมในการประชุมเดือนมีนาคม โดยดัชนีดอลลาร์ปรับตัวขึ้นเช้านี้แตะระดับ 99.25
ด้านค่าเงินยูโรอ่อนค่าลงตอบรับกับข่าวดังกล่าว โดยเช้านี้ปรับตัวลงมา 1.0845 ดอลลาร์/ยูโร จากระดับ 1.0884 ดอลลาร์/ยูโร ขณะที่ค่าเงินเยนทรงตัว 117.62 เยน/ดอลลาร์ และค่าเงินหยวนทรงตัว 6.5700 ดอลลาร์/หยวน
ผลการประกาศข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญของสหรัฐฯ พบว่า ดัชนีภาคการผลิตประจำเขตฟิลาเดเฟียประจำเดือนมกราคมออกมาดีขึ้นเกินคาดแตะระดับ -3.5 และดีขึ้นจากเดือนก่อนหน้าที่ระดับ -5.9
ขณะที่ จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการคนว่างงานรายสัปดาห์ของสหรัฐฯ ปรับตัวสูงขึ้นเกินคาดแตะระดับ 293,000 ราย โดยเพิ่มขึ้นจากเดิม 10,000 ราย
อย่างไรก็ดี จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการคนว่างงานยังคงอยู่ต่ำกว่าระดับ 300,000 รายต่อเนื่องเป็นสัปดาห์ที่ 46 จึงยังบ่งชี้ถึงภาวะแข็งแกร่งในตลาดแรงงาน
เมื่อวานนี้ อีซีบีมีมติตรึงอัตราดอกเบี้ยระดับต่ำ 0.05% และคงอัตราดอกเบี้ยเงินฝากที่ธนาคารพาณิชย์ฝากไว้กับอีซีบีที่ระดับ -0.3%
ด้าน นายมาริโอ ดรากี้ ประธานอีซีบี เผยว่า อีซีบีจะทำการทบทวนนโยบายการเงินในการประชุมเดือนมีนาคม โดยความเสี่ยงขาลงเพิ่มมากขึ้นนับตั้งแต่เริ่มต้นปี ท่ามกลางความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจของกลุ่มตลาดเกิดใหม่ การชะลอตัวของเศรษฐกิจจีน ความผันผวนในตลาดการเงินและสินค้าโภคภัณฑ์ รวมไปถึงความเสี่ยงทางการเมือง ซึ่งทั้งหมดนี้จะเป็นปัจจัยที่ทำให้อีซีบีอาจมีการปรับนโยบายในการประชุมครั้งต่อไป ซึ่งอีซีบีอาจผ่อนคลายมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจออกไปหากจำเป็น
นักวิเคราะห์จากคิทโก กล่าวว่า ความกังวลต่อการชะลอตัวทางเศรษฐกิจจีน ซึ่งเป็นประเทศเศรษฐกิจที่ใหญ่ทีสุดเป็นลำดับ 2 ของโลก กำลังสร้างแรงกดดันต่อตลาดหุ้นไปทั่วโลก ซึ่งความกังวลดังกล่าวส่งผลให้กระแสเงินไหลออกจากจีนอย่างหนัก และอาจส่งผลกระทบเชิงลบต่อเศรษฐกิจจีนได้ รวมทั้งอาจสร้างความเสี่ยงต่อภาวะเงินฝืดให้เกิดขึ้นทั่วโลก ซึ่งภาวะเงินฝืดถือเป็นศัตรูตัวฉกาจของเศรษฐกิจและตลาดการเงินส่วนใหญ่
ธนาคารกลางจีน ประกาศอัดฉีดเม็ดเงินราว 3.53 แสนล้านหยวน (5.35 หมื่นล้านเหรียญ) เข้าสู่ตลาดการเงินผ่านโครงการเงินกู้ระยะกลางหรือ MLF เพื่อเสริมสภาพคล่องในระบบธนาคาร และเพื่อสนับสนุนภาคเศรษฐกิจที่อ่อนแอของประเทศ
นาย จอร์จ ซอรอส ประธานสถาบัน Soros Fund Management กล่าวกับสำนักข่าวBloomberg โดยเขาคาดว่า เศรษฐกิจจีนอาจประสบกับภาวะ Hard Landing อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้และจะส่งผลให้เกิดภาวะเงินฝืดไปทั่วโลก และเขาก็ไม่คาดว่าจีนจะสามารถรับมือกับเรื่องดังกล่าวได้
น้ำมันดิบ WTI ปิด +4.2% ที่ระดับ 29.53 ดอลลาร์/บาร์เรล ขณะที่น้ำมันดิบ Brent ปิด +4.9% ที่ระดับ 29.25 ดอลลาร์/บาร์เรล เพราะได้รับแรงหนุนจากการช้อนซื้อของกลุ่มนักลงทุน รวมทั้งรายงานที่ระบุว่า กลุ่ม IS ได้ทำการโจมตีคลังเก็บน้ำมันทางตะวันออกของประเทศลิเบีย ซึ่งเป็นหนึ่งในกลุ่มสมาชิกโอเปค จึงช่วยสกัดปัจจัยลบจากรายงานของ EIA ที่ระบุว่า สต็อกน้ำมันดิบในสัปดาห์ที่ผ่านมาของสหรัฐฯปรับตัวขึ้นเกินคาดกว่า 4 ล้านบาร์เรล สู่ระดับ 486.5 ล้านบาร์เรล ซึ่งเป็นระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์