ผลการประกาศข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญของสหรัฐฯ พบว่า ยอดคำสั่งซื้อสินค้าคงทน ประจำเดือน ธ.ค. ออกมาแย่กว่าที่ตลาดคาด โดยปรับตัวลดลง -5.1% จากระดับ -0.5% เมื่อเดือนก่อนหน้ามากที่สุดนับตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2014 และตลอดปี 2015 ปรับตัวลดลง -3.5%
ยอดคำสั่งซื้อสินค้าคงทน ไม่รวมภารการขนส่ง (Core Durable Goods Orders) ออกมาแย่กว่าคาดเช่นกัน โดยปรับตัวลดลง -1.2% จากระดับ 0.0% เมื่อเดือนก่อนหน้า ชะลอตัวลงมากที่สุดนับตั้งแต่เดือน ธ.ค. 2013 และตลอดปี 2015 ปรับตัวลดลง -2.6%แสดงให้เห็นถึงการชะลอตัวลงของภาคการผลิตสหรัฐฯ เนื่องจาก ค่าเงินดอลลาร์ที่แข็งขึ้นในเดือน ธ.ค., ราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวลดลงและอุปสงค์ที่เบาบางลงในตลาดโลก สร้างแรงกดดันต่อภาคการผลิตสหรัฐฯ
ขณะที่ยอดขอรับสวัสดิการว่างงานสหรัฐฯ ปรับตัวดีขึ้นสู่ระดับ 2.78 แสนราย จากระดับ 2.94 แสนราย ในเดือนก่อนหน้า และยังอยู่กว่าระดับ 3 แสนราย ต่อเนื่องเป็นสัปดาห์ที่ 46 จึงยังบ่งชี้ถึงความแข็งแกร่งแข็งแกร่งในตลาดแรงงานและยอดบ้านรอปิดการขายปรับตัวสูงขึ้น 0.1% จากเดิมที่ -1.1% ในเดือนก่อนหน้า และสามารถปรับตัวสูงขึ้นได้ 4.2% เมื่อเทียบรายปี โดยนักเศรษฐศาสตร์จากสมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติของสหรัฐ (NAR) ระบุว่า ขณะที่ภาคแรงงานสหรัฐฯมีความแข็งแกร่งมากขึ้น ทำให้อุปสงค์บ้านในพื้นที่ที่มีตำแหน่งงานเพิ่มขึ้นมากจะสูงขึ้น ประกอบกับการสร้างบ้านใหม่ที่ไม่เพียงพอ ทำให้สถานการณ์ที่ราคาบ้านจะเพิ่มสูงขึ้นและอุปทานบ้านยังคงขาดแคลน คงอยู่ต่อไปอีกซักระยะ
ราคาน้ำมันดิบ WTI ในตลาด NYMEX เมื่อวานนี้ปรับตัวสูงขึ้น 2.9% สู่ระดับ 33.22 เหรียญ/บาร์เรล โดยปรับตัวสูงขึ้นติดต่อกัน 3 วันทำการ โดยปรับตัวสูงขึ้นแล้วกว่า 20% จากจุดต่ำสุดที่ระดับ 27.54 เหรียญ/บาร์เรล เมื่อวันที่ 20 มกราคม โดยสำนักข่าว CNBC ระบุว่า ราคาน้ำมันดิบสามารถปรับตัวสูงขึ้นได้มากเนื่องจากการทำ Short Covering ของนักลงทุนหลังจากที่มีมุมมองเป็นขาลงต่อราคาน้ำมันมายาวนานกว่า 6 เดือน
ทั้งนี้ราคาน้ำมันดิบ WTI ทำจุดสูงสุดบริเวณ 34.77 เหรียญ/บาร์เรล ซึ่งเป็นจุดสูงสุดใหม่ในรอบ 3 สัปดาห์ นับตั้งแต่วันที่ 6 มกราคม ที่ผ่านมา
โดยราคาน้ำมันปรับตัวสูงขึ้นหลังจากที่เมื่อวานนี้ รัฐมนตรีพลังงานของรัสเซีย กล่าวว่า ซาอุดิอาระเบียได้เสนอให้ผู้ผลิตน้ำมันทั่วโลกลดกำลังการผลิตลง 5% เพื่อแก้ปัญหาราคาน้ำมันตกต่ำ และซาอุดิอาระเบียได้เสนอให้ มีการจัดการประชุมระหว่างกลุ่มโอเปก และประเทศผู้ผลิตน้ำมันนอกโอเปกในระดับรัฐมนตรี และรัสเซียก็มีความพร้อมสำหรับการประชุมดังกล่าวซึ่งหากสามารถทำได้สำเร็จจริง จะสามารถลดอุปทานได้ 1 ล้านบาร์เรล/วัน
อย่างไรก็ตาม ตัวแทนจาก OPEC ออกมาตอบโต้แถลงการณ์ดังกล่าวของรัสเซียว่าไม่เป็นความจริงผู้อำนวยการจาก Global Energy Policy ประจำมหาวิทยาลัยโคลัมเบีย ระบุว่า จากเหตุการณ์ดังกล่าว เป็นไปได้ที่รัสเซียเพียงแค่อยากจะทดสอบว่า OPEC จะเอาด้วยกับไอเดียในการปรับลดกำลังการผลิตหรือไม่
ขณะที่เช้านี้ ราคาน้ำมันดิบทรงตัวอยู่บริเวณ 33.41 เหรียญ/บาร์เรล