ทองคำเคลื่อนไหวแถวระดับสูงสุดในรอบ 3 เดือน และยังทรงตัวได้เหนือ 1,140 เหรียญในตลาดเอเชีย เนื่องจากตลาดทองคำยังคงมีแรงกดดันจากการซื้อขายในตลาดหุ้นเอเชีย ขณะที่ค่าเงินดอลลาร์กลับมาแข็งค่าขึ้นเล็กน้อยเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักส่วนใหญ่ จึงจำกัดการปรับตัวขึ้นของทองคำเล็กน้อย
ทั้งนี้ ทุกสายตายังคงจับจ้องไปยังข้อมูลการจ้างงานของสหรัฐฯในคืนวันศุกร์ เพราะจะเป็นปัจจัยที่สะท้อนถึงแนวทางการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟด รวมทั้งเป็นปัจจัยหลักที่ส่งผลกระทบต่อการเคลื่อนไหวของค่าเงินดอลลาร์
ความไม่แน่นอนของช่วงเวลาในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งต่อไปของเฟด ทำให้นักลงทุนหลีกหนีสินทรัพย์เสี่ยงและทำให้ราคาทองคำปรับตัวสูงขึ้นในฐานะ Safe-Haven
โปรแกรม FedWatch จาก CME Group แสดงให้เห็นว่า มีโอกาสเพียง 14% ที่เฟดจะทำการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนมีนาคม ขณะที่ 18% คาดว่าจะเกิดขึ้นในเดือนเมษายน และอีก 24% คาดว่าจะเกิดขึ้นในเดือนมิถุนายน
BMI Research บริษัทย่อยของ Fitch Rating ระบุว่า ในปีนี้ราคาทองคำมีความเป็นไปได้มากขึ้นว่าจะเคลื่อนตัวระหว่าง 1,000 – 1,200 เหรียญ จากเดิมที่คาดว่าจะปรับตัวลงต่ำกว่า 1,000 เหรียญ
นักวิเคราะห์จาก FXStreet กล่าวว่า ภาพทางราคาทองคำจะมีแนวต้านสำคัญที่ระดับ 1,147.6 เหรียญ ซึ่งเป็นระดับสูงสุดเมื่อวันที่ 30 ตุลาคมที่ผ่านมา ขณะที่แนวต้านสำคัญทางจิตวิทยาจะอยู่บริเวณ 1,150 เหรียญ ด้านแนวรับด้านล่างของทองคำจะอยู่บริเวณ 1,137.83 / 1,136.29 เหรียญ ซึ่งเป็นระดับเส้นค่าเฉลี่ยรายชั่วโมง 20-SMA ซึ่งหากหลุดลงมามีโอกาสกลับลงไป 1,131.5 / 1,130 เหรียญ ซึ่งเป็นระดับเส้นค่าเฉลี่ย 5-DM