MTS Help Center

ราคาทองคำยังคงทรงตัวแถวระดับสำคัญทางจิตวิทยาบริเวณ 1,100 เหรียญในตลาดเอเชีย แม้ว่าเมื่อคืนนี้จะปรับตัวลดลงจากแรงเทขายทำกำไร จากถ้อยแถลงของอีซีบีที่อาจมีการผ่อนคลายการเงินเพิ่มเติม ท่ามกลางความผันผวนของตลาดการเงินทั่วโลก และการชะลอตัวของเศรษฐกิจในกลุ่มประเทศเกิดใหม่

ขณะที่การขยายตัวที่อ่อนแอทางเศรษฐกิจและเงินเฟ้อที่เกิดขึ้น ส่งผลให้อีซีบีจะทบทวนนโยบายการเงินในการประชุมครั้งต่อไป (มี.ค.) กอปรกับได้รับแรงกดดันจากการแข็งค่าของค่าเงินดอลลาร์ที่กดดันปริมาณความต้องการกลุ่มโลหะมีค่า โดยลงไปทำจุดต่ำสุดระหว่างวันเช้านี้บริเวณ 1,095 เหรียญ

ถ้อยแถลงของประธานอีซีบีได้หนุนให้ค่าเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับค่าเงินยูโร และทำให้ตลาดหุ้นสามารถฟื้นตัวได้ จึงส่งผลกระทบต่อราคาทองคำที่ปรับตัวขึ้นได้ในช่วงต้นสัปดาห์จากปริมาณความต้องการทองคำในฐานะ Safe-Heaven

นักวิเคราะห์จาก Commerzbank กล่าวว่า ความเชื่อของตลาดการเงินในปัจจุบันนี้ มีเพียง 22%เท่านั้น ที่คาดว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกครั้งในเดือนมีนาคมนี้

นักวิเคราะห์จาก Phillip Futures ประจำสิงคโปร์ กล่าวว่า ราคาทองคำปรับตัวสูงขึ้นจากความไม่แน่นอนในตลาดการเงิน แต่ ณ ขณะนี้ดูเหมือนว่าแนวทางการดำเนินนโยบายของอีซีบีมีแนวโน้มจะกดดันทองคำให้ปรับตัวลดลง และคาดว่า ทองคำมีโอกาสปรับตัวลดลงแตะ 1,000เหรียญได้ในช่วงสิ้นปีนี้ เนื่องจากปริมาณความต้องการทองคำยังคงอ่อนแอ ขณะที่กลุ่มนักลงทุนนิยมจะถือค่าเงินเยนเป็นสินทรัพย์ Safe-Heaven มากกว่าทองคำ

นักวิเคราะห์จาก FXStreet ระบุว่า ภาพทางเทคนิคระดับวันของทองคำยังคงอยู่ในทิศทางขาลง โดย RSI ยังคงเคื่อนไหวต่ำกว่า 0 ซึ่งแนวรับแรกของราคาทองคำจะอยู่บริเวณเส้นค่าเฉลี่ย 100 SMA ที่ระดับ 1,094.2 เหรียญ หากหลุดต่ำกว่าระดับดังกล่าวลงมาจะเจอแนวรับถัดไปบริเวณเส้นค่าเฉลี่ย 200 SMA ที่ระดับ 1,090.9 เหรียญ ขณะที่แนวต้านด้านบนจะอยู่บริเวณ 1,100เหรียญ ซึ่งเป็นระดับสำคัญทางจิตวิทยาและเป็นเส้นค่าเฉลี่ยบริเวณ 50 SMA หากทองคำ Breakกลับขึ้นมาได้ ก็มีโอกาสขึ้นทดสอบแนวต้านถัดไปซึ่งเป็นระดับเส้นค่าเฉลี่ย 100 วัน แถว1,105.12 เหรียญ

อย่างไรก็ดี หากทองคำปรับขึ้นจะเป็นการปรับขึ้นอย่างจำกัด เว้นแต่่วาทองคำจะสามารถกลับมายืนเหนือเส้นค่าเฉลี่ย 100 วันได้