ในวันนี้ธนาคารกลางจีน ประกาศอัดฉีดเม็ดเงินเพิ่มขึ้น หลังจากที่เปิดตลาดมาความเชื่อมั่นนักลงทุนปรับตัวลงมากที่สุดในรอบ 3 ปี โดยอัดฉีดเม็ดเงินเพิ่มกว่า 4.4 แสนล้านหยวน เข้าสู่ตลาดการเงิน ผ่านธุรกรรมซื้อโดยมีสัญญาขายคืน (Reverse Repo) อายุ 7 วัน จำนวน 8 หมื่นล้านหยวน และ อายุ 28 วัน จำนวน 3.6 แสนล้านหยวน เพื่อหนุนสภาพคล่องของตลาดก่อนเข้าสู่ช่วงเทศกาลตรุษจีน
นักลงทุนในตลาดการเงินยังคงเฝ้ารอการประชุมเฟดเกี่ยวกับการตัดสินใจปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งต่อไปในคืนวันพุธนี้ โดยตลาดเชื่อว่าเฟดจะยังคงนโยบายผ่อนคลายทางการเงิน และตรีงอัตราดอกเบี้ยระดับต่ำ 0.25-0.50% แต่แรงเทขายที่เกิดขึ้นเมื่อเร็วๆนี้ในตลาดหุ้นและสินค้าโภคภัณฑ์ถือเป็นประเด็นน่าสนใจที่อาจส่งผลกระทบต่อการดำเนินนโยบายในอนาคตของเฟดได้
ผลสำรวจนักวิเคราะห์จาก Bloomberg พบว่า โอกาสในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟดในเดือนมีนาคมลดลงสู่ระดับ 25% จากระดับ 51% ในช่วงเริ่มต้นปี และโอกาสที่เฟดจะขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนมิถุนายนก็ลดน้อยลงสู่ระดับ 44% จากระดับ 75% ขณะที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่มองไม่เห็นโอกาสที่เฟดจะทำการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมสัปดาห์นี้
โปรแกรมผลสำรวจ FedWatch จาก CME Group พบว่า ตลาดการเงินส่วนใหญ่ ณ ขณะนี้ คาดว่า การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟดน่าจะเกิดขึ้นอีกเพียงครั้งเดียวในเดือนกรกฎาคมนี้ เมื่อเทียบกับเดือนมิถุนายนจากผลสำรวจในวันก่อน
Bank of New Zealand กล่าวว่า เจ้าหน้าที่เฟดน่าจะต้องการคงนโยบายออกไปเพื่อประเมินถึงความเป็นไปได้ในการคุมเข้มทางการเงินอีกครั้งในเดือนมีนาคมนี้ แม้ว่าตลาดจะพิจารณาว่ามีโอกาสเพียงเล็กน้อยในการดำเนินการในเดือนดังกล่าวก็ตาม
ราคาน้ำมันดิบในวันนี้ปรับตัวลดลง โดยในบ่ายวันนี้ ราคาน้ำมันดิบ WTI ในตลาด NYMEX ปรับตัวลดลง 3.48% สู่ระดับ 29.32 เหรียญ/บาร์เรล และน้ำมันดิบ Brent ในตลาดยุโรป ปรับตัวลดลง 3.71% สู่ระดับ 29.41 เหรียญ/บาร์เรล
ทั้งนี้ตลาดน้ำมันยังคงมีความวิตกกังวลต่อภาวะอุปทานน้ำมันดิบที่คาดว่าจะล้นตลาดเพิมขึ้นจากการกลับมาผลิตน้ำมันดิบของอิหร่าน หลังจากที่โดนมมาตรการคว่ำบาตรติดต่อกันยาวนานหลายปี
นอกจากนี้ อิรักมีรายงานว่าปริมาณการผลิ
ตน้ำมันดิบปรับตัวสูงขึ้นเป็
นประวัติการณ์ในเดือนธันวาคมที่
ผ่านมา ขณะเดียวกันสหรัฐฯก็ยังมีปริ
มาณการผลิตน้ำมันดิบในระดับสูง แม้ว่าราคาน้ำมันดิบจะทรงตั
วใกล้ระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ปี 2003 ก็ตาม
สำนักงานตำรวจ Europol แห่งสหภาพยุโรป ได้ออกมาเตือนว่า กลุ่มกองกำลังรัฐอิสลาม (IS) กำลังวางแผนก่อการร้ายครั้งใหญ่แบบที่เคยก่อที่กรุงปารีส โดยมีเป้าหมายที่ยุโรปเป็นหลัก โดยนายร็อบ เวนไรท์ ผู้อำนวยการ Europol กล่าวต่อสื่อมวลชนขณะเปิดตัวศูนย์ต่อต้านการก่อการร้ายแห่งยุโรป (ECTC) ว่า "กลุ่ม IS ได้คิดค้นรูปแบบการโจมตีขึ้นใหม่ ซึ่งสามารถเปิดการโจมตีขนานใหญ่ในระดับโลก โดยมียุโรปเป็นจุดหมายสำคัญ"
ทั้งนี้การประกาศเตือนจากนายเวนไรท์นั้น อ้างอิงข้อมูลจากผลการค้นพบสำคัญในรายงานที่ Europol ได้เปิดเผยเมื่อวานนี้ ซึ่งระบุถึงเหตุการณ์โจมตีกรุงปารีสเมื่อวันที่ 13 พ.ย.ปี ที่ผ่านมา