วันนี้ธนาคารกลางจีนอัดฉีดเงินเข้าระบบสู่ระบบการเงินต่อเนื่อง 3 วันทำการ ผ่านธุรกรรม Reverse Repo อีกเป็นจำนวน 1 แสนล้านหยวน โดยเป็นธุรกรรมอายุ 14 วัน 4 หมื่นล้านหยวน และ 28 วัน 6 หมื่นล้านหยวน รวมแล้วสัปดาห์นี้ธนาคารกลางจีนอัดฉีดเงินเข้าสู่ระบบการเงินไปแล้วกว่า 2.1 แสนล้านหยวน ทั้งนี้ธุรกรรม Reverse Repo เป็นธุรกรรมที่ธนาคารกลางซื้อหลักทรัพย์จากธนาคารพาณิชย์โดยมีสัญญาว่าธนาคารพาณิชย์จะรับซื้อคืนในอนาคต
สรุปถ้อยแถลง นายคุโรดะ ผู้ว่าการบีโอเจในวันนี้
- บีโอเจสามารถปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงไปได้อีกหากจำเป็น (ปัจจุบัน -0.1%)
- อาจสร้างเครื่องมือทางการเงินใหม่ๆ หากมาตรการที่มีอยู่ใช้ไม่ได้ผล
- ไม่มีข้อจำกัดในการใช้นโยบายทางการเงิน
- จีนยังสามารถยกระดับการใช้มาตรการทางการเงินและการคลังได้ เพื่อการเติบโตที่ยั่งยืน
นักกลยุทธ์อัตราแลกเปลี่ยน ประจำ Barclays ระบุว่า นับตั้งแต่เมื่อเดือน ส.ค. ปีที่ผ่านมา ความกังวลต่อการเติบโตของเศรษฐกิจจีนได้ส่งผลกระทบไปยังตลาดทั่วโลก ธีมการลงทุนนับจากนั้นคือธนาคารกลางแห่งต่างๆพยายามต่อสู้กับความเสี่ยงที่เกิดขึ้น
ค่าเงินเยนแข็งค่าขึ้นจากการลดความเสี่ยงของนักลงทุน ขณะที่ค่าเงินยูโรแข็งค่าขึ้นจากค่าผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯปรับตัวลดลงและกลายเป็นสินทรัพย์ปลอดภัยนับตั้งแต่เดือน ส.ค. เป็นต้นมา เราคาดว่าจะยังไม่เห็นสัญญาณที่ดีขึ้นของจีนในเร็วๆนี้และธีมของธนาคารกลางต่อสู้กับความเสี่ยงจะยังคงดำรงอยู่ต่อไป
ราคาน้ำมันดิบปรับตัวสูงขึ้นเล็กน้อยในวันนี้ ในช่วงการซื้อขายของตลาดเอเชีย หลังจากที่ปรับตัวลดลงกว่า 5.5% เมื่อวานนี้ หลังตัวเลขสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐฯโดยสถาบันปิโตรเลียมอเมริกัน(American Petroleum Institute: API) ปรับตัวสูงขึ้นในสัปดาห์ที่ผ่านมากว่า 3.837 ล้านบาร์เรล ประกอบกับอิหร่านวางแผนที่เพิ่มการส่งออกน้ำมันในเดือน มี.ค. นี้
ในวันนี้จะมีการเผยตัวเลขสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐฯโดย หน่วยงานสารสนเทศพลังงานสหรัฐฯ(Energy Information Agency: EIA)
Morgan Stanley ระบุในรายงานวันนี้ว่า การปรับสมดุลระหว่างอุปสงค์
และอุปทานน้ำมัน จะยังไม่เกิดขึ้นจนกว่าจะถึ
งกลางปี 2017 โดยให้เหตุผลว่า แม้จะมีการปรับลดค่าใช้จ่ายเพื่
อการลงทุน แต่ยังไม่เพียงพอที่จะปรับสมดุ
ลให้กับตลาดได้